posttoday

เร่งฟื้นฟูท่องเที่ยวไทย โจทย์ยากรัฐบาลใหม่

17 กรกฎาคม 2562

ทีมเศรษฐกิจภาครัฐ

ทีมเศรษฐกิจภาครัฐ

ผ่านมากว่า 6 เดือน สถานการณ์ท่องเที่ยวไทยที่เคยเป็นความหวังในการสร้างรายได้เข้าประเทศ ยังคงต้องตกอยู่ในสภาพอาการทรงตัว แม้ตัวเลขล่าสุดเดือนก.ค. ช่วงครึ่งแรกของเดือน จะเริ่มเห็นทิศทางเป็นบวกมากขึ้นก็ตาม แต่ในภาพรวมถือว่าไม่ดีนัก เมื่อเทียบกับหลายปีก่อน

หลังคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำทัพเข้าบริหารประเทศ ต้องจับตาการแถลงนโยบายในแต่ละด้าน โดยเฉพาะการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นฟั่นเฟืองทางเศรษฐกิจที่สำคัญ จะมีมาตรการเร่งด่วนอะไรบ้างที่โดดเด่น เพื่อกู้สถานการณ์ให้กลับมาดีขึ้นได้

สำหรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา "พิพัฒน์ รัชกิจประการ" รัฐมนตรีใหม่ป้ายแดง งานนี้ต้องเจอโจทย์ยาก เรียกว่าวัดฝีมือกัน จากที่เคยแต่บริหารธุรกิจปั๊มน้ำมัน มาครั้งนี้เป็นภารกิจระดับประเทศ วันที่ 18 ก.ค.นี้ ดีเดย์เข้ากระทรวงวันแรกพร้อมรับมอบนโยบายปฏิบัติงาน

"พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวฯ กล่าวว่า ยอมรับกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เป็นกระทรวงหลักที่ทำรายได้เข้าประเทศ ซึ่งตนจะต้องทำงานหนักมากกว่าปกติ ส่วนเรื่องนโยบายการทำงานนั้น ต้องรอนายกรัฐมนตรีเป็นคนแถลง อย่างไรก็ตามตนก็มีเรื่องจะเสนอนายกฯ ส่วนปัญหารายได้จากการท่องเที่ยวที่ลดลงคงต้องไปดูในรายละเอียด ซึ่งประเด็นที่สำคัญอีกเรื่องคือการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว เพื่อให้นักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจว่ามาเที่ยวประเทศไทย"

อย่างไรก็ตามปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อท่องเที่ยวไทยในช่วงที่ผ่านมา นอกจากปมเหตุการณ์เรือล่มที่จังหวัดภูเก็ตแล้ว ยังมีทั้งสงครามการค้าจีน-สหรัฐ ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา และล่าสุด ค่าเงินบาทที่แข็งค่าเฉลี่ย 5 % เมื่อเทียบกับเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ? ซึ่งแข็งกว่าค่าสกุลเงินอื่นในภูมิภาคทำให้การมาท่องเที่ยวในไทยมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น? ผลักดันให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ?บางส่วนหันไปเที่ยวประเทศอื่นในภูมิภาค ?ปัญหาเหล่านี้กลายเป็นประเด็นรุมเร้าให้กับภาคการท่องเที่ยวไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ล่าสุดกองเศรษฐกิจท่องเที่ยว กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ได้รายงานตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย เริ่มมีแนวโน้มเป็นบวกมากขึ้นในครึ่งเดือนแรกเดือนก.ค.(1-14ก.ค.) มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทยมีจำนวน 1.47 ล้านคน? เพิ่มขึ้น 2.42% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ?ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่สูงกว่าเฉลี่ยของครึ่งปีแรก

ขณะที่ภาพรวม ช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-มิ.ย.) มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยรวม 19.6 ล้านคน? เติบโตเพียง 0.7% และสร้างรายได้ราว 1.01 ล้านล้านบาท? เพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เมื่อรวมจำนวนนักท่องเที่ยวตั้งแต่เดือนม.ค.จนถึงปัจจุบันมีการขยายตัว 0.81% เป็นจำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 21.08 ล้านคน

สิ่งที่ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวต้องการในขณะนี้คือ อยากให้รัฐบาลใหม่พิจารณาต่ออายุการยกเว้นค่าวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยว 21 ประเทศ ซึ่งกำลังจะหมดอายุในเดือนต.ค.นี้ โดยขยายไปจนถึงเดือนมี.ค.2563 เพื่อกระตุ้นนักท่องเที่ยวยจากจีนในเทศกาลตรุษจีน เนื่องจากขณะนี้ตัวเลขนักท่องเที่ยวยังติดลบ?โดยสถิติ 5 เดือนแรกของปี (ม.ค.-พ.ค.)มีจำนวน 4.81 ล้านคน? ลดลง 4.3%

ด้านตลาดนักท่องเที่ยวจากอินเดีย?เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ได้รับการยกเว้นค่าวีซ่าเช่นเดียวกับจีน? แต่กลับมีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับ โดยช่วง5ดือนแรก มีนักท่องเที่ยวเข้ามา 7.8 แสนคน หรือขยายตัวถึง 23% เนื่องจากเศรษฐกิจในอินเดียมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง แม้จะถูกจัดอยู่ในประเทศที่มีรายได้ปานกลางระดับต่ำ แต่กลับพบว่ามีค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวสูงเป็นลำดับที่19 ของโลก ดังนั้นนักท่องเที่ยวอินเดียจะสามารถชดเชยนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นๆที่ลดลงไปได้ ซึ่งเป็นภารกิจของททท.ที่ต้องสร้างแผนการตลาดเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวในกลุ่มนี้ให้มีความต่อเนื่อง

ทั้งนี้เป้าหมายตัวเลขนักท่องเที่ยวปี 2562 ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กำหนดตัวเลขไว้ที่ 40.2 ล้านคน สร้างรายได้ 2.21 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 2561 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 38.27 ล้านคน และสร้างรายได้ 2.01 ล้านล้านบาท

เมื่อพิจารณาจากเป้าหมายการท่องเที่ยวแล้ว ขณะนี้ผ่านมาครึ่งทาง อัตราการขยายตัวโดยรวมยังไม่ถึง 1 % คงต้องเอาใจช่วยรัฐมนตรีท่องเที่ยวคนใหม่ จะสามารถฟื้นฟูการท่องเที่ยวของไทยให้กลับมาเป็นเบอร์หนึ่ง ได้หรือไม่ งานนี้ต้องวัดฝีมือ โชว์ไอเดีย ให้เห็นกันอย่างเป็นรูปธรรม