posttoday

นายกฯ หนุนบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น

21 กุมภาพันธ์ 2564

นายกฯ หนุนบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น พร้อมดันอุตสาหกรรมในกลุ่ม Bio-Circular-Green (BCG Model) และการแพทย์ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (โฆษกรัฐบาล) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานล่าสุดที่ผ่านมา ได้อนุมัติมาตรการส่งเสริมการลงทุนให้บริษัทที่ได้รับการส่งเสริมจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (MAI) เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยเข้าถึงแหล่งเงินทุน รวมทั้งยังจะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับตลาดทุนและระบบเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการที่เข้าเงื่อนไขยังได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติมอีกร้อยละ 100 ของเงินทุน ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน โดยการลงทุนในปี 2563 ที่ผ่านมา มีคำขอรับการส่งเสริมการลงทุน จำนวน 1,717 โครงการ มูลค่าลงทุนรวม 481,150 ล้านบาท โดยกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายซึ่งเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจ มีมูลค่าลงทุนทั้งสิ้น 230,740 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 48 ของมูลค่าการขอรับการส่งเสริมทั้งสิ้น โดย 5 อันดับแรก ได้แก่

1) เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ มูลค่าลงทุน 50,300 ล้านบาท

2) การเกษตรและแปรรูปอาหาร 41,140 ล้านบาท

3) ยานยนต์และชิ้นส่วน 37,780 ล้านบาท

4) ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ 36,020 ล้านบาท

5) เทคโนโลยีชีวภาพ 30,060 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มอุตสาหกรรมการแพทย์ที่มีคำขอรับการส่งเสริมในอัตราเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมีจำนวน 83 โครงการ เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ร้อยละ 177 ขณะที่มูลค่าลงทุนรวม 22,290 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 165ด้านการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) มีโครงการยื่นขอรับการส่งเสริม จำนวน 907 โครงการ มูลค่าลงทุน 213,162 ล้านบาท โดยประเทศญี่ปุ่นยื่นขอรับการส่งเสริมมากที่สุด จำนวน 211 โครงการ มูลค่าลงทุน 75,946 ล้านบาท ตามด้วยประเทศจีน มูลค่าลงทุน 31,465 ล้านบาท และสหรัฐฯ มูลค่าลงทุน 24,555 ล้านบาท

ขณะที่คำขอรับการส่งเสริมในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มีจำนวน 453 โครงการ มูลค่าลงทุนรวม 208,720 ล้านบาท ส่วนใหญ่ลงทุนในกลุ่มสาธารณูปโภค บริการพื้นฐานและการขนส่ง เป็นต้น ส่วนคำขอรับการส่งเสริมในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน (SEZ) มีจำนวน 17 โครงการ มูลค่าลงทุน 12,340 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 423 ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่นักลงทุนไทยมีศักยภาพ เช่น การผลิตถุงมือทางการแพทย์ และการผลิตอาหาร เป็นต้น

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบแนวทางการส่งเสริมการลงทุนในปี 2564 โดยเน้นขับเคลื่อนอุตสาหกรรมในกลุ่ม Bio-Circular-Green (BCG Model) การแพทย์ อุตสาหกรรมที่ใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อการปรับโครงสร้างของภาคการผลิตและบริการให้มีมูลค่าสูงขึ้น ทั้งยังยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศและส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมการผลิตและบริการหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายด้วย