posttoday

งัดพ.ร.ก.กู้เงินกว่า2แสนล้าน พยุงศก.เฟส3

27 มีนาคม 2563

"สมคิด" ยอมรับวิกฤติโควิด-19 สาหัสกว่าต้มยำกุ้ง สั่งคลังออก พ.ร.ก.กู้เงินกว่า 2 แสนล้าน แย้มไอเอ็มเอฟพร้อมช่วยไทย

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมด่วนผู้บริหารระดับสูงคลัง สถาบันการเงิน และตลาดทุน และเปิดเผยว่า ได้หารือมาตรการชุดที่ 3 เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 (COVID-19)ที่ตอนนี้เศรษฐกิจไทยหยุดหมด คนถูกจำกัดให้อยู่ที่บ้านเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด

ดังนั้น รัฐบาลต้องพยายามให้โรคระบาดนี้จบให้เร็วที่สุด เพื่อให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเป็นไปได้เร็ว ยิ่งช้าเท่าไหร่ ก็ยิ่งยากขึ้นเท่านั้น เพราะเศรษฐกิจถ้าถูกกระทบนานๆ จะยิ่งเสื่อมลง

นายสมคิด กล่าวว่า ให้คลังมาตรการชุด 3 ซึ่งเป็นมาตรการชุดใหญ่ เน้นการจ้างงานสำหรับคนที่เดินทางกลับบ้านให้มีรายได้ ให้ประคับประคองเศรษฐกิจในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้าในขณะที่ภาวะอื่นๆ หยุดนิ่ง ซึ่งจะต้องมีการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงิน มากกว่า 2 แสนล้านบาท เพื่อมาใช้ในมาตรการชุดที่ 3 เนื่องจากการโอนงบประมาณ 2563 มาใช้ไม่ได้ นอกจากนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ก็พร้อมช่วยเหลือไทยและทุกประเทศที่ได้รับผลกระทบ

"พ.ร.ก.กู้เงินขึ้นอยู่กับความจำเป็น ทางคลังเตรียมตัวเป็นเดือน รอดูความจำเป็น ระยะเวลา ถ้าต้องทำก็สามารถออก พรก เลย ทุกคนเข้าใจ ไม่น่ามีอะไร วงเงิน 2 แสนล้านไม่มีปัญหา ฐานะของคลังแข็งแรง" นายสมคิด กล่าว

นายสมคิด กล่าวว่า การที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้ติดลบ 5.3% เป็นเรื่องปกติ ตอนวิกฤตต้มยำกุ้งเศรษฐกิจไทยติดลบกว่า 10% ซึ่งตอนนั้นคนที่มีสตางค์เจ็บตัว คนจนไม่เจ็บตัวเพราะเกษตรดี แต่ครั้งนี้เจ็บตัวทั้งคนจนและคนรวย ครั้งนี้หนักกว่าต้มยำกุ้ง ขอให้ทำการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้ดี ไม่ต้องสนใจเศรษฐกิจปีนี้จะลบเท่าไร เพราะมันติดลบทั้งโลก

นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวว่า การออก พ.ร.ก. กู้เงินจำนวนขึ้นอยู่กับความจำเป็น จำนวนเงินที่ต้องการส่งให้ประชาชนโดยตรง ดูแลผู้ประกอบการ เพื่อให้เศรษฐกิจกลับมาอยู่ในความเข้มแข็งเพียงพอที่จะเดินหน้า เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมชัดเจนจะเห็นตัวเลขกู้เงินจาก พ.ร.ก. ว่าเป็นจำนวนเท่าไร และจะเห็นว่าเอาไปใช้ทำอะไรในช่วงนี้