posttoday

ทุบโต๊ะ !! ยุติค่าโง่ทางด่วน ขยายสัมปทาน 15 ปี 8 เดือน แลกหนี้แสนล้าน

23 ธันวาคม 2562

คมนาคม เตรียมเสนอครม.เคาะทางออกค่าโง่ทางด่วน ลดอายุขยายสัมปทานเหลือ 15 ปี ไม่เอาทางด่วนสองชั้น ล้างไพ่หนี้แสนล้าน พ่วงเงื่อนไขเด็ด เปิดใช้ทางด่วนฟรีทุกเส้นทางในวันหยุดนักขัตฤกษ์ ยาวไป 15 ปี ถูกใจคนเมืองหลวง เล็งชงครม.เคาะไฟเขียวสัปดาห์หน้า

คมนาคม เตรียมเสนอครม.เคาะทางออกค่าโง่ทางด่วน ลดอายุขยายสัมปทานเหลือ 15 ปี ไม่เอาทางด่วนสองชั้น ล้างไพ่หนี้แสนล้าน พ่วงเงื่อนไขเด็ด เปิดใช้ทางด่วนฟรีทุกเส้นทางในวันหยุดนักขัตฤกษ์ ยาวไป 15 ปี ถูกใจคนเมืองหลวง

นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงคมนาคมได้สรุปแนวทางเพื่อดำเนินการเรื่อง ค่าชดเชยทางด่วนมูลค่าประมาณ 1แสนล้านบาทกับ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เพื่อเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 24 ธ.ค. นี้พิจารณาอนุมัติ โดยเลือกใช้แนวทางขยายสัมปทาน 15 ปี จากเดิมมีแผนขยายสัมปทาน 30 ปี เพื่อแลกกับยุติข้อพิพาททั้งหมด

ส่วนประเด็นที่ไม่มีการต่อขยายสัญญาอีก 15 ปี พร้อมลงทุนทางด่วนสองชั้น (Double Deck)นั้น เนื่องจากยังไม่ทราบแน่ชัดว่า จะผลักดันโครงการดังกล่าวได้หรือไม่ เพราะต้องจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ)ด้วย อีกทั้งยังเป็นการขัดกับมติครม.ที่กำหนดให้เจรจาเพื่อบรรเทาความเสียหายค่าชดเชยในข้อพิพาท ประกอบกับการคำนวณโดยใช้ระบบดิจิทัลของกระทรวงคมนาคมพบว่า การต่อขยายสัมปทาน 15 ปี 8 เดือนเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมกับรายได้ที่เอกชนเสียไปเพราะทางแข่งขันดอนเมืองโทลล์เวย์

"นอกจากนี้ยังมีเงื่อนไขพิเศษ คือ เสนอขอความร่วมมือเอกชนให้งดเว้นการเก็บค่าผ่านทางด่วนทุกเส้นทางในช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์ตามที่ครม.กำหนด ตลอดสัมปทาน 15 ปี" นายชัยวัฒน์กล่าว

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า การต่อขยายโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 (ส่วน D)และสัญญาโครงการทางด่วนสายบางปะอิน- ปากเกร็ด โดยต่อขยายระยะเวลาสัมปทานทั้ง 3 สัญญาออกไปสิ้นสุดพร้อมกันในวันที่ 31 ต.ค. 2578 (รวม 15 ปี 8 เดือน นับจากวันที่สัญญาโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน AB และ C สิ้นสุดลง)ได้แก่

1.ต่อสัญญาทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน A ส่วน B และ C เป็นระยะเวลา 15 ปี 8 เดือน จากเดิมหมดอายุสัมปทาน เดือนก.พ. 2563
2.ต่อสัญญาทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน D เป็นระยะเวลา 8 ปี 6 เดือน จากเดิมหมดอายุสัมปทาน 22 เม.ย. 2570
3.ต่อสัญญาทางด่วนบางปะอิน – ปากเกร็ด เป็นระยะเวลา 9 ปี 1 เดือน จากเดิมหมดอายุสัมปทาน 27 ก.ย. 2569

อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้จะเสนอร่างสัญญาต่อที่ประชุมครม.ขออนุมัติเห็นชอบในหลักการร่างสัญญา ในการประชุมครั้งหน้า ก่อนเสนอต่อไปยังอัยการ แล้วเสนอกลับมาที่ ครม.อีกครั้งเพื่อเห็นชอบลงนามสัญญา หากไม่มีข้อติดขัดคาดว่าจะลงนามสัญญาได้ในเดือนม.ค. 2563 โดยมีกำหนดกรอบเวลาต้องลงนามสัญญาภายในเดือน ก.พ. 2563

ด้านนายสุรงค์ บูลกุล ประธานคณะกรรมการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) กล่าวว่า ข้อสรุปเรื่องการต่อขยายสัมปทานทางด่วนให้ BEM นั้นได้มีการชี้แจงสหภาพแรงงานกทพ.ไปแล้ว ซึ่งมีความเข้าใจในแนวทางดำเนินการตามนี้ สำหรับเงื่อนไขรายละเอียดการต่อสัมปทานนั้น ประกอบด้วย 1.ยุติข้อพิพาททั้งหมด 2.ไม่ขึ้นค่าทางด่วนจนถึงปี 2572 และมีกำหนดปรับขึ้นทุก 10 ปี ครั้งละ 10 บาท จนหมดอายุสัมปทาน

3.เอกชนแบ่งรายได้ให้กทพ.ไม่น้อยกว่าเดิมคือ 60% ของรายได้ทั้งหมด 4.งดเว้นเก็บค่าผ่านทางด่วนทุกเส้นทางในช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์ 5.ก่อสร้างด่านเก็บเงินเพิ่มอีก 2 จุดที่ด่านอโศกและด่านประชาชื่น 6.ก่อสร้างจุดขึ้น-ลงที่สถานีกลางบางซื่อ 7.การใช้เทคโนโลยีตั๋วร่วมและระบบบัตร EMV ในการคิดค่าผ่านทาง 7.อัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (IRR) 15% 8.ลดค่าผ่านทางบางด่านในอนาคต

สำหรับทางด่วนสองชั้น (Double Deck)มูลค่า 32,000 ล้านบาท นั้นจะยังไม่มีการพัฒนาในเร็วๆนี้ เพราะติดเรื่องการขออนุมัติจัดทำรายงานสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ซึ่งอาจใช้เวลามากกว่า 2 ปี หากมีทิศทางแน่ชัดจะหยิบยกมาพิจารณาแนวทางผลักดันและเปิดประมูลงานก่อสร้างต่อไปเพื่อแก้ปัญหารถติดบนทางด่วน ส่วนเรื่องข้อพิพาทกับ BEM ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตหากการพัฒนาต้องทุบทางด่วนบางช่วงทิ้งนั้น จะมีการเจรจากันอีกครั้งหากจะผลักดันอย่างจริงจัง