posttoday

คนละครึ่ง คึกคัก คนแห่ใช้เต็มตลาด

29 ตุลาคม 2563

คนละครึ่ง แจกเงิน 3 พันบาท ซื้อของกินของใช้ คึกคัก คนแห่ใช้เต็มตลาด

บรรยากาศตลาดนัดหลังกระทรวงการคลัง ช่วงเช้าวันที่ 29 ต.ค. 2563 คึกคัก มีข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และประชาชนทั่วไป มาจับจ่ายซื้อสินค้าของกินของใช้จำนวนมาก เนื่องจากร้านค้าส่วนใหญ่เข้าโครงการคนละครึ่ง ทำให้ผู้ที่ซื้อสินค้าจ่ายเงินจริงเพียงครึ่งเดียว

สำหรับร้านค้าบางร้านที่ไม่เข้าร่วมโครงการ เช่น ร้านกาแฟรถเข็นเจ้าหนึ่ง หรือ ร้านก๋วยเตี่ยวเรือเจ้าดัง ให้เหตุผลตรงกันว่า กังวลในช่วงที่ลูกค้ามาบริหารมากๆ จะคิดเงินผ่านระบบโครงการคนละครึ่งไม่ทัน จึงไม่ได้สมัครเข้าร่วมโครงการ

คนละครึ่ง คึกคัก คนแห่ใช้เต็มตลาด

คนละครึ่ง คึกคัก คนแห่ใช้เต็มตลาด

คนละครึ่ง คึกคัก คนแห่ใช้เต็มตลาด

คนละครึ่ง คึกคัก คนแห่ใช้เต็มตลาด

คนละครึ่ง คึกคัก คนแห่ใช้เต็มตลาด

คนละครึ่ง คึกคัก คนแห่ใช้เต็มตลาด

ก่อนหน้านี้ กระทรวงการคลัง และธนาคารกรุงไทย ได้ร่วมกันแถลงความคืบหน้า โครงการคนละครึ่ง ที่ได้เปิดให้ประชาชนที่สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2563 มีผู้ลงทะเบียนรับสิทธิโครงการเต็มจำนวน 10 ล้านคนแล้ว เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2563 ซึ่งระบบจะทำการตรวจสอบและส่ง SMS แจ้งยืนยันสิทธิโดยเร็ว ทั้งนี้ สำหรับยอดลงทะเบียนที่ไม่ผ่านการตรวจสอบและยอดผู้ได้รับสิทธิที่ถูกตัดสิทธิจากการไม่ใช้จ่ายภายใน 14 วัน จะมีการรวบรวมมาเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนใหม่ต่อไป

นอกจากนี้ ความคืบหน้าล่าสุด ณ วันที่ 28 ต.ค. 2563 เวลา 12.00 น. มีร้านค้าเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 4 แสนร้านค้า และมียอดการใช้จ่ายสะสม 1,255.44 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 626.97 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 598.47 ล้านบาท ยอดใช้จ่ายเฉลี่ย 229 บาทต่อครั้ง และมีการใช้จ่ายครบทุกจังหวัด โดยจังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สงขลา นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และเชียงใหม่ ตามลำดับ

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย กล่าวย้ำว่า กระทรวงการคลังกับธนาคารกรุงไทย ในฐานะผู้ดูแลระบบของโครงการคนละครึ่งได้มีการประสานงานอย่างใกล้ชิดเพื่อติดตามตรวจสอบพฤติกรรมหรือธุรกรรมที่ผิดปกติ โดยธนาคารกรุงไทย ได้นำระบบการป้องกันการทุจริตในกิจกรรมที่เกี่ยวกับการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ตามมาตรฐานสากลมาสนับสนุนโครงการเพื่อความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ซึ่งหากพบพฤติกรรมหรือธุรกรรมที่ผิดปกติ หรือมีการใช้จ่ายที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขโครงการ จะมีการระงับการใช้แอปพลิเคชันตลอดจนการจ่ายเงินทั้งฝั่งร้านค้าและประชาชนทันที

และหากตรวจสอบพบว่าการใช้จ่ายผิดเงื่อนไขโครงการจริงจะดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดและกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป จึงขอให้ประชาชนและร้านค้าโปรดอย่าหลงเชื่อการเชิญชวนตามโฆษณาผ่านช่องทางต่าง ๆ ในการช่วยดำเนินการโดยไม่มีการใช้จ่ายซื้อสินค้าจริงอย่างเด็ดขาด เพราะอาจตกเป็นเหยื่อในการสนับสนุนให้เกิดการกระทำความผิดซึ่งมีโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้ ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแสการกระทำผิดเงื่อนไขโครงการสามารถส่งข้อมูลมาที่ [email protected] หรือ โทร. 02 273 9020 ต่อ 3697 3527 3548 3509