posttoday

คาถารวยด้วยหุ้น "ต้องอดทน"

08 กุมภาพันธ์ 2558

เคล็ดลับการลงทุนในหุ้นให้รวยของนักลงทุนรายใหญ่ที่มาแชร์ประสบการณ์ในงาน “มหกรรมทำเงินให้งอกเงย” โพสต์ทูเดย์

เคล็ดลับการลงทุนในหุ้นให้รวยของนักลงทุนรายใหญ่ที่มาแชร์ประสบการณ์ในงาน “มหกรรมทำเงินให้งอกเงย” โพสต์ทูเดย์

“อยากรวยต้องทนรวย” อาจเรียกได้ว่าเป็นเคล็ดลับการลงทุนของขาใหญ่ตลาดหุ้นไทย “เสี่ยยักษ์” หรือ วิชัย วชิรพงศ์ นักลงทุนรายใหญ่ ที่ได้มาเปิดเผยเคล็ดลับความรวยจากการลงทุน ในงาน “มหกรรมทำเงินให้งอกเงย” จัดโดยหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2558

เสี่ยยักษ์ กล่าวว่า นักลงทุนในที่นี้ต่างเคยเฉียดรวยมาหมด เฉียดแล้วเฉียดอีก แต่เหตุผลสำคัญที่ไม่รวยเป็นเพราะขายหุ้นออกไปก่อน ทนรวยไม่ได้ ทั้งที่ก่อนซื้อหุ้นได้ศึกษาและมีความเชื่อมั่น แต่เมื่อลงทุนไปราคาหุ้นกลับปรับตัวลดลง หรือบางครั้งได้ผลกำไร 30% ก็ขายหุ้นทิ้ง ทำให้ไม่ได้รับผลตอบแทนแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย

“ในเมื่อเราเชื่อมั่นว่าหุ้นตัวนี้ดี ต้องทนรวยให้ได้ สิ่งนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด หุ้นในพอร์ตของผมบางตัวกำไร 1,000% ผมก็ยังไม่คิดขาย มักจะมีคนถามว่า แล้วจุดไหนเป็นจุดที่ควรจะขาย คำตอบก็คือ ในวันที่ความสนใจของคนอื่นพุ่งเข้ามายังหุ้นที่เราถืออยู่ วอลุ่มสูง หรือเมื่อมีหุ้นตัวที่ดีกว่าตัวที่เราถือเข้ามา มีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงกว่าเข้ามา”

เสี่ยยักษ์เปรียบตลาดหุ้นเหมือนกับสมรภูมิรบ ต้องวางแผนให้ดี เพราะเงินที่ใช้ลงทุนเป็นเงินออมสะสมมาทั้งชีวิต จะลงทุนต้องคิดให้หนัก สำหรับผู้ลงทุนหน้าใหม่ทุกวันนี้เข้าสู่วงการตลาดหุ้นได้ง่าย เพียงเอาสเตทเมนต์ไปเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นกับโบรกเกอร์ สามารถส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นได้แล้ว แต่สิ่งสำคัญคือคุณจะเอาอะไรไปสู้กับผู้ลงทุนรายอื่นที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี

หากคำตอบของการสู้คือหวังเพียงค่ากับข้าวเล็กๆ น้อยๆ ละก็ เสี่ยยักษ์แนะนำว่า อย่าคิดก้าวเข้ามา เพราะตลาดหุ้นเป็นสมรภูมิที่มีคนแพ้ คนชนะ บาดเจ็บและล้มตาย หากจะยึดการเล่นหุ้นเป็นอาชีพ ทั้งที่ไม่มีความรู้ ไม่มีเคล็ดลับ ไม่มีอะไรเลย จะเอาอะไรไปสู้กับคนที่มีประสบการณ์

จุดเริ่มต้นของนักลงทุนที่ดี ต้องศึกษาหาความรู้เรื่องการลงทุน การอ่านงบการเงิน กราฟเทคนิค สิ่งเหล่านี้หาความรู้ได้ง่ายในเทคโนโลยีสมัยใหม่นี้ หลังจากนั้นคือการเลือกจังหวะในการซื้อหุ้น ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการลงทุน นักลงทุนต้องหาหุ้นในดวงใจที่จะเปลี่ยนชีวิต

“ผมอยากจะเล่าถึงนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จเป็นที่รู้จักของนักลงทุน คือ คุณนิเวศน์ เหมวชิรวรากร สามารถชนะด้วยหุ้นเพียง 2-3 ตัว ที่ทำให้ชีวิตเปลี่ยน หนึ่งในนั้นคือหุ้น CPALL เพราะท่านเชื่อว่าค้าปลีกจะดี เราต้องคิดในรูปแบบเหล่านี้ หลายต่อหลายคนชนะหุ้นด้วยหุ้นไม่กี่ตัว เป็นหุ้นเปลี่ยนชีวิต ดังนั้นต้องหาให้ได้ หาให้เจอ”

หนึ่งในแนวทางที่ “เสี่ยยักษ์” ใช้คือ การเฟ้นหาหุ้นที่อยู่ระหว่างการฟื้นตัว มีโอกาสฟื้นตัว หรือบรรดาหุ้นเทิร์นอะราวด์ โดยได้ยกตัวอย่างว่า เมื่อ 3-4 ปีก่อน ได้ไปซื้อหุ้นที่อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ แต่ส่วนตัวเห็นว่ามีอนาคต ราคายังต่ำ มีโอกาสเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดี และหลังจากซื้อแล้วต้องอดทนรอกับมัน ต้องยอมรับในจุดนี้ให้ได้ เพราะในความเชื่อส่วนตัวเห็นว่า เมื่อทุกคนรู้หมดว่าหุ้นไม่ดี ทุกคนกลัวหมด จะเป็นจุดที่ปลอดภัย แต่เมื่อไหร่ก็ตาม ทุกคนมั่นใจ นั่นกลับเป็นจุดที่อันตราย

นอกจากการเฟ้นหาหุ้นเทิร์นอะราวด์แล้ว หลักการลงทุนหนึ่งที่ “เสี่ยยักษ์” ชื่นชอบคือการลงทุนสวนเมื่อเกิดวิกฤต เพราะจะให้ผลตอบแทนในอัตราที่สูง แต่ต้องเป็นวิกฤตจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หรือจากอุบัติเหตุ แต่หากเป็นวิกฤตเศรษฐกิจไม่ควรเข้าไปซื้อสวน เพราะจะใช้เวลานานกว่าจะฟื้นตัว

“พีรเจต สุวรรณนภาศรี” นักลงทุนหุ้นพื้นฐานระยะยาว (วีไอ) และผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท แกรททิทูด อินฟินิท (GIFT) เผยเคล็ดลับการลงทุนว่า นักลงทุนควรมีความอดทนในการลงทุน บางคนอาจมีโชคจากการลงทุน แต่การลงทุนในวันข้างหน้าโชคไม่ได้ช่วยเสมอไป แต่สิ่งที่จะทำให้มีกำไรจากการลงทุนหรือเอาชนะตลาดหุ้นได้ คือ ฝีมือและความอดทน

อันดับแรกต้องทำการบ้าน ต้องรู้จักและศึกษาหุ้นที่จะลงทุน ภาพเศรษฐกิจขนาดใหญ่ และหุ้นตัวนั้นๆ มีความผูกพันกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ใด อย่างไรบ้าง เช่น ราคายางพารา น้ำมัน เป็นต้น พร้อมกับกำหนดเป้าหมายว่าต้องการได้ผลตอบแทนเท่าไหร่จากการลงทุน เช่น ตั้งเป้าหมายจะต้องมีกำไร 100% ภายในระยะเวลา 2 ปี

เมื่อรู้จักสินค้าแล้ว ต้องรู้จักอดทนไปกับมัน และเพิกเฉยกับเหตุการณ์ระหว่างทางที่เข้ามา และเฝ้าคอยติดตามว่า เมื่อผลประกอบการออกมาเป็นไปตามที่คิดและประเมินหรือไม่ หากเป็นไปตามแนวทางคงเป้าหมายเดิม แต่หากไม่เป็นไปดังคาด ค่อยเข้าไปพิจารณาว่าผิดพลาดตรงไหน

“ผมเป็นคนโรคจิตอ่อนๆ ผมไม่ค่อยจะลงทุนตามใคร ผมจะไม่ค่อยลงทุนในหุ้นที่ทุกคนซื้อ และผมจะไม่ลงทุนหากได้ผลตอบแทนต่ำกว่า 100% พอวางเป้าหมายเช่นนี้ ที่ผ่านมาแทบจะไม่ได้ลงทุนในหุ้นบลูชิปมากนัก”

“พีรเจต” กล่าวอีกว่า โดยส่วนตัวไม่มีหุ้นในดวงใจ หรือจะไม่จำหุ้นที่สร้างผลตอบแทนดีๆ แต่จะจำหุ้นที่ลงทุนผิดพลาด หุ้นที่ให้บทเรียน เพื่อจะนำไปเป็นบทเรียน การลงทุนเป็นเรื่องเฉพาะตัว ไม่อยากให้ตามสื่อหรือตามกระแส ควรเลือกหุ้นดีที่คนอื่นยังมองไม่เห็น และอยากเตือนผู้ลงทุนอย่าไปเชื่อข่าวทางไลน์ โดยส่วนตัวมองว่าเป็นข่าวที่มีความน่าเชื่อถือต่ำมาก

ข่าวล่าสุด

พรรคเพื่อไทยลุยอยุธยา จี้จ่ายเยียวยา-ดันประกันกำไร 30%