เวอร์ชวลไลเซชัน เทคโนโลยีเปลี่ยนวิธีทำงาน

เวอร์ชวลไลเซชันซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น ไม่ใช่แค่ประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ยังดีกว่าระบบเดิม เสริมประสิทธิภาพได้มากขึ้น...

โดย...พรหมเมศร์ ศิริสุขวัฒนานนท์

การจัดการไอทีในระดับองค์กร มีการพูดถึงการใช้งานคลาวด์คอมพิวติงกันมากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่การใช้งานส่วนบุคคลอย่างในงาน WWDC 2011 ทางแอปเปิลก็เตรียมพร้อมเปิดให้บริการ ไอคลาวด์ ที่จะเปลี่ยนนิสัยการจัดเก็บ ใช้งาน และแบ่งปันข้อมูลระหว่างกันผ่านเครือข่ายกลุ่มก้อนเมฆในอากาศ

นี่คือทิศทางที่ชัดเจนของระบบไอทีทั่วโลก และแน่นอนว่าก่อนจะก้าวไปสู่ความเป็นคลาวด์คอมพิวติงได้ ในองค์กรต้องมีการจัดการระบบไอทีภายในเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่คลาวด์คอมพิวติง และปัจจัยหลักอย่างหนึ่งคือ การวางระบบเวอร์ชวลไลเซชันภายใน

เรื่องนี้อาจยังมีผู้บริหารระดับสูงที่ไม่เข้าใจในระบบเวอร์ชวลไลเซชันอยู่บ้าง เพราะในมุมมองของผู้ใช้แล้ว ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าระบบทำงานอย่างไร ขอให้สามารถช่วยเสริมการทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพองค์กรได้ก็เพียงพอแล้ว ดังนั้นหลายๆ ครั้งจึงไม่น่าแปลกใจที่จะคิดว่า การติดตั้งระบบเวอร์ชวลไลเซชันที่ดีเป็นการลงทุน แต่แท้จริงแล้วระบบดังกล่าวคือ การใช้บริการระบบไอทีที่ทำให้สามารถสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงของแต่ละหน่วยงานภายในองค์กรได้เป็นอย่างดี

ชวพล จริยาวิโรจน์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท วีเอ็มแวร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ถ้ามองการทำงานของหน่วยงานในองค์กรเมื่อต้องมีการสร้างสรรค์โครงการใหม่ๆ และต้องการคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์มาเพื่อบริหารจัดการโครงการนี้ รูปแบบเดิมๆ ฝ่ายไอทีต้องทำการจัดซื้อเซิร์ฟเวอร์ให้เพียงพอกับความต้องการ ทำให้มุมมองของงานไอทีคือการลงทุนซื้ออุปกรณ์ราคาสูงมาใช้งาน แต่ถ้าภายใน 6 เดือนต่อมา โครงการดังกล่าวไม่ประสบความสำเร็จ ไม่ได้รับการตอบรับที่ดี ก็ต้องยุติโครงการไป แต่เครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่ซื้อมาแล้วกลับต้องตั้งอยู่อย่างนั้นต่อไปอีก 3-5 ปี ยิ่งในหน่วยงานราชการ ระบบตรวจสอบทางบัญชียิ่งต้องเก็บไว้ โดยไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรเลย

แต่ด้วยระบบเวอร์ชวลไลเซชัน ถ้าองค์กรมีการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่บริหารจัดการเซิร์ฟเวอร์แบบเสมือนจริง และต้องประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก คือ ความมีเสถียรภาพ ทำงานแบบอัตโนมัติ และมีความปลอดภัย สิ่งที่ได้คือประสิทธิภาพที่เพิ่มสูงขึ้น โดยไม่ต้องพูดถึงการประหยัดค่าใช้จ่ายซึ่งมีอยู่แน่นอนแล้ว หมายความว่าระบบเวอร์ชวลไลเซชันที่ดีต้องสามารถดึงทรัพยากรที่มีเหลืออยู่ทั้งหมดในองค์กรมารวมกันได้ เพราะปกติเซิร์ฟเวอร์มักมีการใช้งานประมาณ 20-30% แสดงว่าอีกกว่า 60% สามารถดึงมาใช้งานได้ และถ้าดึงจากเซิร์ฟเวอร์ที่มีอยู่จำนวนมากมารวมไว้ที่เดียวกัน โดยอยู่บนพื้นฐาน 3 ส่วนดังที่กล่าวมา การลงทุนซื้อเซิร์ฟเวอร์ใหม่โดยไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเกิดขึ้น

สิ่งที่เกิดขึ้นคือ หากมีโครงการเกิดใหม่ขึ้นมา หน่วยงานดังกล่าวสามารถแจ้งฝ่ายไอทีว่าต้องการเซิร์ฟเวอร์ปริมาณเท่าใด และฝ่ายไอทีสามารถจัดสรรความต้องการดังกล่าว จากทรัพยากรส่วนกลางที่ไม่มีการใช้งานนั้นมาให้เสมือนเป็นเครื่องเซิร์ฟเวอร์ได้ทันที กำหนดเวลาการใช้งานได้ ถ้าใน 3 เดือนโครงการจบ สามารถดึงทรัพยากรนั้นกลับมารวมศูนย์ได้ตามเดิม ไม่ต้องเสียเงินซื้ออุปกรณ์ใหม่ และสะท้อนต้นทุนได้ว่าหน่วยงานใดมีการดึงทรัพยากรไปใช้มากน้อยเท่าใด และให้ผลตอบรับกับองค์กรหรือไม่ ทุกอย่างแสดงผลอย่างชัดเจน

นั่นคือเหตุผลที่ว่า ระบบไอทีจะไม่ใช่การลงทุนอีกต่อไป แต่เป็นการใช้บริการ

นั่นคือจุดเริ่มต้นของการพัฒนาไปสู่ความเป็นระบบไพรเวตคลาวด์ภายในองค์กร เพราะเมื่อรวมศูนย์ทรัพยากรภายในองค์กรแล้ว การจะวางซอฟต์แวร์และแอพพลิเคชันไว้ที่ส่วนกลาง เพื่อให้แต่ละหน่วยงานดึงไปใช้ก็เป็นเรื่องง่ายขึ้น สิ่งที่เห็นได้ในปัจจุบันคือ เริ่มมีองค์กรที่ใช้เวอร์ชวลเดสก์ท็อป ไม่ว่าจะใช้อุปกรณ์อะไร ก็สามารถดึงข้อมูลมาได้ทุกเมื่อเหมือนมีคอมพิวเตอร์ของตัวเองใช้อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ที่ทำงาน หรือนอกสถานที่ เพราะทุกอย่างทำงานอยู่บนคลาวด์

แน่นอนว่า สำหรับพับลิกคลาวด์ เป็นเป้าหมายสำหรับองค์กรขนาดกลางและเล็ก ที่ไม่มีเซิร์ฟเวอร์เป็นของตัวเอง แต่หากต้องการพื้นที่สำหรับทำงานโครงการ สามารถเลือกใช้วิธีเช่าใช้เวอร์ชวลเซิร์ฟเวอร์ได้ทันที

นี่คือสิ่งที่พิสูจน์ว่า เวอร์ชวลไลเซชันและคลาวด์คอมพิวติงจะเกิดขึ้นในประเทศไทย โดยปัจจุบันมีการใช้งานอยู่ประมาณ 20% ขององค์กรทั้งหมด แต่เชื่อว่าภายในปีนี้จะเพิ่มเป็น 30% และรอจังหวะโตแบบก้าวกระโดด ขณะที่สิงคโปร์มีประมาณ 50% และออสเตรเลียมีประมาณ 80%

สุทัศน์ คงดำรงเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไดเมนชั่น ดาต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มการใช้ระบบเวอร์ชวลไลเซชันในประเทศไทยมีความชัดเจนมาก บริษัทจึงมีการเพิ่มรูปแบบการติดตั้งและให้บริการเวอร์ชวลไลเซชันและคลาวด์คอมพิวติงเพื่อรองรับกับแนวโน้มดังกล่าว ยิ่งตอนนี้มีการพิสูจน์ในต่างประเทศมาชัดเจนแล้วว่า เวอร์ชวลไลเซชันคือทางออกของระบบไอทียุคใหม่ รอเพียงแค่ผู้บริหารและองค์กรในประเทศไทยมีความเชื่อมั่น การเติบโตจะมีแบบก้าวกระโดดในทันที

“การเริ่มต้นในช่วงแรกมีแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่มีอะไรที่โตในชั่วข้ามคืน อาจมีการทดลองใช้เพื่อทดสอบ จากนั้นองค์กรจะเห็นประสิทธิภาพที่ดีขึ้นทันที จากนั้นจะค่อยๆ มีการเพิ่มการใช้งานมากขึ้น นี่คือสถานการณ์ในปัจจุบัน แต่หลังจากนี้จะต้องมีการวางแผนเพื่อรองรับการใช้งานที่เพิ่มขึ้นแบบเท่าตัวแน่นอน” สุทัศน์ กล่าว

สำหรับในปัจจุบันมีองค์กรขนาดใหญ่กว่า 40 แห่ง ที่มีการทดลองใช้ระบบเวอร์ชวลไลเซชันอยู่แล้ว คาดว่าผลจะแสดงออกมาภายในปีนี้ และจากนั้นจะมีการติดตั้งใช้งานเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด กลุ่มนี้ถือเป็นองค์กรผู้นำนวัตกรรม จากนั้นเมื่อพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าดีจริง จะเริ่มมีองค์กรขนาดใหญ่อื่นๆ เริ่มนำไปใช้งานเช่นเดียวกัน องค์กรระดับกลาง รวมถึงบริษัทในนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศจะเริ่มสนใจใช้ ตอนนั้นจะเกิดระบบคลาวด์คอมพิวติงขึ้นทั้งไพรเวต พับลิก และไฮบริด เท่ากับเป็นการแสดงให้เห็นว่าเวอร์ชวลไลเซชันซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น ไม่ใช่แค่ประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ยังดีกว่าระบบเดิม เสริมประสิทธิภาพได้มากขึ้น