LiVE เริ่มเดินเครื่อง
เปิดตัวแล้วสำหรับแพลตฟอร์มสตาร์ทอัพและธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (เอสเอ็มอี) “ไลฟ์” (LiVE)
โดย บงกชรัตน์ สร้อยทอง
เปิดตัวแล้วสำหรับแพลตฟอร์มสตาร์ทอัพและธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (เอสเอ็มอี) “ไลฟ์” (LiVE) ที่ดำเนินการโดยบริษัท ไลฟ์ชินคอร์ป บริษัทย่อยของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อบริหารการระดมทุนแบบคลาวด์ฟันดิ้งและการซื้อขายหลักทรัพย์ในรูปแบบของการเจรจาต่อรอง (โอทีซี) ให้แก่สตาร์ทอัพและเอสเอ็มอีเสมือนเป็นการวางโครงสร้างพื้นฐานให้กับระบบนิเวศในอุตสาหกรรมให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ขณะที่ผู้ลงทุนสามารถเข้ามาลงทุนในธุรกิจได้
“เกศรา มัญชุศรี” กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า ช่วงเริ่มต้นมีบริษัทที่พร้อมระดมทุนในไลฟ์ทั้งหมด 8 บริษัท โดยมีความหลากหลายในอุตสาหกรรมตั้งแต่ธุรกิจที่ทำแอพพลิเคชั่น สินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องมือแพทย์ และปัจจุบันยังมีกว่า 50 บริษัท ที่เข้ามาลงทะเบียนและแสดงความสนใจที่จะมาระดมทุนบนแพลตฟอร์มนี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าบริษัททั้งหมดจะต้องได้รับการขึ้นแพลตฟอร์มไลฟ์ อีกทั้งยังมีพันธมิตรอีกหลายฝ่ายที่ได้เข้ามาร่วมสนับสนุน LiVE ทั้งในเรื่องการให้คำแนะนำหรือคำปรึกษาอย่างหน่วยงานภาครัฐ และร่วมลงทุนอย่างกองทุนร่วมลงทุนต่างๆ ทั้งหมด 18 แห่ง
“พงศ์ปิติ เอกเธียรชัย” ผู้อำนวยการงานส่งเสริมบริษัทจดทะเบียนและวิสาหกิจเพื่อตลาดทุน กล่าวว่า ขั้นตอนต่อไปคือ บริษัททั้ง 8 แห่ง จะให้ข้อมูลโดยทั่วไป หากบริษัทใดมีผลตอบรับที่ดีก่อนก็จะให้เริ่มแคมเปญหรือกระบวนการนำเสนอข้อมูลธุรกิจกับผู้ลงทุน ทั้งแบบออฟไลน์คือการจัดในรูปแบบงานให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนได้มีโอกาสเจอหน้ากันโดยตรงบริษัทละ 2 ครั้ง และทางออนไลน์ที่จะมีการสอบถามรายละเอียดทางเว็บไซต์ได้ โดยทั้งหมดคาดว่าจะเริ่มมีบริษัทเริ่มแคมเปญนี้ได้ภายในเดือน พ.ค. และ มิ.ย.
“ปัจจุบันแต่ละบริษัทยังอยู่ระหว่างการปรับแผนการดำเนินธุรกิจ ซึ่งยังไม่สามารถบอกได้ว่าต้องการระดมทุนบริษัทละเท่าไร เบื้องต้นเท่าที่สอบถามจากทั้ง 8 บริษัท มีผู้ที่แสดงความสนใจที่จะเข้ามาร่วมลงทุนรวมกัน 8 บริษัท ทั้งหมด 100 ล้านบาท”
ทั้งนี้ การระดมทุนจะเริ่มนับจากวันที่เริ่มแคมเปญนำเสนอข้อมูลกับนักลงทุนแล้วประมาณ 30-60 วัน แต่เพราะเป็นช่วงเริ่มต้นแพลตฟอร์มอาจจะให้ใช้ 60 วัน เป็นลำดับแรกก่อน ถ้าบริษัทไหนใน 8 แห่ง ไม่สามารถระดมทุนได้ตามแผนงานที่ระบุไว้ ก็จะไม่ได้ผ่านไปในกระบวนการถัดไปคือ การเข้าซื้อขายบนตลาดรองที่มีการซื้อขายเปลี่ยนมือ
สำหรับบริษัทที่สามารถระดมทุนได้ตามเป้าหมาย จากนั้นต้องไปจดทะเบียนในการเพิ่มทุนกับกระทรวงพาณิชย์และสามารถที่จะเริ่มไปสู่การซื้อขายในตลาดรองได้ภายใน 1-2 วัน ถัดมาได้ทันที โดยมีการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนขับเคลื่อน
อย่างไรก็ดี ในอนาคตอาจจะมีการเปิดเผยข้อมูลตัวเลขเฉลี่ยของนักลงทุนสถาบัน ที่เป็นกองทุนร่วมลงทุนหรือกองทุนส่วนบุคคลที่เข้ามาลงทุนใน 8 บริษัท แต่จะต้องนำไปหารือกับผู้ประกอบการและผู้ที่เข้ามาลงทุนก่อน เนื่องจากปกติสตาร์ทอัพทั่วไปข้อมูลส่วนนี้จะไม่มีการเปิดเผยในวงกว้าง
“คิมห์ สิริทวีชัย” รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานบริหารการลงทุน บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) ในแพลตฟอร์ม LiVE เบื้องต้นสนใจและอยุู่ระหว่างการศึกษา 1 บริษัท คือ Daimate ที่ทำแอพพลิเคชั่นควบคุมเบาหวานของบริษัท สมาร์ทเฮลธ์แคร์


