posttoday

ตั้งเป้าขึ้นที่ 5 บลจ. บริหารสินทรัพย์1ล้านล้านบาท

22 กุมภาพันธ์ 2564

บลจ.ธนชาต และ บลจ.ทหารไทย ตั้งเป้าขึ้นอันดับ 5 มูลค่าบริหารสินทรัพย์ 1 ล้านล้านบาท หลังควบรวม

นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด (TMBAM Eastspring)และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด (Thanachart Fund Eastspring) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) แตะ 1 ล้านล้านบาท หลังทั้งสองบริษัทควบรวมทั้งสองธุรกิจเรียบร้อยแล้วภายในระยะเวลา 4 ปีนับจากนี้ (ปี2568) และตั้งเป้าหมายครองตำแหน่งการลงทุนในตลาดต่างประเทศของไทย โดยอยากให้อีสท์สปริงเป็นบลจ.ที่นักลงทุนคิดถึงเป็นอันดับแรก ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะควบรวมแล้วสำเร็จประมาณเดือนก.ค.2564 นี้ ขณะนี้ขึ้นอยู่กับกฎหมายและการพิจารณาอนุมัติของหน่วยงานด้านกำกับของไทยเพื่อให้เป็นธุรกิจเดียว ภายใต้ชื่อ "อีสท์สปริง ประเทศไทย"

ทั้งนี้ AUM ณ สิ้นเดือนม.ค.2564 ของบลจ.ทหารไทยฯ ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 220,811 ล้านบาท ส่วนบลจ.ธนชาตฯอยู่ที่ระดับ 184,289 ล้านบาท หากควบรวมกันเป็นบริษัทเดียวกัน AUM จะปรับตัวแตะระดับกว่า 400,000 ล้านบาท ซึ่งในปัจจุบันหากรวม AUM ทั้งสองบริษัทอยู่ในระดับสูงถึง 430,000 ล้านบาท ผลักดันให้ธุรกิจขยับขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 5 ของอุตสาหกรรม โดยมีมาร์เก็ตแชร์ขยับเพิ่มมาอยู่ที่ 8%

"บลจ.ทหารไทยมีความเชี่ยวชาญกองทุนประเภทพาสซีฟฟันด์ (สร้างผลตอบแทนชนะค่ามาตรฐาน หรือ Benchmark ) และเป็นบลจ.แรกที่รุกการลงทุนในตลาดต่างประเทศ และได้รับการตอบรับดีจากนักลงทุน ขณะที่บลจ.ธนชาตฯ มีความเชี่ยวชาญการลงทุนแบบแวลู อินเวสเตอร์ หรือการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ทำให้ผลการดำเนินงานกองทุนมีความมั่นคงและมีปันผล หลังจากรวมกันเป็นหนึ่งเดียวจะเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจและนักลงทุนให้เติบโตต่อเนื่องได้" นายอดิศร กล่าว

สำหรับช่วงปีนี้บริษัทยังคงมีแผนการออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยนำ4ธีมการลงทุนหลัก ได้แก่ 1.Disruptive Innovation 2.Technology 3.Asian expertt และ 4.Sustainable โดยในช่วงเดือนมี.ค.2564 บริษัทเตรียมออกกองทุนใหม่อีก4กองทุน ภายใต้กองทุนหลัก ARK Investment Management LLC.ซึ่งโดดเด่นในเรื่องการจัด ETF แบบ Active

นายอดิศร กล่าวว่า อุตสาหกรรมกองทุนรวมช่วงปี 2563 มีเงินลงทุนไหลออกจากกองทุนรวมกว่า 400,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้ประมาณ 200,000 ล้านบาทมาจาก4กองทุนของบลจ.ทหารไทย ซึ่งเงินที่ไหลออกไปส่วนใหญ่ไปพักเงินอยู่ในตลาดเงินฝากเป็น ส่วน 4 กองทุนที่ปิดตัวไปนั้น บริษัทได้ทยอยขายสินทรัพย์ลงทุนและคืนเงินลงทุนให้กับผู้ถือหุ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับสินทรัพย์ลงทุนที่อยู่ระหว่างขายนั้น ไม่มีสินทรัพย์ใดเลยผิดนัดชำระหนี้ มีการจ่ายดอกเบี้ยคืนอย่างสม่ำเสมอ เป็นการการันตีถึงความสามารถในการเลือกสินทรัพย์ลงทุน ส่งผลให้นักลงทุนหันกบับมาลงทุนกับทางบลจ.ทหารไทยเหมือนเดิม