"อุตตม" ยกเลิกประชุมอุ้มเอสเอ็มอี

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า นายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง ได้สั่งยกเลิกการประชุมเพื่อเตรียมมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งเป็นการประชุมร่วมกับผู้บริหารกระทรวงการคลัง, สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.), สมาคมธนาคารไทย และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ อย่างกระทันหัน ก่อนหน้าการประชุมเพียง 15 นาที หลังจากที่นายอุตตม 1 ใน 4 กุมาร ได้แถลงลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)

นอกจากนี้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ในวันนี้ (10 ก.ค.) ที่จะมีการหารือในวาระสำคัญเรื่องการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยเฉพาะการเห็นชอบการจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (คนตัวเล็ก) วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วงเงิน 5 แสนล้านบาท และซอฟท์โลนของธนาคารออมสิน วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท มีปัญหาผู้ประกอบการคนตัวเล็กเข้าไม่ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ได้สั่งยกเลิกการประชุมเช่นกัน

นายสมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง กล่าวว่า การลาออกจากพรรค พปชร. ของ 4 กุมาร ไม่มีกระทบเศรษฐกิจ เพราะยังทำงานในตำแหน่งหน้าที่รัฐมนตรี ซึ่งตอนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีบารมี ที่ยังอยากเก็บ 4 กุมารไว้ทำงานเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจต่อไป อย่างน้อยในช่วงที่มีการพิจารณางบประมาณ 2564 ให้เสร็จเรียบร้อยเสียก่อน

"ถ้าในภาวะปกติ การเปลี่ยนหัวหน้าพรรค พปชร. ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีต้องถูกกดดันให้เปลี่ยนแปลงคณะรัฐมนตรีแล้ว แต่เนื่องจากนายกฯ มีบารมี มีอำนาจของต่อรองในพรรค พปชร. เพราะการเปลี่ยนม้าศึกเร็วเกินไป จะทำให้สร้างความไม่มั่นใจ แต่แรงกดดันหลังงบผ่านไปแล้วจะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงสูงขึ้น" นายสมชาย กล่าว

นายสมชาย กล่าวว่า การปรับ ครม. ทำได้ไม่ง่าย ที่จะหาคนมาแทนทำให้เกิดความเชื่อมั่น และใครก็ตามที่มาเป็นรัฐมนตรี ก็ต้องเดินตามที่คนปัจจบันดำเนินการอยู่ ซึ่งเป็นระยะที่ 2 ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ที่ต้องดูแลการระบาดของไวรัส-19 และการกระตุ้นเศรษฐกิจไปพร้อมกัน จากระยะที่ 1 เป็นการแก้ไขปัญหาการระบาดของไวรัสโดยให้หมอเป็นผู้นำการแก้ไขปัญหาไปแล้ว