posttoday

ปตท.สผ.กางแผนลงทุน 5 ปี กว่า 9.1 แสนลบ.มองหาโอกาสลงทุนใหม่รับเทรนด์พลังงาน

01 ธันวาคม 2564

ปตท.สผ.ระบุลงทุน 5 ปี ยึดธุรกิจสำรวจ-ผลิตปิโตรเลียมเป็นหลักตั้งเป้ายอดขายโต 5% เล็งขยายธุรกิจใหม่ รองรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน

นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า ปตท.สผ. ได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ไว้ที่ 5,666 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  (เทียบเท่า 190,036 ล้านบาท) โดยแบ่งเป็นรายจ่ายลงทุน (Capital Expenditure หรือ CAPEX) จำนวน 3,217 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เทียบเท่า 107,895 ล้านบาท) และรายจ่ายดำเนินงาน (Operating Expenditure หรือ OPEX) จำนวน 2,449 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เทียบเท่า 82,141 ล้านบาท) เพื่อรองรับแผนงานหลัก ดังนี้

1. รักษาปริมาณการผลิตจากโครงการผลิตหลักที่สำคัญ เช่น โครงการบงกช โครงการอาทิตย์ โครงการเอส 1 โครงการมาเลเซีย โครงการโอมาน แปลง 61 และโครงการซอติก้า รวมถึง การเตรียมความพร้อมขั้นสุดท้ายในการเป็นผู้ดำเนินการและการเริ่มต้นสัญญาแบ่งปันผลผลิตของโครงการจี 1/61 (แหล่งเอราวัณ) และ จี 2/61 (แหล่งบงกช) โดยได้จัดสรรรายจ่ายลงทุนจำนวน 2,494 ล้านดอลลาร์สหรัฐ(เทียบเท่า 83,661 ล้านบาท) สำหรับการดำเนินงาน

2. เพิ่มปริมาณการผลิตในอนาคต โดยมุ่งเน้น 3 โครงการหลักที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา ได้แก่ โครงการโมซัมบิก แอเรีย วัน โครงการมาเลเซีย ซาราวัก เอสเค 410 บี ซึ่งประสบความสำเร็จในการเจาะหลุมประเมินผลแหล่งลัง เลอบาห์ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา และโครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซ (ระยะที่ 2) ให้สามารถเริ่มการผลิตได้ตามแผน โดยจัดสรรรายจ่ายลงทุนในส่วนนี้รวม 457 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เทียบเท่า 15,312 ล้านบาท)

3. เร่งกิจกรรมการสำรวจเพื่อค้นหาทรัพยากร รองรับการเติบโตในระยะยาว โดยได้จัดสรรรายจ่ายลงทุนจำนวน 262 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เทียบเท่า 8,788 ล้านบาท) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายจ่ายในการเจาะหลุมสำรวจและหลุมประเมินผลสำหรับโครงการสำรวจในประเทศมาเลเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเม็กซิโก

สำหรับแผนการลงทุน 5 ปี (2565-2569) นั้น บริษัทได้จัดสรรงบประมาณรวม 27,164 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เทียบเท่า 911,124 ล้านบาท) ซึ่งจากแผนงานดังกล่าวคาดจะสามารถเพิ่มอัตราการเติบโตของปริมาณการขายโดยเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้น (Compound Annual Growth Rate: CAGR) ในช่วง 5 ปี ที่ประมาณร้อยละ 5

“งบลงทุนปี’65 บริษัทจะจัดสรรเพื่อรักษาปริมาณการผลิตจากโครงการหลัก เช่น การลงทุนในแหล่งบงกชและแหล่งอาทิตย์เพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตก๊าซฯ ให้มากขึ้นรองรับการใช้พลังงานของประเทศ ซึ่งแผนงาน 5 ปี จะเน้นไปที่การพัฒนาแหล่งก๊าซฯและน้ำมันที่ ปตท.สผ. ได้สำรวจพบหลายแหล่งในประเทศมาเลเซีย ซึ่งทั้งแผนเพิ่มการผลิตและแผนพัฒนาดังกล่าว จะสามารถเพิ่มปริมาณการขายปิโตรเลียมได้ในช่วง 5 ปีข้างหน้าเฉลี่ยประมาณ 5% ขณะเดียวกัน บริษัทมีแผนจะลงทุนในธุรกิจใหม่ (Beyond E&P) มากขึ้น ในช่วงการเปลี่ยนผ่านของธุรกิจพลังงาน (Energy Transition) เพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นองค์กรคาร์บอนต่ำและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต” นายมนตรี กล่าว 

นายมนตรี กล่าวว่า ธุรกิจใหม่ที่ ปตท.สผ. ให้ความสำคัญ ได้แก่ พลังงานหมุนเวียนอื่น ๆ การต่อยอดเทคโนโลยีที่บริษัทมีอยู่ไปสู่ธุรกิจเชิงพาณิชย์ พลังงานใหม่ในอนาคต เช่น ไฮโดรเจน รวมถึง การลงทุนในการดักจับคาร์บอนและการนำมาใช้ประโยชน์ (Carbon Capture and Utilization) หุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ (AI & Robotics) รวมทั้ง การศึกษาและพัฒนาโครงการ Gas to Power

นอกจากนี้ปตท.สผ. ยังคงดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม  และ ธรรมาภิบาล (ESG) โดยได้จัดสรรงบประมาณเพื่อรองรับแผนงานในหลายด้าน เช่น การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Green House Gas Management) การวางแผนการปรับใช้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนสำหรับธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (Circular Model for E&P) การอนุรักษ์ทะเลเพื่อชีวิต (Ocean for Life) รวมถึงการดำเนินงานโครงการเพื่อสังคมอื่น ๆ (CSR) เพื่อสร้างมูลค่าที่ยั่งยืนให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย