posttoday

SAFE เคาะราคาไอพีโอ 21 บาท/หุ้น เปิดจองซื้อ 25-27 ต.ค. จ่อเทรดใน พ.ย.นี้

24 ตุลาคม 2566

“เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป” หรือ SAFE เคาะราคาไอพีโอ 21 บาท/หุ้น เปิดจองซื้อ 25-27 ต.ค.นี้ จ่อเทรด SET ภายในเดือน พ.ย.นี้ ชูกลยุทธ์สู่ผู้นำรักษาผู้มีบุตรยากและวินิจฉัยพันธุกรรมตัวอ่อนและเวลเนสในภูมิภาคเอเชีย

นางดาริน กาญจนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออพท์เอเชีย แคปิตอล จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SAFE เปิดเผยว่า SAFE ได้รับอนุญาตให้เสนอขายหลักทรัพย์ฯ จากสำนักงาน ก.ล.ต. ปัจจุบันแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) มีผลใช้บังคับแล้ว 

โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนและหุ้นสามัญจำนวนไม่เกิน 76,748,600 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 25.25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญครั้งนี้ โดยการเสนอขายแบ่งเป็น 1. หุ้นสามัญที่เสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิม จำนวนไม่เกิน 52,800,800 หุ้น และ 2. หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวนไม่เกิน 23,947,800 หุ้น 

ทั้งนี้ SAFE ได้ลงนามแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ และแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น กล่าวว่า ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ที่ราคา 21 บาทต่อหุ้น และจะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อในวันที่ 25-27 ต.ค.2566 และคาดว่าจะสามารถนำหุ้น SAFE เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในเดือน พ.ย.2566 

โดยราคา IPO ดังกล่าวมีความเหมาะสม สะท้อนความแข็งแกร่งในการเป็นผู้นำรักษาผู้มีบุตรยากและด้านวินิจฉัยพันธุกรรมตัวอ่อนและเวลเนสในภูมิภาคเอเชีย 

ทั้งนี้ SAFE มีแผนนำเงินที่ได้จากการระดมทุนนั้น ใช้เป็นเงินลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจในอนาคต รวมถึงเพื่อใช้เป็นเงินลงทุนในโครงการขยายสาขา และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

นพ.วิวัฒน์ กว้างคณานุรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SAFE กล่าวว่า กลุ่มบริษัทเป็นผู้ให้บริการคลินิกการแพทย์เฉพาะทางเพื่อการมีบุตร ให้บริการด้านการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ทางการแพทย์แบบครบวงจรในไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการให้บริการด้านการเจริญพันธุ์ในระดับสากล และได้รับการรับรองมาตรฐานคลินิกเด็กหลอดแก้วจากสถาบัน RTAC จากประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เป็นแห่งแรกของประเทศไทย 

โดยให้บริการตั้งแต่ให้คำแนะนำ คำปรึกษา ตลอดจนให้การรักษาแก่ผู้มีบุตรยากและการเพาะเลี้ยงตัวอ่อนแบบพิเศษ การแช่แข็งไข่ ฝากไข่ อสุจิ และตัวอ่อน เพื่อโอกาสในการเติมเต็มความฝันของการมีบุตรในอนาคต 

นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทยังเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์และห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ โดยให้บริการแก่ผู้มีบุตรยากมากกว่า 15 ปี มีสถิติในการเก็บไข่ตั้งแต่ปี 2561 ถึงไตรมาส 2/2566 กว่า 7,236 รอบ (OPU Cycle) ด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ เช่น การนำเทคโนโลยีคัดกรองโครโมโซมตัวอ่อนทั้ง 24 โครโมโซมด้วยเทคนิค PGT-A มาใช้เป็นแห่งแรกในไทย เป็นต้น 

รวมทั้งแพทย์และและบุคลากรของกลุ่มบริษัทฯ มีความชำนาญและประสบการณ์เฉลี่ยมากกว่า 15 ปี รวมถึงมีนักวิทยาศาสตร์ของเพาะเลี้ยงตัวอ่อนที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากยุโรป (ESHRE) เป็นแห่งแรกของไทย จึงมีอัตราความสำเร็จการตั้งครรภ์โดยเฉลี่ยสูงถึง 75%

ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทให้บริการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยวิธีปฏิสนธิแบบเจาะจง (ICSI) ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน และวิธีฉีดน้ำเชื้ออสุจิเข้าโพรงมดลูก (IUI) การย้ายตัวอ่อนกลับสู่โพรงมดลูก บริการแช่แข็งเก็บรักษาเซลล์ไข่ อสุจิ และตัวอ่อน รวมถึงการเก็บอสุจิและคัดอสุจิด้วยวิธีที่ทันสมัย โดยให้บริการผ่านสาขาทั้ง 5 แห่ง ได้แก่ สาขาอัมรินทร์ พลาซ่า, รามอินทรา,  ภูเก็ต, ขอนแก่น และศรีราชา มีสัดส่วนลูกค้าชาวไทย 54% และต่างชาติ 46% 

ปัจจุบัน บริษัทดำเนินธุรกิจผ่านบริษัทย่อย 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท เน็ก เจนเนอร์เรชั่น จีโนมิค จำกัด (NGG) ถือหุ้น 99.99% ดำเนินธุรกิจด้านการตรวจวินิจฉัยพันธุกรรมตัวอ่อนและทารกในครรภ์และการให้บริการด้านห้องปฏิบัติการทางด้านพันธุศาสตร์ต่างๆ และ บริษัท เซฟ เวลเนส จำกัด (SWC) ถือหุ้น 80% ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านผิวหนังและความงามภายใต้ชื่อ “เดอะฟาวเทน เวลเนส เซ็นเตอร์” อย่างครบวงจรตั้งแต่ก่อนและหลังคลอดบุตร 

นพ.วิวัฒน์ กล่าวว่า SAFE วางกลยุทธ์การขับเคลื่อนธุรกิจสู่ผู้นำด้านการรักษาภาวะมีบุตรยากและด้านวินิจฉัยพันธุกรรมตัวอ่อนและเวลเนสในระดับเอเชีย ได้แก่ 1. การขยายศูนย์การแพทย์เพื่อการมีบุตรและห้องปฏิบัติการเจริญพันธุ์ ไปยังโรงพยาบาลพันธมิตรที่มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ ภายในสถานพยาบาลคู่ค้า ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพในด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ทั้งในรูปแบบพันธมิตรทางการค้า การร่วมลงทุน รวมถึงการเข้าซื้อกิจการ 

2. เลือกใช้เทคโนโลยีในการรักษาที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพอยู่เสมอ รวมทั้งพัฒนาบุคลากรในการให้บริการ 3. สื่อสารและสร้างแบรนด์ “SAFE FERTILITY” ในฐานะผู้นำทางด้านการรักษาภาวะมีบุตรยากและด้านวินิจฉัยพันธุกรรมตัวอ่อนในเอเชียในเชิงรุกมากขึ้น เช่น ผ่านช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ไปยังผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ, การทำตลาดดิจิทัล (Digital Marketing)  เป็นต้น และ 4. ขยายไปยังธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อเพิ่มรายได้และผลกำไร 

นางชนิดา พัธโนทัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีการเงิน SAFE กล่าวว่า แม้ในช่วงที่ 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้เกิดโรคระบาด COVID-19 ที่ระบาดไปทั่วโลก แต่กลุ่มบริษัทก็สามารถรักษาการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีรายได้รวมในปี 2563-2565 อยู่ที่ 529.77 ล้านบาท 561.96 ล้านบาท 729.32 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 42.16 ล้านบาท 78.23 ล้านบาท 161.73 ล้านบาท ตามลำดับ 

ส่วนงวด 6 เดือนแรกปี 2566 มีรายได้รวม อยู่ที่ 409.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 87.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.52% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการบริหารอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ข่าวล่าสุด

สวนดุสิตโพล เปิด 5 อันดับ “นักการเมือง” ประชาชนเชียร์นั่งนายกฯ