หนุนเดินหน้ากองทุนหมู่บ้านฯ

“บิ๊กตู่” หวังกองทุนหมู่บ้านฯ ยกระดับภาคการผลิต ขณะที่ “สมคิด” แนะสร้างความเข้มแข็งลดพึ่งงบประมาณรัฐ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดงานสัมมนา กองทุนแห่งชาติเพื่อประชาชน แก้จน ลดเหลื่อมล้ำ ว่า อยากให้กองทุนหมู่บ้านฯ และชุมชนเมืองใช้ประโยชน์จากเงินกองทุนและโครงสร้างพื้นฐานที่รัฐบาลลงทุนไป ทั้งยกระดับการผลิตเช่นภาคเกษตรยกระดับจากผลิตแบบเดิมไปสู่เกษตรที่เป็นที่ต้องการของตลาด คือได้รับจีเอพี และค่อยๆ ปรับตัวไปสู่เกษตรอินทรีย์

การพัฒนาสินค้า การท่องเที่ยว ใช้ช่องทางการขายโดยดึงมหาวิทยาลัยราชภัฏ 38 แห่งทั่วประเทศเข้ามาสนับสนุนทั้งองค์ความรู้และการวิจัยและพัฒนาเกิดการผสมผสานระหว่างภูมิปัญญาท้องถิ่นกับเทคโนโลยีใหม่

ทั้งนี้ ในช่วงปี 2559-2561 รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณลงไปยังกองทุนหมู่บ้านทั้ง 79,595 กองทุน วงเงินประมาณ 7 หมื่นล้านบาท แยกเป็น โครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจปี 2559 วงเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท โครงการเพิ่มศักยภาพหมู่บ้านและชุมชนในปี 2560 วงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท และโครงการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนอย่างยั่นยืนโดยศาสตร์พระราชา ปี 2561 วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท โดยสร้างรายได้ให้เกิดกับชุมชน 3.9 หมื่นล้านบาท มีกำไร 8,500 ล้านบาท

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า บทบาทของกองทุนหมู่บ้านฯ จะไม่หยุดอยู่เท่านี้ แม้รัฐบาลกำลังจะจบบทบาทลงแต่คนที่จะสานต่อภารกิจให้ต่อเนื่องได้คือสมาชิกของกองทุน ที่จะทำให้กองทุนหมู่บ้านฯ เป็นสถาบันแห่งโอกาสและสำคัญที่สุดคือเป็นพื้นฐานของประชาธิปไตย ถ้ากองทุนหมู่บ้านฯ พิสูจน์ให้เห็นว่ามีความเข้มแข็งพอ รัฐบาลไม่ต้องดูแล และไม่จำเป็นที่ต้องรอให้จัดสรรเป็นงวดๆ ตามนโยบายของรัฐบาล แต่สามารถจัดเป็นวงเงินที่ถาวรผ่านกลไกของสำนักนายกรัฐมนตรีโดยตรงลงไปสู่กองทุนหมู่บ้าน