posttoday

Rakuten สตาร์ทอัพรุ่นบุกเบิก

08 มีนาคม 2562

หากพูดถึงบริษัทเทคโนโลยีและอี-คอมเมิร์ซอันดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่น ทุกคนคงนึกถึง “Rakuten” บริษัทได้ก่อตั้งโดย “ฮิโรชิ มิกิทานิ”

เรื่อง วราภรณ์ เทียนเงิน

หากพูดถึงบริษัทเทคโนโลยีและอี-คอมเมิร์ซอันดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่น ทุกคนคงนึกถึง “Rakuten” บริษัทได้ก่อตั้งโดย “ฮิโรชิ มิกิทานิ” และสมาชิกร่วม 5 คน ถือเป็นสตาร์ทอัพของประเทศญี่ปุ่นยุคบุกเบิก ที่ยังไม่มีคำว่าสตาร์ทอัพมาก่อน โดยมีการสร้างเทคโนโลยี นวัตกรรมที่พิเศษและแตกต่าง เห็นผลจากการก่อตั้งมาเป็นระยะเวลารวม 22 ปี ได้ก้าวสู่บริษัทระดับโลกด้านนวัตกรรมอินเทอร์เน็ต ที่มีมูลค่าการซื้อขายผ่านระบบมากกว่า 15.4 ล้านล้านเยน หรือ มากกว่า 5 ล้านล้านบาทแล้ว

หากย้อนกลับไปในช่วงอดีต 22 ปีก่อน ในระยะแรกสร้างยอดขายต่อเดือนประมาณ 3 แสนเยน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1 แสนบาทเท่านั้น ซึ่งยอดขายหลักในเดือนแรกก็มาจาก “มิกิทานิ” ที่เป็นผู้ซื้อสินค้านั้นเอง และในปัจจุบัน “มิกิทานิ” ถือเป็นมหาเศรษฐีติดอันดับสองหรือสามของประเทศญี่ปุ่น

“มิทช์ ทาคาฮาชิ” รองผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ข้ามพรมแดน ราคูเท็น (Rakuten) เปิดเผยในงาน กิจกรรมสัมมนาพัฒนาความรู้เบื้องต้นในการเข้าสู่ตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของญี่ปุ่น จัดโดย องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) กรุงเทพฯ ร่วมกับ กรม
ส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศว่า ราคูเท็นมีฐานลูกค้าอยู่ใน 29 ประเทศทั่วโลก ใน 4 ภูมิภาค และมีจำนวนสมาชิกกว่า 1,100 ล้านคนทั่วโลก พร้อมกันนี้มีบริการให้แก่ลูกค้าครอบคลุม 70 ด้าน และที่ผ่านมามีการขยายบริการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดกำลังขยายสู่บริการโดรน

ขณะที่การให้บริการของราคูเท็นจะมีความหลากหลาย ทั้งเป็นศูนย์กลางรวมร้านค้า การตลาด การท่องเที่ยว โทรทัศน์ โทรศัพท์มือถือ การเงิน และประกันภัย เป็นต้น พร้อมกันนี้มีการให้บริการระบบสะสมคะแนนแก่สมาชิก (รอยัลตี้ โปรแกรม) ที่ที่สามารถนำไปแลกสินค้าและบริการต่างๆ ได้ อีกทั้งยังร่วมมือกับร้านค้า มากกว่า 3 ล้านร้านค้าทั่วประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ลูกค้าสามารถไปใช้บริการเพื่อสะสมคะแนนได้ ดังนั้นการมี รอยัลตี้ โปรแกรม ที่มีความพิเศษและไม่เหมือนใคร

อีกทั้งบริษัทยังมุ่งสร้างนวัตกรรม ผสมผสานด้วยการส่งเสริมลูกค้าและร้านค้าอย่างเท่าเทียม พร้อมกันนี้ ยังเปิดให้ลูกค้าที่เป็นผู้ขายจากทั่วโลกเข้ามาเปิดช็อปสินค้าผ่านราคูเท็นได้ ทำให้เกิดธุรกิจ ราคูเท็น ในหลายประเทศเติบโตและมีการขยายตัวได้ดี เห็นได้จากมี
คู่ค้าธุรกิจที่ประสบความสำเร็จหลายประเทศ

“ทาคาฮาชิ” กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอี-คอมเมิร์ซ ในประเทศญี่ปุ่น มีขนาดประมาณอันดับ 4 ของโลก หรือขนาด 95 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนอันดับหนึ่งในโลกเป็นประเทศจีนขนาด 1,115 พันล้านดอลลาร์ อันดับสอง ประเทศสหรัฐ ขนาด 455 พันล้านดอลลาร์ และอันดับสาม อังกฤษ ขนาด 113 พันล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ ตลาดอี-คอมเมิร์ซในประเทศญี่ปุ่น ในภาพรวมผู้บริโภคจะมีการใช้จ่ายโดยเฉลี่ยในสัดส่วน 5.8% ถือว่า ยังมีขนาดตลาดที่ยังน้อยอยู่ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ทั้งประเทศจีน ที่มีผู้บริโภคใช้จ่ายในสัดส่วน 20% และตลาดสหรัฐ มีการใช้จ่ายในสัดส่วน 10%

จึงประเมินว่า ตลาดจะมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก โดยประเทศญี่ปุ่น กลุ่มสินค้าที่มีการเติบโตสูง มีทั้งสินค้าแฟชั่น และเครื่องแต่งกาย กลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มสินค้าอุปกรณ์ และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงสินค้าของตกแต่งบ้าน และของใช้ในบ้าน

ทางด้านภาพรวมตลาด อี-คอมเมิร์ซ ที่เป็นแบบ ลูกค้าถึงลูกค้า (ซีทูซี) มีขนาดมากกว่า 500 พันล้านเยน และมีการเติบโตต่อปี 60% ในช่วงปีที่๋ผ่านมา เนื่องจากผู้บริโภคให้ความสนใจ ขายสินค้าให้แก่กลุ่มลูกค้าทั่วๆ ไปมากขึ้น ยกตัวอย่าง เช่น มีลูกค้าที่ประกาศขายตู้เย็นให้แก่ลูกค้าที่สนใจ หรือ กลุ่มลูกค้า ที่ประกาศขายเสื้อผ้าเด็ก ให้แก่คนสนใจ เป็นต้น

เทรนด์ตลาด อี-คอมเมิร์ซ ของประเทศญี่ปุ่นจะมีทั้ง การนำเสนอบริการส่งสินค้าแบบเดลิเวอรี่ ที่มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งการสั่งซื้อผ่านออนไลน์และสามารถไปรับสินค้าในสาขาร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน การจัดทำตู้ เดลิเวอรี่ บ็อกซ์ ที่ไปรับสินค้าได้ตามจุดที่ต้องการ ต่อมารูปแบบโซเชียล คอมเมิร์ซ ทั้งผ่านช่องทาง อินสตาแกรม และการใช้ช่องทาง แมสเซนเจอร์ ทูล (Messenger Tool) รูปแบบสุดท้าย จะเป็นแบบช่องทางทั้ง ออฟไลน์สู่ออนไลน์ ผสมผสานกัน ทั้งการเลือกซื้อสินค้าจากออนไลน์และสามารถรับสินค้าผ่านสาขา หรือรูปแบบการใช้จ่ายผ่านช่องทาง โมบาย เพย์เมนต์ เป็นต้น

ทั้งนี้ ตลาดอี-คอมเมิร์ซ ของญี่ปุ่น จึงเป็นโอกาสและแรงดึงดูดที่น่าสนใจของผู้ประกอบการไทย ที่สนใจขยายตลาดสู่ประเทศญี่ปุ่นและการขยายสู่ลูกค้าทั่วโลกเช่นกัน

เป็นข้อมูลเพียงบางส่วนของ ราคูเท็น แต่องค์ประกอบความสำเร็จทั้งหมด ผสมผสานหลากหลายด้านไว้อย่างมากมาย อีกทั้งมาจากการที่บริษัทพร้อมนำเสนอสิ่งใหม่ และมีนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับการจัดอันดับจาก “ฟอร์บส์” ว่าเป็นบริษัทผู้นำสร้างนวัตกรรมระดับโลก

ข่าวล่าสุด

คนละครึ่งพลัส หนุน “พาสต้า บ่? - มีลาภ อุบลฯ" ยอดขายพุ่ง แชมป์ร้านต่างจังหวัดขายดี