posttoday

สวดมนต์ข้ามปีเสริมดวงชีวีตาม “วิถีพุทธ”

29 ธันวาคม 2562

โดย อุทัย มณี  (เปรียญ)

โดย อุทัย มณี  (เปรียญ)

หากจำไม่ผิดการสวดมนต์ข้ามปีเริ่มต้นจาก วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรุงเทพ ฯ ยุคนั่นผู้เขียนยังทำงานอยู่ที่ช่อง 11 ทุกสิ้นปีจะมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ เป็นงานใหญ่ประจำปีที่ชาวพุทธกรุงเทพมหานครให้ความสนใจมาก

สวดมนต์ข้ามปีเสริมดวงชีวีตาม “วิถีพุทธ”

ในระยะหลังภาครัฐ คณะสงฆ์ หน่วยงานต่าง ๆ ให้ความสนใจ ประชาชนร่วมสวดมนต์เป็นแสนคน สถานที่ของวัดสระเกศ ฯ แออัดไม่เพียงพอรองรับจึงขยายไปยังท้องสนามหลวงและพุทธมณฑล

หน่วยงานภาครัฐที่รับลูกเข้ามาทำหน้าที่แทนหลัก ๆ คือ กรมการศาสนาและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

กรมการศาสนา ยึดที่มั่น “ท้องสนามหลวง” ซึ่งการจัดแต่ละครั้งมีคนมาร่วมจำนวนเรือนแสน มีทั้งเด็ก เยาวชน วัยรุ่น และคนสูงวัย เพราะการสวดมนต์รับปีใหม่แบบนี้ผู้คนจำนวนมากเชื่อว่า “จะทำให้ชีวิตปีหน้ารุ่งเรืองหรือสดใสขึ้น”

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีฐานที่มั่นคือ “พุทธมณฑล” หากจะว่าไปแล้วจำนวนคนน้อยกว่าท้องสนามหลวง อาจเป็นเพราะไม่ได้อยู่ใจกลางเมืองและไม่สะดวกกับการเดินทาง

การจัดสวดมนต์ข้ามปีปีที่แล้วของกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ดังยิ่งกว่าพลุแตกภายใต้การนำของอดีตรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม คุณพี่วีระ โรจน์พจนรัตน์ ประชาชนให้ความสนใจไม่เฉพาะประเทศไทย แต่เกือบทุกประเทศเพื่อนบ้านที่นับถือพระพุทธศาสนาเช่น พม่า ลาว กัมพูชา ศรีลังกา จีน เวียดนาม หรือแม้กระทั้งอินโดนีเซีย เพราะท่านร่วมกับ พระโสภณวชิราภรณ์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เดินสายขอความร่วมมือจากประเทศดังกล่าวทุกประเทศ พร้อมกับนิมนต์สังฆราช ประมุขสงฆ์และผู้นำชาวพุทธในประเทศดังกล่าวมาร่วมสวดมนต์ข้ามปี ณ ท้องสนามหลวง และขอให้จัดสวดมนต์ข้ามปีในศาสนสถานสำคัญ ๆในประเทศนั่นด้วย

ส่วนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดอยู่ที่พุทธมณฑลแบบเรียบง่ายสไตร์ “สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ” และก็ตามวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศและในต่างประเทศ และปีนี้พิเศษกว่าทุกปีได้ “สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี” หรือเจ้าคุณธงชัย พระปรมาจารย์ด้านเจ้าพิธีกรรมไปทำพิธีปัดเคราะห์ต่อชะตา พร้อมกับพระเถราจารย์อีก 76 จังหวัด อันนี้คือกำหนดการวันที่ 30 ธันวาคม ส่วนวันที่ 31 ก็คงมิพิธีสวดมนต์ข้ามปีตามปกติ

ปีนี้ไม่กี่วันก่อนผู้เขียนเชิญอธิบดีกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรมา มาออกรายการ “เดอะพิเพิ่ลโชว์” ช่อง 5 ท่านเล่าว่า “กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม คงจัดที่เดิมคือ ท้องสนามหลวง และวัดอรุณราชวราราม ร่วมทั้งวัดอื่น ๆ ทั้งในและต่างประทเศ ไม่มีประมุขสงฆ์ต่างชาติมาร่วม ซึ่งปีนี้พิเศษกว่าทุกปีเพราะทุกจังหวัดจะมีไฟพระพระฤกษ์ประทานจาก ”มเด็จพระสังฆราช” เพื่ออัญเชิญไปในการประกอบกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ถวายพระราชกุศล เสริมสิริมงคลทั่วไทย ประจำปี 2563 ขณะเดียวกันในช่วงปีใหม่ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่ กิจกรรมไหว้พระ 10 วัด สืบสิริสวัสดิ์ 10 รัชกาลในกรุงเทพ..”

 สำหรับชาวพุทธต่างจังหวัดก็อย่าลืมวัดใกล้บ้านซึ่งส่วนใหญ่ก็จัดเกือบทุกวัดอยู่แล้ว เว้นบางวัดที่มีแต่หลวงปู่ หลวงตาเฝ้าวัด ก็อาจจะไม่มี แต่ก็ไม่เป็นไร ส่วนใหญ่ทุกบ้านมีพระพุทธรูปอยู่แล้ว ฟังการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ก็ได้ชาวพุทธเราอยู่ที่ไหนก็ทำความดีได้ ไม่ว่าบ้าน วัด หรือที่ใด ๆ ขอให้มีใจคิดดี พูดดี ทำดี บุญเกิดขึ้นได้ทุกที่..และที่สำคัญอย่าลืมไหว้พระที่บ้านซึ่งเป็นอรหันต์ของลูกคือ พ่อและแม่ ด้วย อันนี้แหละคือมงคลอันสูงสุดของชีวิตตอนรับปีใหม่ ส่งท้ายปีเก่า