อัปเดตแคนดิเดต ว่าที่เลขาธิการ ก.ล.ต. ใครคือตัวเต็ง!!!

โดยคนแรกที่จะกลับมาชิงตำแหน่งเก้าอี้ คือ รื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. คนปัจจุบัน ที่ต้องการจะกลับมาสมัครรับคัดเลือกอีกครั้งเพื่อมารับตำแหน่งเลขาธิการ ก.ล.ต. เป็นวาระที่ 2 แม้ว่าก่อนนี้จะเคยถูกปฏิเสธให้รับหน้าที่นี้มาแล้วก็ตาม ส่วนเส้นทางสู่ตำแหน่งเลขาธิการ ก.ล.ต. เริ่มขึ้นเมื่อปี 2561

ซึ่งขณะที่ยังดำรงตำแหน่งนั้นได้เคยวางเป้าหมายใหญ่และมุ่งหวังจะผลักดันให้เกิดขึ้น คือการขับเคลื่อน "แผนพัฒนาตลาดทุนไทย" เพื่อให้ตลาดทุนไทยเป็น "Capital Market for All" อย่างแท้จริง ซึ่งนั่นหมายถึงความหวังที่อยากเห็นประโยชน์และการเข้าถึงตลาดทุนเกิดกับประชาชน SMEs Startup และผู้ลงทุนรายย่อย 

แต่ก่อนหน้านั้นรื่นวดีเคยผ่านประสบการณ์มาหลากหลาย ทั้งเคยเป็นยอธิบดีกรมคุมประพฤติ ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม รองผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม, รองผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม ช่วยปฏิบัติราชการทางศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.), รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม

ในส่วนของผลงาน และ เกียรติประวัติ ไม่เพียงเป็นบุคคลตัวอย่าง “คนไทย ตื่นรู้สู้โกง" องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) 2561แล้ว ยังได้รับการยกย่องให้เป็นสตรีนักบริหารดีเด่น สาขาสตรีผู้บริหารภาคราชการดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2560 กระทรวงแรงงาน สตรีผู้มีบุคลิกดีเด่น ปี 2559 สมาคมส่งเสริมบุคลิกสตรี นักเรียนเก่าดีเด่น สมาคมนักเรียนเก่าราชินี ในพระบรมราชินูปถัมภ์ รวมถึงรางวัลผู้นำองค์กรดิจิทัลดีเด่น 2020 สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัลด้วย

ด้านการศึกษา เธอจบการศึกษาเนติบัณฑิตไทย (นบ.ท.) สำนักอบรมกฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา นิติศาสตรมหาบัณฑิต (LL.M.) Harvard Law School, the United States of America ,  บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (M.B.A.) Walter A. Haas School of Business, University of California, Berkeley, the United States of America และนิติศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทอง) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

คนที่ 2 เป็นลูกหม้อ ก.ล.ต. คือ นางสาววรัชญา ศรีมาจันทร์ รองเลขาธิการ ก.ล.ต. ซึ่งถือว่าเป็นรองเลขาฯ ที่มีอาวุโสสูงสุดเมื่อเปรียบเทียบกับรองเลขาฯ ที่เหลือ 3 รายที่เพิ่งเลื่อนมารับตำแหน่งใหม่ มีประสบการณ์การทำงานกับ ก.ล.ต. มาอย่างยาวนาน และมีผลงานที่โดดเด่นหลายอย่างในช่วงที่ผ่านมา

คนที่ 3 คือ นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิสดอม แคปปิตอล พาร์ทเนอร์ส จำกัด ที่ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2553 เขาเคยเป็นหนึ่งในผู้สมัครท้าชิงตำแหน่งผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในขณะที่ยังอยู่ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ซึ่งระหว่างที่อยู่ในตำแหน่งนี้ เคยมีรายงานข่าวระบุว่าเขาคือบุคคลที่มีเงินเดือนสูงสุดติด Top3 ของไทย 

รวมถึงเคยเป็นกรรมการชมรมวาณิชธนกิจ เช่นเดียวกับที่ก่อนหน้านี้เคยผ่านประสบการณ์เป็นกรรมการของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กรรมการและกรรมการของคณะกรรมการลงทุนและสินเชื่อ ธนาคารออมสิน กรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บล.วิคเคอรส์ บัลลาส (ประเทศไทย) ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายวาณิชธนกิจ บงล. เอส จี สินเอเซีย ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุน บริษัท อเมรกิน อินเตอร์เนชันแนล เอสชัวรันส์ จำกัด และผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวาณิชธนกิจ บล. เจ เอฟ ธนาคม 

มนตรี มีประวัติการศึกษาที่โดดเด่น เขาเป็นเด็กที่ทำคะแนนสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทยตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัย จนได้เป็นนักศึกษาของคณะวิศวกรรมศาสตร์ (คอมพิวเตอร์) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แล้วคว้าปริญญาโท บริหารธุรกิจ (การเงิน) จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  รวมถึงผ่านหลักสูตรผู้บริหารระดับสูง สถาบันวิทยาการตลาดทุน (หลักสูตร วตท.) รุ่นที่ 4 แล้วยังมี Chartered Financial Analyst (CFA) จาก Association for Investment Management and Research (AIMR) (หรือ CFA Institute ในปัจุบัน)

นอกจากนี้ มนตรียังมีความสามารถในการเขียนผ่านหนังสือชื่อ รวยด้วยรัก ที่เนื้อหาถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตการทำงาน และชีวิตครอบครัว ซึ่งตีพิมพ์เมื่อปี 2555

และอีกหนึ่งผู้ท้าชิงตำแหน่งเลขา กลต. คือ รศ. ดร. พรอนงค์ บุษราตระกูล ผู้เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับ กลต. ในฐานะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการกำกับตลาดทุนมาก่อน ถึงสองวาระ คือ 8 เมษายน 2557 – 24 กรกฎาคม 2561 และ 25 กรกฎาคม 2561 – 19 กรกฎาคม 2564

ปัจจุบัน รศ. ดร. พรอนงค์ เป็นหัวหน้าภาควิชาการธนาคารและการเงิน / ประธานหลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการกำกับดูแลกิจการ / อาจารย์ประจำภาควิชาการเงินและการธนาคาร โดยงานสอนจะเน้นวิชาด้านการบริหารทางการเงินและการลงทุน ตราสารอนุพันธ์ การบริหารความเสี่ยง และการกำกับดูแลกิจการ ทั้งในระดับปริญญาตรี และปริญญาโท

นอกจากนี้ยังเป็นที่ยอมรับว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเงิน การลงทุน การบริหารความเสี่ยง และการประเมินองค์กร โดยมีประสบการณ์ด้านการบริหารทางการเงิน การบริหารความเสี่ยง และการตรวจสอบภายใน ให้กับองค์กรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งมีผลงานการเรียบเรียง และแต่งตำราทางด้านการลงทุน ตราสารอนุพันธ์ และการตรวจสอบภายใน

ไม่เพียงเท่านั้น รศ. ดร. พรอนงค์ ยังมีงานวิจัยทางการเงิน การลงทุน การออมของนักลงทุนทั้งส่วนบุคคลและสถาบัน ซึ่งหนึ่งในผลงานที่น่าสนใจคือเป็นหนึ่งในคณะผู้จัดทำ “ดัชนีความพร้อมเพื่อการเกษียณ” (NRRI) เพื่อหาเครื่องมือวัดระดับความพร้อมหรือไม่พร้อมของคนในประเทศไทยหลังเกษียณ

และคนสุดท้ายที่ยังเป็นกังขาอยู่นั่นยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใคร แว่วๆว่า เป็นอดีตทนายดูแลฝ่ายกฎหมาย การบินไทย?

จากทั้ง 4 แคนดิเดต ที่ต่างมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป ส่วนสุดท้ายใครจะเป็นผู้จับจ้องเก้าอี้เลขา ก.ล.ต. หมายเลข 13 ตัวจริง คงต้องให้เวลาทำงานสักระยะ ก่อนจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนต่อไป