posttoday

บล.โกลเบล็ก ระบุหุ้นไทยลงต่อ หลังประกาศปิดกทม.

24 มีนาคม 2563

“โกลเบล็ก” มองหุ้นไทยผวาโควิด-19ต่อหลัง Lockdown กทม.

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวลงต่อ หลังกรุงเทพฯ และปริมณฑล ประกาศ Lockdown ส่งผลให้ประชาชนที่ไม่มีงานทำเดินทางกลับภูมิลำเนา ซึ่งอาจให้เกิดการแพร่เชื้อในต่างจังหวัด ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อ Covid-19 ยังเพิ่มขึ้น ประกอบกับการรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และเสียชีวิตในโซนยุโรปและสหรัฐอเมริกาเร่งตัวขึ้นเช่นกัน และยังมีรายงานผู้ติดเชื้อรายแรกในประเทศต่าง ๆ ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามมาตรการเยียวยาผลกระทบโควิด-19 ของสหรัฐฯ ที่อาจจะออกมาล่าช้า ส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มได้รับผลกระทบรุนแรงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยนักเศรษฐศาสตร์จากมอร์แกน สแตนลีย์ คาดว่า DP ของสหรัฐในช่วง Q2/63 อาจร่วงลงได้ถึง 30.1%ขณะที่ประธานเฟดเซนต์หลุยส์เตือนว่าอัตราว่างงานสหรัฐอาจพุ่งแตะ 30% ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่แกว่งตัวผันผวนยังคงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานไปด้วย จึงให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนี 970-1,100 จุด

นอกจากนี้ยังคงต้องจับตาอย่างใกล้ชิดสำหรับความเคลื่อนไหวต่างๆ ทั้งในประเทศ โดยในวันที่ 24 มี.ค.นี้จะมีการประชุมครม.คาดจะพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 ของไทย

“ตอนนี้ต้องยอมรับว่านักลงทุนแถบไม่ได้มองปัจจัยต่างๆ ที่เห็นว่าเป็นเรื่องบวกเลย อาทิ ค่าเงินบาทที่อ่อนลงมาจะส่งผลดีต่อการส่งออกที่พลิกขยายตัว 1.51% ในเดือนก.พ. 2563 เมื่อหักการส่งออกทองคำ น้ำมัน และอาวุธออกแล้วก็ตาม และล่าสุด กนง. งัดไม้ตายลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มีผล 23 มี.ค.ที่ผ่านมาเพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจโดยรวมจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาตรการเสริมสภาพคล่องตลาดตราสารหนี้และจัดตั้งกองทุนเสริมสภาพคล่องการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ (BSF) สร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ และกระทรวงการคลังจะเตรียมเสนอมาตรการระยะ 2 ดูแลประชาชนที่ได้รับกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าสู่การพิจารณาของครม.ในวันนี้ ไม่ได้สร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุนได้ต่างปรับลดสถานะ เพื่อถือเงินสดไว้เป็นหลัก" นางสาววิลาสินี กล่าว

นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ราคาทองคำในสัปดาห์นี้ถูกกดดันจากแรงขายในทุกสินทรัพย์เนื่องจากนักลงทุนต้องการถือเงินสดในช่วงเกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจ แม้ว่าเฟดจะมีการประกาศ QE ออกมาอย่างต่อเนื่อง และปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงจนเหลือ 0% นอกจากนี้เฟดได้ประกาศทำข้อตกลงสว็อปกับธนาคารกลางประเทศต่างๆ ทั่วโลกเพื่อเพิ่มสภาพคล่องดอลลาร์ นอกจากนี้กองทุน SPDR เริ่มทยอยขายต่อเนื่องกว่า 23 ตันในสัปดาห์ก่อนเป็นปัจจัยกดดันต่อราคาทองคำ จึงแนะนำกลยุทธ์ “ลงซื้อขึ้นขาย” ให้กรอบการเคลื่อนไหวราคาทองคำ 1,560-1,607 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์

ข่าวล่าสุด

'นิวยอร์ก' คุมโซเชียล บังคับขึ้นคำเตือนอันตรายต่อสุขภาพจิตเยาวชน