posttoday

'ชิมช้อปใช้'ยังไม่ปัง!! ดัชนีเชื่อมั่นฯยังทรุดต่อเดือนที่ 8

07 พฤศจิกายน 2562

ดัชนีความเชื่อมั่นฯเดือนต.ค. อยู่ที่ 70.7 ต่ำสุดในรอบ 65 เดือน เหตุผู้บริโภคยังกังวลภาพรวมเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว ห่วงเสถียรภาพการเมือง ขณะที่ ชิมช้อปใช้ยังไม่เห็นผล

ดัชนีความเชื่อมั่นฯเดือนต.ค. อยู่ที่ 70.7 ต่ำสุดในรอบ 65 เดือน เหตุผู้บริโภคยังกังวลภาพรวมเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว ห่วงเสถียรภาพการเมือง
ขณะที่ ชิมช้อปใช้ยังไม่เห็นผล

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึง ผลการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนตุลาคม 2562 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค อยู่ที่ระดับ 70.7 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 65 เดือน นับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2559 แม้ว่ารัฐบาลเริ่มมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมามากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเมืองทั้งในปัจจุบันและในอนาคต รวมทั้งมองว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังฟื้นตัวขึ้นไม่มากนัก และยังมีความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวในปัจจุบัน

ตลอดจนสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่อง Brexit รวมถึงการที่สหรัฐฯ ประกาศตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร( จีเอสพี) สำหรับสินค้าไทยที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ จำนวน 573 รายการซึ่งอาจส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ประกอบกับราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ยังคงเป็นตัวบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวม และความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองไทยในอนาคตยิ่งบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคให้ลดลงไปอีก

ทั้งนี้จากการประเมินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ออกมาขณะนี้ เห็นว่ายังคงเข้าระบบไม่เต็มที่ แม้ว่าจะมีเม็ดเงินจากการโอนผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มาตรการชิมช้อปใช้และการประกันรายได้ที่เม็ดเงินยังไม่เข้าสู่เข้าระบบเท่าที่ควร ซึ่งต้องติดตามในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ที่รัฐบาลจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและกำลังซื้อผ่านโครงการต่าง ๆ ที่จะใช้เงินมากกว่า 25,000-30,000 ล้านบาทได้เต็มที่และเต็มวงเงินได้มากจริงก็น่าจะส่งผลให้กำลังซื้อกลับมา

อย่างไรก็ตามในช่วงไตรมาส 4 หากเศรษฐกิจขยายตัว 3.4-3.5 % จะส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้โตได้ 2.8% แต่ถ้ามาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐยังไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่ก็อาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยปีหน้าจะไม่เติบโตเกิน 3 %