posttoday

เปิดโพยและวิธีการเลือกซื้อ LTF 2019

13 ธันวาคม 2562

คอลัมน์ Wealth Design โดย...ธัญญา โลหะนันทชัย ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยการลงทุน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด

คอลัมน์ Wealth Design โดย...ธัญญา โลหะนันทชัย ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยการลงทุน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด

คุณเป็นผู้เสียภาษีเงินได้หรือเปล่าครับ? ตอนนี้ใกล้สิ้นปีแล้วนะครับ ได้ซื้อกองทุน LTF กันบ้างหรือยังเอ่ย? เราลองมามองหากองทุนเพื่อลดหย่อนภาษีกันดีไหมครับ เพราะนอกจากจะช่วยบรรเทาภาระภาษีได้แล้วเราก็ยังได้มีเงินออมเงินลงทุนอีกด้วย? นอกจากนั้นเหมือนตอนนี้ตลาดจะเป็นใจปรับตัวลงมาให้เราได้เข้าซื้อแล้วนะครับ? แล้วเราจะซื้อ LTF กองไหนดี?

ใช่แล้วจะซื้อกองไหนดี? สำหรับการลดหย่อนภาษี LTF ทุกกองทุนสามารถลดหย่อนภาษีได้เหมือนกันหมดครับ แต่ทุกกองทุนนั้นไม่ได้ให้ผลลัพธ์การลงทุนที่เหมือนกัน เพราะนโยบายการลงทุน, การคัดเลือกหลักทรัพย์ลงทุน, ทีมงาน ฯลฯ ที่ต่างกัน และหากเราย้อนไปดูสถิติผลตอบแทนกองทุนรวม LTF กลุ่มเดียวกันที่ได้ที่หนึ่งกับที่สุดท้ายนั้นต้องบอกว่าต่างกันมากเลยทีเดียวครับ ดังนั้นวันนี้เราจะมาดูกันว่าจะมีวิธีการเลือกซื้อกองทุนอย่างไร และมีกองทุนอะไรที่น่าสนใจ

ในการที่จะเลือกซื้อกองทุน สิ่งแรกเลยที่ต้องคำนึงถึงก่อนซื้อ LTF ก็คือวัตถุประสงค์ของการลงทุนและความสามารถในการรับความเสี่ยงการลงทุน หากท่านไม่ได้มีเงินได้หรือมีภาระภาษีก็ควรเลือกลงทุนในกองทุนปกติไม่ควรลงทุนในกองทุน LTF อีกประการหนึ่งก็คือท่านยอมรับความเสี่ยงในการลงทุนได้หรือไม่? เพราะ LTF หลักๆจะลงทุนในหุ้นไทยซึ่งมีความผันผวนของราคาเป็นเรื่องปกติ หากท่านไม่สามารถยอมรับความเสี่ยงการลงทุนได้ อยากให้กลับไปตั้งหลักให้ดีก่อนครับ ศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนแล้วค่อยลงทุนอีกครั้ง ถ้าหากผ่าน check list สองข้อบนแล้วเราก็มาถึงขั้นตอนการคัดเลือกกองทุนที่น่าสนใจกันครับ

สำหรับการพิจารณาเลือกกองทุนรวมที่ดี เราแบ่งเกณฑ์การพิจารณาเป็นสามกลุ่มหลักๆคือ

1. ผลการดำเนินงานย้อนหลัง: จะเป็นอะไรที่ตรงไปตรงมาซึ่งเราสามารถดูได้จากสถิติข้อมูลย้อนหลังต่างๆ ของกองทุนต่างๆ และเกณฑ์มาตรฐาน (Benchmark) แล้วนำมาเปรียบเทียบกัน เช่น ผลตอบแทน, ความเสี่ยง, ผลขาดทุนสูงที่สุด (Maximum Drawdown), Ratio ต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่าเราต้องเลือกกองทุนรวมที่มีผลตอบแทนที่ดีและมีความเสี่ยงที่น้อยกว่าเพื่อนๆ และอีกประการหนึ่งคือเราควรเลือกกองทุนที่สามารถทำผลการดำเนินการได้ดีอย่างสม่ำเสมอเมื่อเทียบกับเพื่อนๆในกลุ่ม

2. ความสามารถในการสร้างผลตอบแทนในอนาคต: ข้อนี้จะเป็นการศึกษาสไตล์วิธีการลงทุนของกองทุนว่าเป็นอย่างไร ศึกษาขั้นตอนการทำงาน เช่น วิธีการเลือกหลักทรัพย์แต่ละตัวเข้ามาลงทุนใน portfolio มีหลักการอย่างไร ขั้นตอนในการติดตามผลการดำเนินงาน ซึ่งในข้อนี้ผู้อ่านอาจจะต้องใช้วิธีการสอบถามหรือขอดู Presentation ของกองทุนจากบลจ.ต่าง ๆ เพื่อวิเคราะห์ว่ากระบวนการดังกล่าวนั้นจะสามารถช่วยสร้างผลตอบแทนที่ดีในอนาคตได้หรือไม่

3. เกณฑ์การพิจารณาอื่นๆ: ผู้อ่านอาจจะวิเคราะห์ข้อมูลอื่น ๆ ประกอบด้วย เช่นขนาดกองทุนที่ไม่ใหญ่จนเกินไปก็อาจจะเพิ่มความคล่องตัวให้กับผู้จัดการกองทุนบริหารพอร์ตได้ง่ายขึ้น ค่าธรรมเนียมในการบริหารกองทุนที่ไม่สูงจนเกินไป ฯลฯ

อย่างไรก็ดีตอนนี้เวลาที่เหลือสำหรับการซื้อ LTF เหลือแค่เดือน ธ.ค. เป็นเดือนสุดท้ายแล้ว ผู้เขียนจึงเลือกหยิบกองทุนรวม LTF ที่น่าสนใจมาให้พิจารณากัน

LHSMART-LTF เหมาะสำหรับผู้ที่อยากกระจายความเสี่ยงออกจากหุ้น โดยกองทุนนี้ จะเน้นลงทุนหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีแนวโน้มจ่ายเงินปันผลสูงไม่น้อยกว่า 65% และส่วนที่เหลือจะลงทุนในหน่วยลงทุนอสังหาฯ (REITs และ Infrastructure Fund) หรือตราสารหนี้ เป็นการผสานข้อดีคาดหวังการเติบโตในระยะยาวจากหุ้นและความมั่นคงของการค่อยๆเติบโตและทยอยรับค่าเช่าจากอสังหาฯ กองทุนนี้มีการจ่ายปันผล

KSET50LTF เป็นกองทุน LTF ที่ลงทุนในกลุ่มหลักทรัพย์ตามดัชนี SET50 (Passive Fund) ข้อดีคือได้ลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ 50 ตัวอยู่ตลอดเวลาและค่าธรรมเนียมบริหารกองทุนต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลตอบแทนที่อ้างอิงไปกับดัชนี ไม่มีนโยบายการจ่ายเงินปันผล

K20SLTF เป็นกองทุนมุ่งเน้นการลงทุนหรือมีหุ้นน้อยตัว (High conviction) เพราะจะลงทุนในหุ้นเพียง 20 บริษัทที่ผ่านการคัดเลือกแบบ bottom-up ของทีมผู้จัดการกองทุนเท่านั้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้เงินต้นเติบโตสูงแต่ก็สามารถยอมรับความผันผวนได้สูงเช่นกัน กองทุนนี้มีการจ่ายปันผล

SCBLT2 เป็นกองทุนผสมผสานหลากหลายโมเดลการลงทุน เช่น พื้นฐาน (fundamental), thematic (top-down), quantitative, momentum ฯลฯ โดยกองทุนจะเน้นลงทุนในหุ้นที่ผ่านการคัดเลือกและต้องเป็นหุ้นขนาดใหญ่ประมาณ 35 – 45 ตัว ที่ผ่านมากองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง เหมาะกับผู้ที่ต้องการให้เงินต้นเติบโตสูงในระยะยาวและยอมรับความผันผวนได้ กองทุนไม่จ่ายปันผล

ผู้อ่านสามารถนำแนวทางดังกล่าวเบื้องต้นไปพิจารณาซื้อกองทุนรวมได้เอง ซึ่งผู้เขียนอยากให้ความสำคัญกับการรู้จักตัวเองก่อนว่า ตนเองว่ามีความจำเป็นต้องซื้อ LTF หรือไม่? ต้องซื้อเท่าใด? และสามารถยอมรับความเสี่ยงการลงทุนได้ขนาดไหน? แล้วจึงเลือกซื้อกองทุนที่สอดคล้องกับตนเอง หากสนใจลงทุน LTF กับ SCBS สามารถดาวน์โหลด Application Easy Invest เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและสามารถซื้อ LTF ได้ถึง 9 บลจ. ได้ทันที

คำเตือน

ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลกองทุนโดยเฉพาะนโยบายกองทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน ผลการดำเนินงานในอดีตและผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต สามารถขอรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บล.ไทยพาณิชย์