แอร์เอเชียชะลอเพิ่มฝูงบินเหตึการเมืองไทยไม่นิ่ง

แอร์เอเชียชะลอเพิ่มฝูงบิน 4 ลำ เหตุการเมืองไทยไม่นิ่ง เผยเสียโอกาสเปิดเส้นทางบิน 5 เมืองท่องเที่ยว พลาดรายได้กว่า 3,000 ล้านบาท เล็งเสริมแกร่งฮับภูเก็ต พร้อมเปิดฮับเชียงใหม่กระจายความเสี่ยง

นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไทยแอร์เอเชีย ผู้ให้บริการสายการบินต้นทุนต่ำ(โลว์คอสต์ แอร์ไลน์) ไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า บริษัทได้เตรียมปรับแผนกลยุทธ์ทางการตลาด รองรับผลกระทบที่เกิดจากปัญหาทางการเมือง โดยในปีหน้าเตรียมชะลอแผนการขยายฝูงบิน โดยเลื่อนการรับมอบเครื่องบิน แอร์บัส เอ320 ความจุ 180 ที่นั่ง จำนวน 2 ลำ ออกไปอย่างไม่มีกำหนด  ซึ่งต่อเนื่องจากการชะลอแผนปีนี้อีก 2 ลำ  เนื่องจากไม่มั่นใจต่อสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศ ที่อาจเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบเช่นเดียวกับปีนี้ 

ทั้งนี้ความวุ่นวายทางการเมืองที่เกิดขึ้น ทำให้บริษัทเสียโอกาสทางการตลาดด้านการขยายเส้นทางการบิน จำนวน 5 เส้นทาง แบ่งเป็น 3 เส้นทางจากประเทศอินเดีย และ 2 เส้นทางประเทศจีน และสูญรายได้ราว 3,000 ล้านบาท ซึ่งแผนการตลาดปี 2554 จะมุ่งการพัฒนาเส้นทางเดิมให้สามารถแข็งขันได้  รวมถึงการการพัฒนาศูนย์กลางทางการบิน(ฮับ) จ.ภูเก็ต ให้มีความแข็งแกร่ง

นอกจากนี้บริษัทเตรียมเปิดฮับที่จ.เชียงใหม่เดือนม.ค.ปีหน้า เพื่อเชื่อมต่อไปยังเแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ รวมถึงการเพิ่มทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติ โดยเริ่มแรกเตรียมเปิดเส้นทาง เชียงใหม่-หาดใหญ่ และเชียงใหม่-อุบลราชธานี

“สายการบินต้องการพัฒนาเส้นทางการบินฮับที่ภูเก็ต และเชียงใหม่ให้มีความแข็งแกร่ง ซึ่งมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ต้องการเดินทางมาประเทศไทยต้องการเลี่ยงที่จะบินเข้ากรุงเทพ เพราะปัญหาทางการเมืองที่วุ่นวาย  ซึ่งระยะเวลา 3-4 ปีการเปิดฮับทั้งสองแห่งจะทำให้สัดส่วนรายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น”นายทัศพล กล่าว

ล่าสุดได้เปิดให้บริการเส้นทางการบินตรง ภูเก็ต- บาหลี สัปดาห์ ละ 4 เที่ยวบินเริ่มให้บริการตั้งแต่ 17 ธ.ค.เป็นต้นไป  พร้อมจัดแคมเปญช่วงแนะนำจองล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 8-14 พ.ย. ในราคาสุทธิ 1,490 บาท/ที่นั่ง สามารถบินได้ตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค.-10 พ.ย.ปี 2554    โดยตั้งเป้ามีอัตราที่นั่งเฉลี่ย 85-90% ซึ่งบริษัทจะติดตามประเมินผลการตอบรับคาดว่าภายใน 60 วันจะเปิดใหบริการวันละ 1 เที่ยวบินได้ เนื่องจากเส้นทางนี้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวประเทศออสเตรเลีย  ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน ปัจจุบันสายการบินเป็นรายแรกที่ให้บริการเส้นทางดังกล่าว  

นายทัศพล กล่าวว่า ด้านแผนการตลาดในประเทศ บริษัทมุ่งใช้กลยุทธ์ราคาจูงใจการใช้บริการ มองว่าการแข่งขันในธุรกิจโลว์คอสต์ แอร์ไลน์เริ่มนิ่ง ถ้าไม่มีการเปิดตัวสายการบินใหม่  ทุกสายการบินจะมีกลุ่มลูกค้าและส่วนแบ่งทางการตลาดที่ชัดเจน เห็นได้ว่าในปีนี้สายการบินส่วนใหญ่เริ่มฟื้นตัว และมีผลประกอบการที่ดี เช่นเดียวกับบริษัทในปีนี้ผลประกอบการเติบโตตามเป้าที่ตั้งไว้ 25% มีรายได้ 1.2 หมื่นล้านบาท ขนผู้โดยสาร 6.2 ล้านคน ขณะที่ปีหน้าถ้าการเมืองอยู่ในภาวะปกติคาดว่าจะเติบโตราว 25%