posttoday

เปิดแผนกู้เงินชดเชยขาดดุลเพิ่ม1.2แสนล้านบาท

25 กุมภาพันธ์ 2564

ครม.เห็นชอบกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลปี 2564 อีก 1.2 แสนล้านบาท

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (โฆษกรัฐบาล) เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2564 ครั้งที่ 1

โดย ครม. มีมติอนุมัติการปรับปรุงแผนการก่อหนี้ใหม่ เป็น 1,539,832.78 ล้านบาท จากเดิม 1,465,438.61 ล้านบาท เป็นการปรับเพิ่มขึ้นสุทธิ 74,394.17 ล้านบาท (จากแผนการก่อหนี้ใหม่ของรัฐบาลจำนวน 66,687.92 ล้านบาท และแผนการก่อหนี้ใหม่ของรัฐวิสาหกิจ (หนี้ภายในประเทศ) จำนวน 7,706.25 ล้านบาท)

การปรับปรุงแผนการบริหารหนี้เดิม ที่ปรับเพิ่มขึ้นสุทธิ 124,534.37 ล้านบาท จากเดิม 1,279,446.80 ล้านบาท เป็น 1,403,981.17 ล้านบาท

การปรับปรุงแผนการชำระหนี้ ที่ปรับเพิ่มขึ้นสุทธิ 505.88 ล้านบาท จากเดิม 387,354.84 ล้านบาท เป็น 387,860.72 ล้านบาท

โดยสาระสำคัญของการปรับแผนฯ ได้แก่

1. การกู้เงินเพื่อดำเนินแผนงานหรือโครงการภายใต้พระราชกำหนด โดยให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 พ.ศ. 2563 (พระราชกำหนดกู้เงินโควิด-19) จำนวน 76,239.00 ล้านบาท

2. การปรับเพิ่มวงเงินปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณฯ จำนวน 120,000 ล้านบาท

3. การกู้เงินเพื่อสนับสนุนการลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานของหน่วยงานภาครัฐและโครงการพัฒนาของรัฐวิสาหกิจ เช่น

• โครงการระบบขนส่งมวลชนทางรางในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ช่วงบางซื่อ - รังสิต ของการรถไฟแห่งประเทศไทย โครงการขยายระบบไฟฟ้า ระยะที่ 12 ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นต้น

• โครงการพัฒนาที่จะเสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรี จำนวน 18 โครงการหรือรายการ เช่น โครงการปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้าบริเวณภาคตะวันตกและภาคใต้เพื่อเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้า โครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางของการยางแห่งประเทศไทย เป็นต้น

• การชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ของรัฐวิสาหกิจ 2 แห่ง ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และสำนักงานกองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายจำนวน 441.87 ล้านบาท

ทั้งนี้ การปรับปรุงแผนบริหารหนี้สาธารณะฯ ประจำปีงบประมาณ 2564 ครั้งที่ 1 อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ พระราชกำหนดกู้เงินโควิด-19 พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 พระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยประมาณการณ์ระดับหนี้สาธารณะต่อจีดีพี ณ สิ้นเดือนกันยายน 2564 จะอยู่ที่ร้อยละ 56.74 ซึ่งยังอยู่ภายใต้สัดส่วนไม่เกินร้อยละ 60 ตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐกำหนด ซึ่งที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีได้ติดตามเบิกจ่ายงบประมาณโดยเฉพาะโครงการลงทุน ตามแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสังคมภายใต้พระราชกำหนดกู้เงินโควิด-19 รวมทั้งเตรียมความพร้อมจัดหาแหล่งเงินให้เพียงพอทั้งในภาวะปกติ และภายใต้สถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อให้การดำเนินมาตรการของภาครัฐมีความต่อเนื่อง เพียงพอและทันการณ์