posttoday

น้ำมัน-อาหารสดพุ่งดันเงินเฟ้อขยับ คาดทั้งปีแตะ1.7%

05 กรกฎาคม 2564

'พาณิชย์’ประเมินสัญญาณเงินเฟ้อ ยังมีโอกาสผันผวน คาดการณ์ปีนี้อยู่ที่ 0.7-1.7 % ชี้เดือนมิ.ย.ขยับ 1.25% จากน้ำมัน-อาหารสดราคาสูงขึ้น

นายวิชานัน  นิวาตจินดา   รองผู้อำนวยการ สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.)  เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาสินค้าและบริการ เดือนมิถุนายน ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือนมิถุนายน 2564 สูงขึ้นร้อยละ 1.25 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน แต่ชะลอตัวลงจากร้อยละ 2.44 ในเดือนก่อนหน้า มีปัจจัยสำคัญจากสินค้าในกลุ่มพลังงานที่ขยายตัวร้อยละ 8.95 และอาหารสดบางประเภทปรับราคาสูงขึ้น โดยเฉพาะ เนื้อสุกร ไข่ไก่ ผลไม้สด และน้ำมันพืช

ขณะที่มาตรการลดค่าครองชีพของภาครัฐ โดยเฉพาะการลดค่าไฟฟ้าและน้ำประปา และการลดลงของอาหารสดบางประเภท โดยเฉพาะข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว และผักสด เป็นปัจจัยทอนที่ส่งผลให้เงินเฟ้อในเดือนนี้ชะลอตัว ด้านสินค้าในหมวดอื่น ๆ ยังเคลื่อนไหวในทิศทางปกติ สอดคล้องกับปริมาณผลผลิตและความต้องการในช่วงสถานการณ์ที่ยังมีการระบาดของโควิด-19

การขยายตัวของเงินเฟ้อในเดือนนี้ นอกจากปัจจัยด้านพลังงานและอาหารสดบางชนิดแล้ว ยังมีสัญญาณที่ชี้ว่าความต้องการสินค้าหลายชนิดเริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออกและนำเข้า อาทิ ผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์  

ทั้งนี้สอดคล้องกับการปรับตัวดีขึ้นของเครื่องชี้วัดเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง อาทิ ดัชนีราคาผู้ผลิต มูลค่าการส่งออก อัตราการใช้กำลังการผลิต ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้า และยอดจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์และรถจักรยานยนต์ ขณะที่รายได้เกษตรกรก็ยังคงขยายตัวได้ อย่างต่อเนื่องตามราคาสินค้าเกษตรสำคัญหลายชนิด                   

สำหรับแนวโน้มเงินเฟ้อทั่วไปในช่วงครึ่งหลังของปี  2564ยังคงได้รับอิทธิพลจากราคาพลังงานที่ยังอยู่ในระดับสูง ประกอบกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณฟื้นตัวในหลายประเทศ ส่งผลดีต่อการส่งออกและภาคการผลิตที่ต่อเนื่องกับการส่งออก ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เงินเฟ้อในช่วงที่เหลือของปียังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โควิด-19ในประเทศยังเป็นข้อจำกัดที่ชะลอการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลต่อรายได้และการบริโภคโดยรวม ประกอบกับโอกาสที่ภาครัฐจะมีการใช้หรือขยายมาตรการลดค่าครองชีพของรัฐอีกครั้ง โดยเฉพาะการลดค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาทำให้อัตราการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อดังกล่าว จะเคลื่อนไหวในกรอบที่จำกัดและไม่เกินกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ร้อยละ 1.0 – 3.0

ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ปรับสมมติฐานการประมาณการเงินเฟ้อในปีนี้ใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ดังนี้  ราคาน้ำมันดิบดูไบจะเคลื่อนไหวในช่วง 60 – 70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล  อัตราแลกเปลี่ยนจะเคลื่อนไหวในช่วง 30 – 32 บาทต่อเหรียญสหรัฐ และอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ะอยู่ที่ร้อยละ 1.5 – 2.5

ดังนั้นคาดว่าเงินเฟ้อปีนี้จะอยู่ในกรอบร้อยละ 0.7–1.7 หรือเฉลี่ยค่ากลาง ร้อยละ 1.2  ซึ่งเป็นอัตราที่น่าจะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้อย่าเหมาะสมและต่อเนื่อง และหากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ จะมีการทบทวนอีกครั้ง

ข่าวล่าสุด

บอลวันนี้ ดูบอลสด ถ่ายทอดสด โปรแกรมฟุตบอล วันจันทร์ที่ 15 ธ.ค. 68