จ่ออัพเกรดสนามบิน กรมท่าอากาศยานทุ่ม1.3หมื่นล.เสริมเทคโนโลยี5ปี

ทย.เตรียมแผนลงทุนระยะยาว รองรับตลาดการบินเติบโต เล็งเปิดพีพีพี 4 สนามบินเล็ก

นายดรุณ แสงฉาย อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดการบินจะเติบโตอย่างต่อเนื่องทางกรมมีแผนลงทุนระยะ 5 ปี มูลค่า 1.3 หมื่นล้านบาท ด้วยการนำเทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาใช้ในสนามบินอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว ประกอบไปด้วย การติดตั้งระบบลำเลียงกระเป๋าและสายพานแบบ In-line Screening และระบบตรวจสอบวัตถุระเบิด (EDS) วงเงินรวม 8,837 ล้านบาท จะดำเนินการติดตั้งระบบได้ภายในปีนี้จำนวน 3 สนามบิน ก่อนเร่งติดตั้งให้ครบทั้ง 28 สนามบิน ภายในปี 2562

ด้านโครงการติดตั้งระบบเคาน์เตอร์เช็กอินร่วม เพื่อแก้ไขปัญหาความแออัดที่สนามบินวงเงินรวมอยู่ที่ 4,200 ล้านบาท เป็นการเช่าระบบเทคโนโลยีจากเอกชนระยะเวลาสัญญารวม 5 ปี คิดเป็นค่าเฉลี่ย 150 ล้านบาท/สนามบิน เบื้องต้นได้นำร่องติดตั้งที่สนามบินกระบี่ ซึ่งจะทยอยติดตั้งให้ครบทุกสนามบิน และยังมีแผนของบประมาณเพื่อติดตั้งเครื่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ (Auto Gate) ภายในสนามบินที่มีผู้โดยสารจำนวนมาก เพื่อลดความแออัดในอาคารผู้โดยสารอีกด้วย

"ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาจัดทำแผนแม่บทด้านเทคโนโลยีสนามบิน คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งการลงทุนดังกล่าวจะเป็นไปตามทิศทางตลาดการบินของประเทศเติบโตอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากไทยได้รับการปลดธงแดงจาก ไอเคโอ" นายดรุณ กล่าว

ทั้งนี้ ในวันที่ 29 พ.ย. จะเสนอผลการศึกษาการพัฒนาแนวทางบริหารท่าอากาศยาน 28 แห่ง ซึ่งจะยกสิทธิการบริหารท่าอากาศยานอุดรธานี และท่าอากาศยานตาก ให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท. เป็นผู้บริหารท่าอากาศยาน พร้อมทั้งเปิดให้เอกชนร่วมลงทุน (พีพีพี) เพื่อพัฒนาท่าอากาศยานขนาดเล็ก 4 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานลำปาง เพชรบูรณ์ นครราชสีมา และชุมพร หากกระทรวงคมนาคมมีมติเห็นชอบจะเริ่มศึกษารูปแบบคาดว่าจะใช้เวลา 8 เดือน หรือเสร็จเดือน ส.ค. 2561