"จักรพงษ์ แสงมณี" ว่าที่ รมว.ดีอีคนใหม่ กับภารกิจ เข็น NT ขึ้นภูเขา

กระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีของ นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร กำลังจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในหลายกระทรวง รวมถึงกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ซึ่งกำลังจะมี "ว่าที่รัฐมนตรี" คนใหม่เข้ามาขับเคลื่อน แทนนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ซึ่งต้องไปรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกทรวงมหาดไทย

โดยแหล่งข่าวระดับสูงคาดการณ์ว่า เขาคนนั้นคือ นายจักรพงษ์ แสงมณี หรือ "เพ้า" ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ,อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน โดยเขาอยู่ข้างกายมาโดยตลอด และนับเป็นผู้คร่ำหวอดในแวดวงเศรษฐกิจและการเมืองของพรรคเพื่อไทย

นายจักรพงษ์ เกิดปี 2522 (ปัจจุบันอายุ 45 ปี) จบการศึกษาระดับปริญญาโทด้านการบริหารจาก University of Colorado และเริ่มต้นเส้นทางอาชีพจากการเป็นนักธุรกิจด้านโลจิสติกส์ตั้งแต่ปี 2547 ก่อนจะเข้าสู่การเมืองกับพรรคเพื่อไทยตั้งแต่ปี 2552 ด้วยวัยเพียง 30 ปี ถือเป็นสมาชิกพรรคที่อายุน้อยที่สุดในขณะนั้น

ตลอดเส้นทางทางการเมือง นายจักรพงษ์ ได้ทำหน้าที่ช่วยงานสำนักงานเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ก่อนจะขยับเป็นที่ปรึกษาอนุกรรมาธิการงบประมาณด้านไอซีที และเป็นหนึ่งในทีมเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย ในปี 2554 เขาได้รับตำแหน่งเป็นหนึ่งในกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย และเป็นทีมหาเสียงของอดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร พร้อมทำงานร่วมกับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง จนกระทั่งเกิดการรัฐประหารในปี 2557 ทำให้เขาถูกเว้นวรรคทางการเมืองไปพักใหญ่

ขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/J.Sangmanee/?locale=th_TH

นายจักรพงษ์กลับมารับตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยอีกครั้งในปี 2561 พ่วงด้วยตำแหน่งนายทะเบียนสมาชิกพรรค แม้ในการเลือกตั้งปี 2562 เขาจะลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อแต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ในปี 2565 เขาดำรงตำแหน่งอนุกรรมาธิการงบประมาณ และกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเงินกู้ 5 แสนล้านบาทของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 

และในการเลือกตั้งปี 2566 นายจักรพงษ์ยังได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เลขานุการศูนย์ปฏิบัติการการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย โดยติดตามดูแลนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ช่วงลงพื้นที่หาเสียง ทำให้เขามีประสบการณ์และความเข้าใจในประเด็นเศรษฐกิจและนโยบายเป็นอย่างดี

เปิดเผยทรัพย์สิน: กว่า 56 ล้านบาท ในช่วงรับตำแหน่ง รมช.ต่างประเทศ

สำหรับข้อมูลส่วนตัว นายจักรพงษ์ แสงมณี ได้แจ้งสถานะโสด และมีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 56,588,980 บาท โดยไม่มีหนี้สิน การเปิดเผยครั้งนี้เป็นการแจ้งในช่วงที่รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อปี 2566 ประกอบด้วย:

เงินสด: 1.5 ล้านบาท

เงินฝาก: 4 บัญชี รวม 1,777,516 บาท

เงินลงทุน: ใน Equity-lHFG จำนวน 3,818,600 หน่วย มูลค่ารวม 3,775,464 บาท

เงินให้กู้ยืม: 20 ล้านบาท แก่บริษัท ยนตรทรัพย์ โดยนายสุรินทร์ แสงมณี ประธานบริษัท ซึ่งเป็นบิดาของนายจักรพงษ์เอง เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2565 และยังมียอดหนี้คงเหลือเต็มจำนวน

ยานพาหนะ: มูลค่า 2.2 ล้านบาท

ทรัพย์สินอื่น: มูลค่ารวม 27,336,000 บาท ประกอบด้วย

พระสมเด็จ 1 องค์ มูลค่า 7 ล้านบาท

เพชร (Diamond 7.06 ct, T-VS) มูลค่า 7.8 ล้านบาท

ทองคำรวม 41 บาท

นาฬิกาข้อมือรวม 10 เรือน อาทิ Rolex, Patek Philippe, Breitling 1884, Leica, Panerai 111, Santos De Cartier
ปืน Glock 17 จำนวน 1 กระบอก

ชุดเหรียญทองคำ 12 บาท 2 ชุด

เหรียญทองคำ 2.2 บาท 10 เหรียญ

ชุดเหรียญทองคำ 24 บาท 1 ชุด

ชุดเหรียญทองคำ 18 บาท 1 ชุด

ด้านรายได้และรายจ่าย นายจักรพงษ์แจ้งว่ามีรายได้ต่อปีจากเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งรวม 1,362,720 บาท และมีรายจ่ายต่อปีเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 600,000 บาท

สองภารกิจหลักสุดหินที่รออยู่

เมื่อก้าวเข้าสู่ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี นายจักรพงษ์จะต้องเผชิญกับสองภารกิจสำคัญที่เป็นความท้าทายอย่างยิ่ง และเป็นที่จับตาของสาธารณชน

ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมออนไลน์ ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมออนไลน์ยังคงเป็นภัยร้ายที่สร้างความเสียหายให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง กระทรวงดีอีภายใต้การนำของนายจักรพงษ์จะต้องเร่งยกระดับการทำงาน ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหามาตรการที่เด็ดขาดและมีประสิทธิภาพในการป้องกัน ปราบปราม และจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว พร้อมทั้งสร้างความตระหนักรู้ให้ประชาชนไม่ตกเป็นเหยื่อ

การสานต่อนโยบายการนำพนันออนไลน์จากใต้ดินสู่บนดินทำเป็นเรื่องให้ถูกกฎหมายซึ่งขณะนี้เรื่องค้างอยู่ โดยอยู่ระหว่างการทำงานร่วมกันของกระทรวงดีอีและกระทรวงมหาดไทย

การนำพาบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ให้อยู่รอด NT ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจด้านโทรคมนาคมขนาดใหญ่ กำลังเผชิญกับความท้าทายทางธุรกิจและการแข่งขันที่รุนแรง นายจักรพงษ์ในฐานะ รมว.ดีอี จะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทาง วางแผนยุทธศาสตร์ และแก้ปัญหาต่างๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน สร้างรายได้ และนำพา NT ให้สามารถยืนหยัดและเติบโตได้อย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัล

ที่น่าจับตา คือการสานต่อ ภารกิจ ในการหาพันธมิตรทางธุรกิจให้กับ NT ก่อนที่คลื่นในมือของ NT จะหมดในเดือน ส.ค.นี้ ทั้งคลื่น 2100 MHz และ คลื่น 2300 MHz ที่ต้องคืนให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ทำให้รายได้ของ NT ที่เคยเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส และ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หลักหมื่นล้านต่อปี หายไปในพริบตา

การมาของนายจักรพงษ์ แสงมณี ในฐานะว่าที่ รมว.ดีอีคนใหม่ ภายใต้การนำของรัฐบาลนายกฯ แพทองธาร จึงเป็นการเริ่มต้นบทบาทที่มาพร้อมกับความคาดหวังจากสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแก้ปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของประชาชนอย่างเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการฟื้นฟูองค์กรสำคัญอย่าง NT ซึ่งเป็นหัวใจในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศ