posttoday

เปิดครัว Blue Elephant คุยกับมาสเตอร์เชฟ "นูรอ โซ๊ะมณี สเต็ปเป้"

19 กรกฎาคม 2563

กับภาระกิจ Keep Young เพื่อเดินหน้าธุรกิจแบรนด์ Blue Elephant สู่ทศวรรษที่ 5 ในโลกแห่งอาหาร

เปิดครัว Blue Elephant คุยกับมาสเตอร์เชฟ "นูรอ โซ๊ะมณี สเต็ปเป้"

โดย ดวงใจ จิตต์มงคล

ร้านอาหารไทย Blue Elephant ที่มีสาขาเปิดให้บริการทั้งในไทยและในต่างประเทศรวม 5 แห่ง มาอย่างยาวนาน ซึ่งในปีนี้เองที่ Blue Elephant จะมีอายุครบรอบ 40 ปี

และเป็นครั้งแรกหลังผ่อนคลายล็อคดาวน์ ที่ธุรกิจต่างๆ รวมถึงร้านอาหาร Blue Elephant สาขากรุงเทพฯ ได้คืนฟอร์มพร้อมให้บริการอีกครั้ง

โดย "มาดามนูรอ" ให้โอกาส "โพสต์ทูเดย์" ร่วมพูดคุยแบบ "เอ็กซคลูซีฟ" ถึงแนวคิดธุรกิจ Blue Elephant จากนี้ไปที่พร้อมก้าวสู่ทศวรรษที่ 5 เพื่อส่งไม้ต่อธุรกิจไปยังคนรุ่นใหม่ Next Generation ระดับมืออาชีพ ที่จะเข้ามาบริหารกิจการธุรกิจในยุคใหม่

ส่งต่อสูตร(ลับ)อาหารยังไม่พอ...ต้องส่งไม้(ธุรกิจ)ต่อถึง "Next Gen" ด้วย

ก่อนจะเข้าสู่การพูดคุยในบรรยากาศสบายๆภายในร้านอาหาร Blue Elephant สาขากรุงเทพฯ "มาดามนูรอ" ได้เปิดโต๊ะอาหารพร้อมรับรองด้วยเมนูอาหารไทยเพื่อสุขภาพสุดพิเศษ แถมยังหาทานได้ยากมากๆ อย่าง ช่อม่วงเห็ดทรัฟเฟิล ปอเปี๊ยะทอดสอดใส้ผักสมุนไพร พล่ากุ้งอะโวคาโด และ อาหารไทยโบราณอย่าง แกงสับนก ฯลฯ

เปิดครัว Blue Elephant คุยกับมาสเตอร์เชฟ "นูรอ โซ๊ะมณี สเต็ปเป้"

ที่แม้ว่าแต่ละเมนูจะมีการฟีเจอริงของวัตถุดิบจากตะวันออกและตะวันตกเอาไว้ แต่ทุกจานสามารถภ่ายทอด "ความถึง" ของรสชาติอาหารไทยได้อย่างลงตัวในความอร่อยได้ไม่ผิดเพี้ยน

ช่วงระหว่างนี้เอง "มาดามนูรอ" บอกว่าสิ่งที่ Blue Elephant กำลังจะเดินหน้าไปต่อหลังจากธุรกิจมีอายุครบรอบ 40 ปี ในปีนี้ คือ "Keep Young" การทำให้ธุรกิจและแบรนด์มีความเป็นหนุ่มสาว สดใส เพื่อให้อยู่คู่โลกธุรกิจร้านอาหารไปได้อย่างยาวนานต่อเนื่อง

ขณะที่ตัวมาดามเองจะผันตัวเองไปเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ในฐานะเชฟใหญ่แห่ง Blue Elephant ที่พร้อมให้คำปรึกษาผู้บริหารรุ่นใหม่และเชฟหนุ่มสาว ที่เตรียมเข้ามารับช่วงบริหารธุรกิจ Blue Elephant ในยุคนิวนอร์มอล

เปิดครัว Blue Elephant คุยกับมาสเตอร์เชฟ "นูรอ โซ๊ะมณี สเต็ปเป้"

"แบรนด์บลูเอเลเฟ่นท์ วางตำแหน่งตั้งแต่แรกเริ่มก่อตั้งธุรกิจ คือ ความเป็นร้านอาหารไทยรสชาติไทย ด้วยคอนเซปต์ คือ การใช้วัตถุดิบชั้นดีจากแหล่งท้องถิ่นต่างๆในประเทศ นำมาปรงุอาหารแต่ละเมนู เพื่อสื่อถึงรสขาติอาหารไทยที่มีความจัดจ้านจริงๆ" มาดามนูรอ อธิบาย

พร้อมขยายความต่อไปว่าการที่ "มาดามนูรอ" จะนำตัวเองไปอยู่เบื้องหลัง อย่างในห้องครัว ซึ่งถือเป็นสถานที่บัญชาการความอร่อยร้าน Blue Elephant ในฐานะเชฟใหญ่ ที่นอกจากเพื่อถ่ายทอด "สูตรลับ" การทำอาหารแบบไม่หวงวิชา ให้กับเชฟรุ่นใหม่ๆแล้ว

ขณะเดียวกันยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับแบรนด์ธุรกิจ เพื่อสื่อสารอย่างเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่เข้ามารับประทานอาหารที่ร้าน Blue Elephant ที่เป็นคนรุ่นใหม่ ได้ใกล้ชิดมากขึ้นด้วย

"เดลิเวอรี-เทค อะเวย์" โอกาสธุรกิจใหม่จากวิกฤตโควิด-19

เปิดครัว Blue Elephant คุยกับมาสเตอร์เชฟ "นูรอ โซ๊ะมณี สเต็ปเป้"

มาดามนูรอ เล่าต่อว่าในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ซึ่งมาพร้อมการล็อคดาวน์ในแต่ละประเทศทั่้วโลกรวมทั้งในไทย ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เธอยอมรับว่าเป็นวิกฤตธุรกิจครั้งใหญ่สุดนับแต่เปิดดำเนินกิจการแบรนด์ Blue Elephant มาเลยทีเดียว ด้วยร้านอาหารทั้ง 5 สาขาทั้งในและต่างประเทศ ต่างต้องปิดบริการชั่วคราว

ทว่าในวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ และในวิกฤตโควิด-19 ครั้งนี้ก็เช่นกัน ที่แม้ว่า ร้านอาหารสาขา Blue Elephant จะถุกปิดทั้งหมด แต่ก็สามารถประคับประคองกิจการมาได้จาก "การปรับตัว" ที่สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคคนรุ่นใหม่

โดยเฉพะในช่วงล็อคดาวน์ที่เกิดขึ้น ซึ่งพบว่า บริการจัดส่งอาหารถึงมือผู้บริโภค(Delivery) และ บริหารซื้อกลับบ้าน หรือ Take Away) ต่างเติบโตสูงต่อเนื่อง

เห็นได้ชัดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ชุดอาหารไทยปรุงสำเร็จเมนูต่างๆ อย่างผัดไทสูตรร้านอาหาร Blue Elephant ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดยุโรป ซึ่งก็มาจากพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ในเวลานี้ที่ต่างหันมาเข้าครัวทำอาหารง่ายๆ เพื่อรับประทานในบ้าน และได้กลายเป็นเทรนด์พฤติกรรรใหม่ของผู้บริโภคทั่วโลกในยุคยิวนอร์มอล ไปแล้ว

จากพฤติกรรม นิว นอร์มอล ของผู้บริโภคที่เกิดขึ้น ส่งผลให้กิจการ Blue Elephant ยังไปได้ต่อไม่หยุดชะงัก รวมถึงยังรักษาพนักงานร่วม 400 คนทั้งในและต่างประเทศได้ จากความต้องการสินค้ากลุ่มปรุงสำเร็จเพื่อซื้อกลับบ้านภายใต้แบรนด์ Asean และ บริการเดลิเวอรี อาหารกว่า 15 เมนูของร้าน Blue Elephant

เปิดครัว Blue Elephant คุยกับมาสเตอร์เชฟ "นูรอ โซ๊ะมณี สเต็ปเป้"

กว่าจะมาเป็น Blue Elephant อายุครบ 40ปี

มาดามนูรอ เล่าจุดเเริ่มต้นสายอาชีพ "เชฟ" จนมาเป็นเจ้าของร้านอาการบลูเอเลเฟ่นท์ ว่ามาจากสายเลือดลูกแม่ค้าข้าวแกง จากการป็นลูกมือของแม่ในครัวมาตลอด ทั้งตำน้ำพริก สับเนื้อหมู ล้างผัก ทอดปลา ฯลฯ จนสั่งสมฝีมือการทำอาหารไทยให้ "มาดามนูรอ" มีความเจนจัดอยู่ในเส้นเลือดโดยไม่รู้ตัว ประกอบกับเป็นคนมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ จึงมักคิดค้นและทดลองทำอาหารไทยแปลกๆ ใหม่ๆ อยู่เสมอ

จากนั้นมีโอกาสติดตามพี่ชายมาเรียนต่อที่ประเทศเบลเยี่ยม แล้วได้พบกับสามี “คุณคาร์ล สเต็ปเป้” ซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายของเก่าที่ "มาดามนูรอ" มาทำงานระหว่างเรียนและได้มีโอกาสแสดงฝีมือการทำอาหารไทยเพื่อรับรองลูกค้าที่มาเยี่ยมเยือนในร้านอยู่เสมอ รวมถึงเพื่อนชาวต่างชาติได้ชิมบ่อยครั้ง ที่สร้างความประทับใจและเชียร์ให้มาดามนูรออและสามีเปิดร้านอาหาร และเป็นที่มาของการเปิดร้าน “Blue Elephant” สาขาแรกที่กรุงบราเซลล์ ประเทศเบลเยี่ยม เมื่อปี พ.ศ.2523

ขณะที่ชื่อเสียงของร้าน “บลูเอเลเฟ่นท์” ถูกกล่าวขานอย่างกว้างขวาง ไม่เฉพาะแค่ในกรุงบราเซลล์เท่านั้น แม้แต่ชาวยุโรปชาติอื่นๆ ก็ยังเดินทางมาทดลองชิมอาหารไทยของร้านเช่นกัน ทำให้ทางร้านได้ต่อยอดขยายสาขาไปยังประเทศอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง ถึงปัจจุบัน มีรวมกัน 5 สาขาทั่วโลก เช่น ปารีส โคเปนเฮเกน มอลต้า กรุงเทพฯและภูเก็ต เป็นต้น โดยมีทั้งขยายด้วยตัวเองและขายแฟรนไชส์ กลุ่มลูกค้ามีตั้งแต่คนท้องถิ่น และนักท่องเที่ยว สิ่งสำคัญที่ทำให้ Blue Elephant ขยายธุรกิจต่อเนื่องได้หลากหลาย มาจากชื่อเสียงของร้าน ซึ่งลูกค้าให้การเชื่อถือ และยอมรับอยู่แล้ว เช่น โรงเรียนสอนทำอาหาร หรือผลิตภัณฑ์เครื่องแกงภายใต้แบรนด์ Blue Elephant

"ตลอดระยะเวลาการทำธุรกิจร้านอาหารไทยภายใต้แบรนด์ Blue Elephant มานานร่วม 40ปี ได้สร้างประสบการณ์การทำงานให้มีความแข็งแกร่งอย่างมาก ซึ่งจากโควิด-19 ที่เกิดขึ้นนับเป็นช่วงวิกฤตที่สุดนับแต่ทำธุรกิจมา แต่ก็ต้องใช้การปรับตัวเพื่อให้ผ่านพ้นไปให้ได้ ด้วยมองว่าทุกสิ่งที่ได้เจอมานั้นเป็นเรื่องยากหมดแล้ว ไม่มีอะไรง่าย และเมื่อเจออะไรที่ยากๆก็จะมองให้เป็นเรื่องง่าย" มาดามนูรอ กล่าวทิ้งท้าย