posttoday

รู้ก่อนซื้อ! หุ้นชิ้นส่วนยานยนต์ ครึ่งปีหลัง ตัวไหนรุ่งที่สุด ?

28 สิงหาคม 2566

โบรกสแกนหุ้นชิ้นส่วนยานยนต์ รับทรัพย์ข่าว ISUZU เตรียมผลิตรถกระบะไฟฟ้าขายในไทยเร็วที่สุดปี 2568 แค่ไหน? บวกผลงานครึ่งปีหลัง ตัวไหนรุ่งที่สุด ?

ราคาหุ้น AH ปิดการซื้อขายเช้านี้(28 ส.ค.66) อยู่ที่ 34.75 บาท ลดลง 0.25 บาท คิดเป็น -0.71%
ราคาหุ้น TRU ปิดเช้านี้ อยู่ที่ 3.94 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท คิดเป็น +0.51%
ราคาหุ้น SAT ปิดเช้านี้ อยู่ที่ 18.80 บาท ลดลง 0.20 บาท คิดเป็น -1.05%
ราคาหุ้น STANLY ปิดเช้านี้ อยู่ที่ 192 บาท ลดลง 1 บาท คิดเป็น -0.52%

ส่องหุ้นชิ้นส่วนฯ

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ตามที่สำนักข่าว nikkei ของญี่ปุ่นรายงานว่าอีซูซุมอเตอร์ส วางแผนที่จะเปิดตัวรถกระบะไฟฟ้าในประเทศไทยและที่อื่นๆในช่วงต้นปี 2025 โดยตั้งเป้าที่จะรักษาส่วนแบ่งการตลาดในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยขณะนี้ผู้ผลิตรถยนต์ของจีนเป็นผู้นำการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยแล้ว

     โดยกระบะไฟฟ้ารุ่นแรกของแบรนด์มาจากพื้นฐานของ ISUZU D-MAX ของบริษัทจะผลิตในประเทศไทยสำหรับการเปิดตัวในปี 2025 สำหรับอีซูซุ ครองตลาดรถกระบะในประเทศไทยประมาณครึ่งหนึ่ง ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนมากกว่า 40% ของยอดขายรถยนต์ในประเทศ

     ฝ่ายวิเคราะห์มองเป็นประเด็นข่าวเชิงบวกต่อผู้ผลิตชิ้นส่วนที่มีฐานรายได้จาก ISUZU ได้แก่ AH (สัดส่วนรายได้ 25-28%) , TRU (สัดส่วนรายได้ 20-22%) , SAT (สัดส่วนรายได้ 7-8%) และ STANLY (สัดส่วนรายได้ 6-7%) จากประเด็นข่าวดังกล่าวถือเป็นการยืนยันว่าอีซูซุไม่ได้มีแผนจะย้ายฐานการผลิตออกจากไทย ตามที่เคยเป็นข่าวก่อนหน้านี้

     ด้านผลประกอบการใน 2H66 คาดยอดผลิตรถยนต์จะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก ซึ่งเข้า High season ของอุตสาหกรรม กอปรกับการเมืองมีเสถียรภาพมากขึ้น หลังจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งมาตรการสนับสนุนสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ คาดเริ่มเดินหน้าต่อภาพรวมปี 2566 

     ทั้งนี้ ฝ่ายคงประมาณการกำไร กลุ่มยานยนต์ภายใต้ Coverage ของเรา 6 บริษัท ที่ 5,541 ล้านบาท +8%YoY อิงสมมติฐานยอดผลิตรถยนต์ปีนี้ที่ 1.95 ล้านคัน ปรับขึ้น 4%YoY (แบ่งเป็นการส่งออกที่ 1.05 ล้านคัน +1.2%YoY และ จำหน่ายในประเทศ 9 แสนคัน +9.7%YoY)

     ฝ่ายฯคงให้น้ำหนักการลงทุนกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์“เท่ากับตลาด”เรามองว่าผลประกอบการปีนี้ฟื้นตัวตามอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์หลังสถานการณ์ขาดแคลนชิปคลี่คลาย

     ขณะที่ราคาหุ้นกลุ่มยานยนต์ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับลดลงจากประเด็นข่าวเรื่องอีซูซุย้ายฐานการผลิตจากประเทศไทยไปอินโดนีเซีย ซึ่งทางอีซูซุชี้แจงแล้วว่าไม่เป็นความจริง

     แต่นักลงทุนยังกังวลว่าอาจเกิดขึ้นในอนาคต เรามองว่าตลาดกังวลมากไป การย้ายฐานไปเลยไม่น่าจะเกิดอย่างน้อยในช่วง 1-2 ปีนี้ ทำให้หุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์หลายตัวกลับมาน่าสนใจ คงแนะนำซื้อ "AH" ราคาเป้าหมาย 54.10 บาท และยังคงเลือกเป็น Top pick ของกลุ่ม ราคาปัจจุบันถือว่ายังถูกซื้อขายที่ PER เพียง 6.5.x

ไฮซีซั่นหนุน AH 

     นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า “AH” คาดแนวโน้มผลประกอบการในช่วง 2H23 จะปรับขึ้นทั้ง h-h และ y-y แรงหนุนจากธุรกิจหลักที่เข้าสู่ช่วง High Season และกำไรจากบริษัทร่วมที่เด่น

     ด้านภาพอุตสาหกรรมรถยนต์ พบว่า เดือน ก.ค. ยอดผลิตรถ +4.72%y-y, +2.85%m-m จากการส่งออกยานยนต์ที่ดีขึ้น และล่าสุดมีแรงหนุนจากข่าว ISUZU ประกาศแผนการขายรถปิคอัพ EV ในไทยในช่วงปี 2025 ขณะที่ Valuation AH ปัจจุบันยังซื้อขายเพียง PE 6.7 เท่า และคาดปันผลที่ระดับ 4.7% ต่อปี ให้ราคาเป้าหมาย 45 บาท