วินิจ ปรุงพาณิช ชูศูนย์บริการสีเขียว ปั้นแบรน์แอค

เข้ามาดูแลกิจการของศูนย์บริการบริดจสโตน เอ.ซี.ที. หรือแอค

โดย..พิสันต์ อิทธิวัฒนกุล

ได้ร่วม 3 ปีแล้ว สำหรับ วินิจ ปรุงพาณิช ซึ่งได้รับความไว้วางใจเข้ารั้งตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัท บริดจสโตน เอ.ซี.ที. (ประเทศไทย) ตั้งแต่ที่ศูนย์บริการแห่งนี้เปลี่ยนมือเจ้าของจากเชลล์มาสู่ร่มเงาของบริดจสโตน

แม้ในมุมมองผู้นำตลาดยางรถยนต์อย่างบริดจสโตนจะมองว่าตลาดศูนย์บำรุงรักษารถยนต์ครบวงจรน่าสนใจที่จะใช้เป็นฐานในการขยายธุรกิจจำหน่ายยางรถยนต์ แต่ในมุมมองของคนทำงานแล้ว วินิจ ยอมรับว่าตลาดนี้เป็นตลาดที่แข่งขันกันอย่างรุนแรงมาก

โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการรายอื่นๆ ที่อยู่ในตลาดมาอย่างยาวนาน ซึ่ง วินิจ บอกว่าตลาดกำหนดค่อนข้างลำบาก เนื่องจากไม่มีการกำหนดที่ชัดเจนในเรื่องการแข่งขัน ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่าคู่แข่งลงไปถึงกลุ่มร้านขายยาง ขณะที่แอคมองกลุ่มคู่แข่งที่เน้นเรื่องการให้บริการครบวงจรเป็นหลักเท่านั้น

“ต้องยอมรับกันก่อนว่าธุรกิจนี้แข่งขันกันรุนแรงมาก ถามจริงๆ 3 ปีที่ผ่านมา เรายังไม่พอใจกับสถานการณ์ทั้งหมด แต่ก็ต้องยอมรับว่าเราเองถือเป็นแบรนด์ใหม่เมื่อเทียบกับคู่แข่ง ที่ผ่านมาลูกค้ารู้จักแอคในระดับหนึ่ง แต่เราจำเป็นต้องทำงานกันมากขึ้น โดยมองว่าจะต้องเน้นไปที่การขยายการรับรู้ของแบรนด์คู่ไปกับการขยายฐานลูกค้าใหม่” วินิจ กล่าว

นอกจากเครือข่าย 65 สาขาที่เปิดให้บริการไปแล้วทั่วประเทศ ล่าสุดแอคได้เปิดโครงการนำร่องศูนย์บริการต้นแบบสีเขียวแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ใกล้นิคมอุตสาหกรรมนวนคร เพื่อยกระดับมาตรฐานการลดการใช้พลังงาน ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย และความสะดวกสบายของลูกค้า ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนการสร้างแบรนด์แอคอย่างยั่งยืน

ศูนย์บริการแห่งนี้จะเป็นสาขาต้นแบบสีเขียวที่เน้นเรื่องความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และห่วงใยสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กัน เริ่มตั้งแต่การออกแบบอาคาร การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ การจัดภูมิสถาปัตย์ เพื่อช่วยในเรื่องของการประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

“นอกจากตัวอาคารแล้ว เราจะเป็นผู้นำในเรื่องการจำหน่ายสินค้าสีเขียว เพื่อช่วยปกป้องโลกของเรา โดยล่าสุดได้เป็นตัวแทนจำหน่ายรีเบิร์ธ แบตเตอรี่ของยีเอส ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ที่ผลิตจากตะกั่วรีไซเคิล รวมถึงอยู่ระหว่างการเจรจาสินค้าอีก 12 รายการในกลุ่มสินค้าสีเขียว เพื่อจำหน่ายเพิ่มเติมในอนาคต” วินิจ เล่าถึงแผน

แผนงานสร้างภาพลักษณ์ของแอคนั้น วินิจ บอกว่าจะเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการขยายสาขาแห่งใหม่ หากพื้นที่สามารถรองรับได้ก็จะเน้นการขยายในรูปแบบของศูนย์บริการสีเขียวเช่นเดียวกัน แม้ต้นทุนในการก่อสร้างจะแพงกว่าศูนย์บริการแบบธรรมดา 10-15% ก็ตาม

นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้งบในการขยาย 3 สาขา และปรับปรุงสาขาเดิมอีก 15 สาขาของแอคในปีนี้ พุ่งขึ้นไปถึง 140 ล้านบาท ไม่รวมงบการตลาดที่เพิ่มขึ้นอีก 20% เป็น 80-90 ล้านบาท โดยหวังจะดูดลูกค้าเพิ่มขึ้นจากตัวเลข 3 หมื่นคันต่อเดือนในปัจจุบัน

ทำแล้วจะประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด เป้าหมายการเติบโต 15% จากรายได้ 1,400-1,500 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา จะเป็นตัวตัดสินเมื่อถึงเวลาดีดลูกคิดปิดงบปลายปีนี้!!!