posttoday

สิริธนา หงษ์โสภณ มะเร็งก็หยุดการเขียนหนังสือไม่ได้

18 มีนาคม 2561

นั่นเป็นคำกล่าวถึงเจตนารมณ์อันแรงกล้าของเจ้าของนามปากกา “ทอม สิริ”

โดย อณุสรา ทองอุไร-จีรวัฒน์ กล้ากะชีวิต ภาพ   วิศิษฐ์ แถมเงิน

นั่นเป็นคำกล่าวถึงเจตนารมณ์อันแรงกล้าของเจ้าของนามปากกา “ทอม สิริ” นักเขียนนวนิยายแนวสืบสวนสอบสวน เจ้าของผลงานเขียนพ็อกเกตบุ๊กกว่า 30 เล่ม ที่เธอหันเหเข้าสู่เส้นทางนักเขียนหลังชีวิตวัยเกษียณเมื่อ 7-8 ปีที่ผ่านมา เธอย้ำหนักแน่น
อีกครั้งว่า “มะเร็งหยุดพี่ไม่ได้หรอก พี่จะเขียนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะไม่มีแรงเขียน”

บนเส้นทางการเป็นนักเขียนตลอดระยะเวลา 9 ปี หลังวัยเกษียณจากงานในวงการบันเทิง จากงานบริษัทโฆษณา แล้วมามุ่งมั่นกับผลงานที่ผ่านปลายปากกามาแล้วกว่า 34 เรื่อง ทุกอย่างดูเหมือนว่ากำลังไปได้สวยถ้าไม่เกิดอุปสรรคก้อนโตในช่วงปลายปี 2560 ที่ผ่านมา นั่นคือโรคร้ายอย่างมะเร็งเต้านม

แม้การเกิดขึ้นของโรคจะมีผลต่องานที่ทำ เพราะสุขภาพของเธออ่อนแอลงขณะที่เข้ารักษาตัวในการฉีดคีโม เข็มที่ 2-3 ที่อ่อนเพลียกินอะไรไม่ได้ แต่ด้วยรักและมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ผลงานในฐานะนักเขียน คำตอบนั้นจึงเป็นที่มาของการขึ้นต้นของประโยคดังกล่าวแล้วนั้น

สิริธนา หงษ์โสภณ มะเร็งก็หยุดการเขียนหนังสือไม่ได้

 

นางเอกยุคชีวิตรักนักศึกษาของศุภักษร

ทอม สิริ ชื่อนี้อาจเป็นที่รู้จักมักคุ้นกันดีในเหล่าบรรดานักอ่านที่สนใจงานเขียนประเภทนี้มาพอสมควร แต่อีกหลายคนอาจยังไม่รู้จัก โดยเฉพาะคนที่วัยไม่ถึง 30 ปี แต่ถ้าคุณอายุ 30 ปลายๆ ไปแล้ว ถ้าเอ่ยถึงชื่อ กอล์ฟ-สิริธนา  หงษ์โสภณ อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ที่ฝากฝีมือไว้มากมาย ตั้งแต่เป็นนางเอกของศุภักษรเมื่อสมัย 30 กว่าปีมาแล้ว ในเรื่องรักทะเล้น ที่มีพระนาง 3 คู่ และเธอเป็นนางเอกน้องเล็กคู่สุดท้าย ร่วมกับ อำภา ภูษิต และ หมอซ้ง-ทรงวิทย์ จิรโศภิน ถือว่าเป็นภาพยนตร์ชีวิตรักนักศึกษาที่โด่งดังมากๆ ในยุคนั้น

หลังจากนั้นเธอก็โลดแล่นอยู่ในวงการเบื้องหลัง วงการโฆษณา วงการเพลงอยู่มากมาย และเป็นผู้ประพันธ์บทเพลงอันเป็นตำนานอย่าง ปาฏิหาริย์ ของ กบ-ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ที่สร้างภาพจำให้หลายๆ คนได้คงไม่พ้นบทบาทของครูบี๋ จากภาพยนตร์เรื่องสตรีเหล็กทั้งสองภาค เมื่อปี 2543 ช่วงชีวิตที่ผ่านมามีโอกาสได้ชิมลางในสายงานต่างๆ ค่อนข้างหลากหลาย

สิริธนา หงษ์โสภณ มะเร็งก็หยุดการเขียนหนังสือไม่ได้

 

เขียนหนังสือหลังเกษียณ

แต่แล้วในวัย 50 กว่าๆ เธอก็เกษียณตัวเองจากงานโฆษณาและงานเบื้องหลังในวงการบันเทิง มามุ่งมั่นกับการเป็นนักเขียนแนวสืบสวนเป็นหลัก เพราะอยากรู้ว่าจะเขียนหนังสือพ็อกเกตบุ๊กเรื่องยาวๆ ได้ไหม “พี่ชอบอ่านหนังสือมากๆ ตั้งแต่เด็กๆ ชอบงานสืบสวนสอบสวน ซ่อนเงื่อน มีความคิดที่จะเขียนหนังสือ อยากเขียนนวนิยายเรื่องยาวมานานแล้ว แต่ไม่มีเวลา ไม่มีจังหวะที่ลงตัวสักที เพราะตอนสาวๆ งานมันก็เยอะ แพสชั่นก็ยังไม่แรงกล้ามากพอ จนกระทั่งวัย 50 กว่าแล้วอยากรีไทร์จากงานประจำ แล้วก็ไม่ได้อยากอยู่ว่างๆ ก็ถึงเวลาที่จะทำความฝันให้เป็นความจริงสักที ก็เริ่มลงมือจริงจังตอนวัย 54 ปี เป็นวัยที่พี่จบจากงานหนึ่งมาเริ่มอีกงานหนึ่ง ประตูบานหนึ่งปิด ประตูอีกบานหนึ่งก็จะเปิดมาเพื่อเราเสมอ” เธอกล่าวอย่างมีความสุข

ในวัยเกษียณที่หลายคนคิดจะปลดระวางที่จะพักผ่อน แต่เธอเกิดใหม่อีกครั้งในนามปากกา ทอม สิริ เขียนนวนิยายแนวสืบสวนสอบสวน หลังจากนั้นสักปีกว่า ก็มีอีก 2-3 นามปากกาตามมา คือ ลุงทอม สำหรับงานเขียนแนวระทึกขวัญเรื่องผีๆ ยายทอง ก็แนวผีๆ อำแดงกลีบ เป็นแนวอีโรติก ย้อนยุค และธมนตรา แนวโรแมนซ์สำหรับวัย 18+ เธอเล่าว่า ที่มีหลายๆ นามปากกาก็เพราะอยากจะลองเขียนหลายแนวๆ แต่ละนามปากกาก็ให้มีเอกลักษณ์ที่เฉพาะตัวลงไปเลย

เธอบอกว่า ตอนที่เขียนแรกๆ ก็ยากอยู่เหมือนกัน ตั้งหลักอยู่นาน จุดเริ่มต้นของการหันเหมาเป็นนักเขียนเกิดขึ้นขณะใช้ชีวิตอยู่บ้านยามว่างก็อ่านเขียนหนังสือทั่วไป กระทั่งไปเจอเว็บไซต์แห่งหนึ่งชื่อฟอร์ไรเตอร์ดอทคอม ที่เปรียบเสมือนครูด้านการเขียนอีกคน และเป็นผู้นำพาให้เข้าสู่วงการเขียนจนเกิดเป็น ทอม สิริ ขึ้นมา ประจวบกับเว็บไซต์จัดการแข่งขันการเขียนแบบแรลลี่ภายใน 3 เดือนขึ้นมา จึงมีโอกาสลงสมัครและเข้าร่วมแข่งขัน ผลที่ได้คืองานเขียนจบเป็นเรื่องเป็นราวภายในระยะเวลาอันสั้น เป็นความสนุกและท้าทาย รวมทั้งรู้สึกว่าเป็นงานที่เหมาะกับตนเอง ทำให้ในทุกๆ ครั้งที่มีการแข่งขันจะต้องมีนักเขียนนาม ทอม สิริ เข้าร่วมทุกครั้งไป

“เรื่องแรกตอนแข่งแรลลี่ ชื่อ คู่เข้มคดีคฤหาสน์ เป็นแนวสืบสวน ซึ่งยังไม่ได้ถูกตีพิมพ์ แต่ผ่านการพิจารณาจากสำนักพิมพ์มาบ้างแล้ว โดยใช้ตัวละครจากชุดนักสืบกานต์พิชชา ซึ่งชุดนี้มีทั้งหมด 6 เรื่องด้วยกัน พี่พิมพ์กับสำนักพิมพ์กรีนมาย เล่มแรกจะเป็น รักเล่ห์เสน่ห์แค้น ส่วนเล่มที่สองชื่อ ซ่อนรักลวงฆ่า ด้วยความที่ชอบอ่านนวนิยายแปล แนวสืบสวน ของ ฮาร์ลาน โคเบน บุคคลที่นับเป็นแรงบันดาลใจ หรืองานของคุณสุวิทย์ ขาวปลอด นักแปลที่มีผลงานการแปลมากมาย และ สตีเฟ่น คิง ผลงานต่างๆ เหล่านี้ล้วนแต่เป็นแนวที่ชอบเลยส่งผลมายังจุดยืนและความชัดเจนในงานเขียนของเรา นั่นคือแนวสืบสวน และแม้แนวสืบสวนจะเป็นทางถนัด แต่ขึ้นชื่อว่านักเขียนแล้วต้องลองให้หลากหลายแนวเพื่อพิสูจน์ความสามารถและค้นหาตัวตน ทอม สิริ จึงไม่ใช่นามปากกาเดียว เลยมีนามปากกาอื่นๆ อีก 4 นามปากกา”

จาก 5 นามปากกาที่แตกต่างกันออกไปจากนักเขียนเพียงคนเดียว ที่อยากลองทำในสิ่งใหม่เพื่อท้าทายความสามารถในขณะที่ทุกอย่างกำลังไปได้สวย เธอกำลังมีความสุขกับเส้นทางการทำงานใหม่ของเธอในฐานะนักเขียน แต่แล้วฝันร้ายก็ฟาดลงมากลางใจเมื่อเธอตรวจพบความผิดปกติที่เต้านม ลางร้ายเกิดขึ้นในใจทันที เธอรีบไปพบแพทย์และสิ่งที่กลัวก็เกิดขึ้นจริง เธอเป็นมะเร็งเต้านมระยะที่ 3 เมื่อ 5 เดือนที่ผ่านมา และตอนนี้ได้ให้คีโมไป 5 เข็มแล้ว ตัดเต้านมทิ้งไปแล้ว

สิริธนา หงษ์โสภณ มะเร็งก็หยุดการเขียนหนังสือไม่ได้

 

มะเร็งหยุดงานเขียนเธอไม่ได้

เธอเล่าว่า ตอนทำคีโมมันทรมานมาก ต้องให้คีโมทั้งหมด 16 ครั้ง ซึ่งช่วงทำคีโมใหม่ๆ จะค่อนข้างเหนื่อย ร่างกายจะดาวน์ลง ไม่มีแรงจะเขียนงานในช่วงนี้ ที่เสียดายคือยังมีเรื่องอยากจะเขียนงานอีกมากมาย “แค่กลัวว่าเวลาที่จะเขียนงานมันสั้นลง เนื่องจากมีตัวละครและเรื่องราวมากมายในหัวที่อยากจะถ่ายทอดออกมาเป็นตัวหนังสือ ด้วยตัวเลขของอายุที่ขยับขึ้นทุกวัน เวลาที่จะได้ทำงานตรงนี้นับวันยิ่งเหลือน้อย ก่อนหน้านี้พี่คิดว่าชีวิตกำลังลงตัว กำลังไปได้ดี ทุกอย่างกำลังสวยงาม แต่พอมาป่วยมันก็สะดุดไปพักหนึ่ง แต่พี่จะสู้ พี่จะไม่ยอมหยุดเขียน พี่จะเขียนไปจนกว่าจะไม่มีแรง มะเร็งหยุดพี่ไม่ได้หรอก (น้ำตาคลอ) พี่จะสู้ให้ถึงที่สุด” เธอกล่าวอย่างมุ่งมั่น

แต่ด้วยหัวใจที่ไม่ยอมแพ้และได้กำลังใจที่ดีจากคนรอบข้าง ทำให้เธอฝ่าฟันทุกวันไปได้อย่างดีขึ้นเรื่อยๆ เธอต้องขอบคุณกำลังใจที่ดีจากทุกคน โดยเฉพาะแฟนๆ ที่ทำให้รู้ว่ายังมีรักแท้อยู่ หลายคนมองว่าการเขียนคือการบำบัด สำหรับทอม สิริ แล้ว ตอบไม่ได้ว่าการเขียนคือการบำบัดไหม เพราะสำหรับเธอคือ เรื่องป่วยก็ส่วนป่วย เขียนก็ส่วนเขียน เรารักที่จะเขียนก็ทำไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไรหยุดเราได้ แม้แต่ช่วงที่ร่างกายอ่อนแอที่สุดก็ยังนั่งเขียนงานอยู่

ส่งผลต่อการเขียนอย่างมาก “ก่อนหน้าที่จะป่วย ถ้านับเป็นเรื่องๆ พี่สามารถทำได้ 3-5 เล่มต่อปี แต่ถ้าเอาเฉพาะที่ตีพิมพ์ออกมาเป็นเล่มเฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 3 เล่ม แบบสบายๆ ตอนนี้ก็คงช้าลงไปมาก จนกว่าร่างกายจะฟื้นตัว ตั้งเป้าหมายไว้ว่าวันหนึ่งจะต้องเขียนให้ได้ 4-5 หน้า ก็ยังดีตอนนี้”

สิริธนา หงษ์โสภณ มะเร็งก็หยุดการเขียนหนังสือไม่ได้

 

เรื่องการเจ็บป่วยเธอพยายามมองว่ามันเป็นเรื่องปกติของชีวิต ที่ทุกคนต้องเจอ และพยายามที่จะผ่านมันไปให้ได้ สร้างกำลังใจที่เข้มแข็ง แม้จะยากลำบากเพียงใดก็จะสู้ให้ถึงที่สุด หมดอะไรหมดได้ แต่เธอจะไม่ยอมหมดกำลังใจ ก็ขอส่งกำลังใจให้เธอผ่านมันไปให้ได้เช่นกัน

เธอตั้งใจไว้ว่า ถ้าหายป่วยจนอาการดีขึ้น ก็ยังอยากจะเขียนวนิยายแนวยูริ (หญิงรักหญิง) ออกมาในรูปแบบสืบสวนโดยใช้ชื่อเรื่องว่า แน่นะ...ว่ารักฉัน ถ้าเขียนจบอาจจะทยอยลงเว็บไซต์ รีดแอนด์ไรต์ ให้คนเข้าไปอ่านตัวอย่างกันได้ฟรีๆ หรือเข้าไปให้กำลังใจเธอ ถ้าใครที่อยากติดตามผลงานและพูดคุยกับนักเขียนท่านนี้ก็ตามกันไปได้ที่เฟซบุ๊ก Tom siri หรือแฟนเพจ ทอม สิริ