posttoday

SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,350-1,370 จุด แนะ “Selective Buy” ชู CPAXT และ TU

29 เมษายน 2567

SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,350-1,370 จุด จับตาประชุมเฟด เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ย กลยุทธ์การลงทุน “Selective Buy” แนะนำ CPAXT และ TU

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า SET เคลื่อนไหวในกรอบ โดยมีกรอบบนที่คาดยังถูกจำกัดบริเวณแนวต้าน 1,370 จุด ขณะที่กรอบล่างมีแนวรับอยู่ที่ 1,355 และ 1,350 จุด ตามลำดับ ขณะที่นักลงทุนรอติดตาม ประเด็นสำคัญในสัปดาห์นี้ สำหรับการประชุมเฟด เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ย ทั้งในภาพรวม หากดัชนีต่ำกว่า 1,350 จุด จะเริ่มเป็นสัญญาณลบ

ทั้งนี้ ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในภาวะเปราะบางตามตลาดหุ้นโลก จากความกังวลสถานการณ์ ตึงเครียดในตะวันออกกลาง และเฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยล่าช้ากว่าที่ตลาดคาดไว้เดิม โดยสัปดาห์นี้คาดอัตราการว่างงานของสหรัฐจะทรงตัว และการ ประชุมของเฟดจะยังมีมติคงดอกเบี้ยนโยบาย ขณะที่การเข้าสู่ฤดูกาลประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/2567 ของหุ้นกลุ่ม Real Sector คาดจะมีอัตราการเติบโตต่ำ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ "Selective Buy" ใน 3 ธีมหลัก ดังนี้

1) หุ้นเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 1/2567 ซึ่งคาดจะมีการเติบโตที่ดี YoY และจะประกาศในช่วง สองสัปดาห์หน้า เลือก HMPRO TRUE GFPT KCE TOP ขณะที่แนะนำระมัดระวังการลงทุนในหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า ซึ่งมีความเสี่ยงค่าเงินบาทอ่อนจะกดดันผลประกอบการไตรมาส 1/2567

2) นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ แนะนำหุ้นปลอดภัย (Defensive Stock) ซึ่งพื้นฐานแข็งแกร่ง ผลประกอบการไม่ผันผวนตามเศรษฐกิจ เลือก หุ้นการแพทย์ (BDMS BCH) หุ้นขนส่งทางบก (BEM) หุ้นค้าปลีก (CPALL CPAXT) หุ้นสื่อสาร (ADVANC) หุ้นอสังหาฯ ปันผลดี (AP)

3) หุ้นที่สามารถเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง (Hedging) จากกรณีความไม่สงบในตะวันออกกลาง ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนสูง 

โดยนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง เลือกหุ้นน้ำมัน ยืนต้นอย่าง PTTEP ซึ่งคาดจะได้ประโยชน์โดยตรงจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น และหุ้นโรงกลั่นจะได้ผลบวกผ่านกำไรสต๊อกที่เพิ่มขึ้นเชิงพื้นฐานชอบ BCP 

(ทั้งนี้ หากสถานการณ์ลุกลามไปสู่การสู้รบอย่างเต็มรูปแบบอาจหนุนราคาน้พมันเกิน 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในระยะสั้น เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่ออุปทานของอิหร่านที่คิดเป็น 3-4% ของอุปทานโลก และในกรณีเลวร้ายกระทบการส่งออกน้ำมันผ่านช่องแคบ Hormuz อาจกระทบการส่งออกได้สูงสุดถึงกว่า 17% ของอุปทานโลก) 

ขณะที่มองลบต่อกลุ่มค้าปลีกน้ำมัน (ค่าการตลาดแคบ) และกลุ่มสายการบิน (ต้นทุนเพิ่ม)

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ CPAXT ไตรมาส 1/2567 คาดกำไรปกติ 2.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 21%YoY จากยอดขายและ EBIT margin ที่ดีขึ้น (SG&A/ยอดขายลดลง) และดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงจากการรีไฟแนนซ์หนี้ คาดกำไรไตรมาส 2/2567 เติบโต YoY จากยอดขายที่ดีขึ้นจากนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นและอากาศร้อนที่ช่วยหนุนยอดขายสินค้าอาหารและเครื่องใช้ไฟฟ้า

TU ไตรมาส 1/2567 คาดกำไรปกติ 922 ล้านบาท เติบโต 15%YoY จากยอดขายและมาร์จิ้นที่ดีขึ้น คาดกำไรไตรมาส 2/2567 เพิ่มขึ้น QoQ จากปัจจัยฤดูกาล และ YoY จากธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปและธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงดีขึ้น ทั้งไม่มีผลขาดทุนจาก Red Lobster ปัจจุบันเทรด PER 67F ที่ 14.7 เท่า ต่ำกว่า -1SD ของ PER เฉลี่ย 10 ปีที่ 16 เท่า