จับตา “จีนเปิดประเทศ” แรงหนุนสำคัญ ดันราคาทองคำต้นปี 66 พุ่งต่อ

นาย ธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง กล่าวถึงทิศทางราคาทองปี 2566 ว่า แม้ปี 2565 ราคาทองคำมีทิศทางอยู่ในช่วงขาลง จากการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่รุนแรงของธนาคารกลางสหรัฐ จนทำให้ดอลลาร์แข็งค่ามากสุดในรอบ 20 ปี อย่างไรก็ตามในที่สุดราคาทองคำก็พลิกกลับมาบวกได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 สำหรับทิศทางราคาทองคำในช่วงต้นปี 2566 เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยแล้วยังคงมีปัจจัยที่เป็นบวกต่อตลาดทองคำ ทำให้คาดการณ์ว่าทิศทางราคาทองคำในช่วงต้นปีนั้นยังคงมีทิศทางที่สดใส ซึ่งปัจจัยที่ต้องจับตามองนั้น ได้แก่

1.แรงซื้อทองคำก่อนช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งในช่วงต้นปีมักจะมีแรงซื้อทองคำ จากประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้บริโภคทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทำให้ในช่วงต้นปีราคาทองคำส่วนใหญ่มักจะปรับตัวขึ้น ทั้งนี้จากสถิติย้อนหลัง 5 ปีที่ผ่านมา พบว่า 1 เดือนก่อนที่จะถึงช่วงตรุษจีน ราคาทองคำส่วนใหญ่จะปรับตัวขึ้น

2.การเปิดประเทศของจีน ซึ่งจีนได้ประกาศเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 2566 ทำให้ทั่วโลกจับตามองเป็นอย่างมาก เพราะจีนถือว่าเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก ท่ามกลางการแพร่ระบาดอย่างหนักของโควิด-19 ในจีน 

3.การชะลอการเร่งอัตราปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ แม้ว่าการประชุมแรกของธนาคารกลางสหรัฐในปี 2566 จะเริ่มต้นเดือนแรกคือต้นเดือนก.พ. แต่สัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเริ่มชะลอตัวลง ทั้งนี้นักลงทุนต่างคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.พ. เพียง 0.25% ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดมาสู่ระดับ 4.50%-4.75% ทั้งนี้ตลอดทั้งเดือนม.ค.นั้นนักลงทุนจะซึมซับการชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งส่งผลดอลลาร์มีทิศทางที่อ่อนค่า และอาจกลายเป็นแรงส่งให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้ต่อ

สำหรับราคาทองคำในช่วงต้นปีนี้ คาดว่ามีแนวรับอยู่ที่  1,800 ดอลลาร์ และ 1,780 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,840 ดอลลาร์ และ 1,850 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 29,600 บาท และ 29,400 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 29,900 บาท และ 30,000 บาท