posttoday

จุดความร้อนไทยพุ่งกว่า 1.4 พันจุด-ค่าฝุ่นPM2.5 ภาคเหนือหนักมาก

31 มีนาคม 2567

"GISTDA" เผยจุดความร้อนไทยแตะ 1.4 พันจุด พบมากในป่าอนุรักษ์ ส่วนเพื่อนบ้านพม่าพุ่งทะลุกว่า 5 พันจุด ขณะที่ปัญหาค่าฝุ่น 11 จ.ภาคเหนือ PM2.5 ค่าสูงเกินเกณฑ์กระทบต่อสุขภาพ แม่ฮ่องสอนพุ่งกว่า 200 ไมโครกรัม


กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) และจากดาวเทียมอีกหลายดวง เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2567 ไทยพบจุดความร้อนทั้งประเทศ 1,476 จุด ข้อมูลจากดาวเทียมยังระบุอีกว่าจุดความร้อนที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่พบในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 717 จุด ตามด้วยพื้นที่ป่าสงวน 541 จุด พื้นที่เกษตร 95 จุด แหล่งชุมชนและอื่นๆ 64 จุด พื้นที่ สปก. 53 จุด รวมถึงพื้นที่ริมทางหลวง 6 จุด สำหรับจังหวัดที่พบจำนวนจุดความร้อนมากที่สุด คือ #แม่ฮ่องสอน 504 จุด


ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านพบจุดความร้อนต่อเนื่อง โดยสูงสุดวานนี้อยู่ที่พม่า 5,184 จุด ตามด้วยไทย 1,476 จุด ลาว 1,057 จุด เวียดนาม 310 จุด กัมพูชา 274 จุด และมาเลเชีย 98 จุด 

 

อย่างไรก็ตาม รายละเอียดข้อมูลเฉพาะพื้นที่ท่านสามารถติดตามจากหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโดยตรง GISTDA ยังคงติดตาม วิเคราะห์ และรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่

 

ขณะที่ การเกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมง ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมผ่านแอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” เมื่อเวลา 08.00 น. ของวันที่ 31 มี.ค.67 พบ 11 จังหวัดทางภาคเหนือ มีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับสีแดง ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ แม่ฮ่องสอน 204.1 ไมโครกรัม เชียงใหม่ 154.8 ไมโครกรัม เชียงราย 149.6 ไมโครกรัม ลำพูน 145.5 ไมโครกรัม พะเยา 143.2 ไมโครกรัม ลำปาง 131.1 ไมโครกรัม แพร่ 109.8 ไมโครกรัม ตาก 106.4 ไมโครกรัม และน่าน 105.2 ไมโครกรัม  อุตรดิตถ์ 90.4 ไมโครกรัม สุโขทัย 77.8 ไมโครกรัม ในขณะที่อีก 19 จังหวัดมีค่าเกินมาตรฐานในระดับสีส้ม ที่เริ่มมีผลต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ กระจายโซนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานครเช้าวันนี้พบว่าทุกเขตคุณภาพอากาศดีมาก 

 

แอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” ยังคาดการณ์ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในอีก 3 ชั่วโมงข้างหน้า พบว่าหลายพื้นที่จะมีค่าคุณภาพอากาศที่ยังคงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะโซนภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  ทั้งนี้ ข้อมูลบนแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” มีการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมร่วมกับ AI (Artificial intelligence) ในการวิเคราะห์ค่าฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมงในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ร่วมกับการใช้ข้อมูลการตรวจวัด PM 2.5 จากกรมควบคุมมลพิษ, ข้อมูลสภาพอากาศ จากกรมอุตุนิยมวิทยา รวมถึงข้อมูลของแหล่งกำเนิดฝุ่น เช่น จุดความร้อน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก มานำเสนอให้ในรูปแบบข้อมูลตัวเลขและค่าสีในระดับต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น

 

ประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมาโดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ทั้งนี้ ท่านสามารถติดตามข้อมูล PM2.5 แบบราย ชั่วโมงเพิ่มเติมผ่านแอปพลิเคชัน "เช็คฝุ่น"