การแสวงหาโอกาสในวิกฤติอย่างระมัดระวัง
คอลัมน์: รู้รอบโลก รู้รอบรวย โดย...ดร. ตรีพล ภูมิวสนะ Private Banking Business Head, Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย
วิกฤตโควิด 19 ทำให้ผู้คน บริษัทผู้ประกอบการและภาครัฐต้องปรับตัวและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นักลงทุนก็เช่นกัน อารมณ์ของนักลงทุนในการลงทุนช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาผันผวนอย่างมาก เริ่มจากความไม่รู้ในช่วงต้น ความตื่นตระหนก ความกลัว ความเข้าใจ ไปเป็นความหวังการมองในแง่ดี ความกล้า และอยากลงทุนในสินทรัพย์ที่ราคายังไม่ขึ้นมาก ใน3 เดือน การนักลงทุนปรับจากการขายสินทรัพย์เสี่ยงถือเงินสด ทยอยก็หาโอกาส ซื้อสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น นอกจากนั้นการเข้าซื้อก็เริ่มหาหุ้นที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นเช่นกัน
ในหุ้นโลก หุ้นกลุ่มผู้ชนะ เช่น กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มสุขภาพ กลุ่ม e-commerce มีผลตอบแทนที่ขึ้นสูงมากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์หลังจากวิกฤติโควิด ทำให้นักลงทุนหลายคนเริ่มไม่กล้าที่จะลงทุนเพิ่ม และก็มียังมีอีกหลายกลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังขยับขึ้นไม่มากและนักลงทุนส่วนหนึ่งเริ่มเข้ามาสนใจกลุ่มที่ยังขึ้นช้าเหล่านี้ กลุ่มที่ยังขึ้นช้านี้อาจแบ่งได้อีก 2 ส่วน คือ กล่มผู้รอด เช่น กลุ่มผู้บริโภค กลุ่มการผลิตสินค้า และกลุ่มที่อาจจะกลับมาช้ากว่ากลุ่มอื่นๆ เพราะได้รับผลกระทบอย่างหนักมากจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในครั้งนี้ เช่น กลุ่มสถาบันการเงินและ กลุ่มพลังงานเดิม
ทาง KBank Private Banking มองว่าในขณะนี้ กลุ่มผู้ชนะยังคงน่าถือต่อไป แต่อาจจะนำกำไรออกมาบ้างเพื่อกระจายความเสี่ยงเข้าสู่โอกาสอื่นๆ ที่เริ่มน่าสนใจ เช่น ตลาดยุโรป โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นใหญ่ เพราะบริษัทเหล่านี้เป็นบริษัทที่มีเสถียรภาพและน่าจะเป็นผู้รอดจากวิกฤติโควิด 19 แม้จะยังไม่โดดเด่นเหมือน กลุ่มผู้ชนะ แต่ราคาหุ้นเหล่านี้ยังถือว่าตามหลังกลุ่มผู้ชนะ และน่าจะมีโอกาสขึ้นตามได้
แต่ยังมีหุ้นอีกกลุ่มนึงที่ถึงแม้จะขึ้นมาเร็ว แต่ก็ยังไม่น่าไว้วางใจ เช่น หุ้นในกลุ่มละตินอเมริกา และหุ้นอินเดีย เพราะแม้สถานการณ์จะดีขึ้น การใช้จ่ายภาครัฐ ระบบสาธารณสุขรวมถึงโครงสร้างเศรษฐกิจ ยังคงไม่น่าไว้วางใจ ดังนั้นเมื่อพิจารณาจากโอกาสและความเสี่ยงแล้วหุ้นใหญ่ในยุโรปใน K-Europe น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า สำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาหุ้นที่ราคายังขึ้นไม่มาก
แม้ทาง KBank Private Banking จะมีมุมมองที่เป็นบวกขึ้นกับสินทรัพย์เสี่ยงเช่นหุ้น แต่ก็ยังยึดคำแนะนำเดิมที่ว่า นักลงทุนควรจะยังมีพอร์ตหลักที่เป็นการผสมผสานหลากหลายสินทรัพย์ที่มีการบริหารจัดการความเสี่ยงด้วยมืออาชีพ และควรมีสินทรัพย์ที่ให้รายได้สม่ำเสมอ รวมถึงสินทรัพย์ที่ไม่ขึ้นลงตามความเสี่ยงของหุ้นและตราสารหนี้ อยู่ในพอร์ตด้วยเช่นกัน


