วงในไม่ใช่ยูนิคอร์น แต่จะเป็นมินิเทนเซนต์
หากจะกล่าวถึงเว็บไซต์แนะนำร้านอาหารที่อยู่มาอย่างยาวนาน ต้องมีชื่อของ วงใน (Wongnai)
โดย ณัฏฐ์ธยาน์ สุทธิเจริญ
หากจะกล่าวถึงเว็บไซต์แนะนำร้านอาหารที่อยู่มาอย่างยาวนาน ต้องมีชื่อของ วงใน (Wongnai) เป็นอันดับต้นๆ แม้ว่าจะผ่านมาหลายยุคสมัยในยุคอินเทอร์เน็ตครองเมืองแบบนี้ ทั้งคู่แข่งที่เป็นเว็บไซต์แนะนำร้านอาหารที่คล้ายกัน จนมาถึงยุคของสตาร์ทอัพที่กำลังบูม ก็ต้องมีชื่อของวงในอยู่ในกลุ่มธุรกิจนี้
ยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท วงใน มีเดีย ผู้ให้บริการแนะนำร้านอาหารชั้นนำของไทยได้เล่าให้ฟังว่า สิ่งที่ทำให้วงในประสบความสำเร็จได้อย่างทุกวันนี้ ต้องยอมรับว่าทีมงานอึด ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา วงในไม่ได้มองว่าใครเป็นคู่แข่ง แต่พร้อมแข่งกับตัวเองตลอด รวมทั้งมีเป้าหมายที่จะต้องเดิน
“เรามองเรื่องแผนระยะยาวมากกว่า มองหาโอกาสและความเป็นไปได้เสมอว่าธุรกิจจะเดินหน้าไปอย่างไร เราไม่ใช่สตาร์ทอัพที่เพิ่งเริ่มต้น เพราะผ่านจุดนั้นมาแล้ว เราอยากจะบอกทุกคนว่าเราเป็นดิจิทัลมีเดีย” ยอด กล่าว
ยอดยังบอกอีกว่า การที่บริษัทเติบโตขึ้นมานั้น เป็นเพราะจังหวะของตลาดที่กำลังมีแนวโน้มที่ดี พร้อมย้ำว่าบริษัทไม่ได้ตั้งความหวังว่าจะเป็นยูนิคอร์นแบบสตาร์ทอัพคนอื่นๆ แต่อยากจะก้าวไปเป็นเทนเซนต์ของประเทศไทยให้ได้
ปัจจุบันคนรุ่นใหม่ที่มีการใช้งานสมาร์ทโฟนตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น ค้นหาที่กิน ที่เที่ยว ผ่านทั้งเสิร์ชเอนจิ้นชื่อดัง หรือเว็บไซต์สินค้าและบริการก็ตาม และแน่นอนว่าถ้าคิดถึงร้านอาหารหรือหาที่กิน ที่เที่ยว คนเจนวายย่อมกดเข้าแอพวงในเพื่อหาร้านอาหาร
จากการเก็บข้อมูลของบริษัท พบว่า พฤติกรรมการค้นหาร้านอาหารนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นพฤติกรรมของกลุ่มคนชั้นกลางที่ไม่ได้มีกำลังซื้อมากนัก อาจจะใช้ค้นหาร้านอาหารสัปดาห์ละครั้ง แต่ถ้าเป็นกลุ่มคนชั้นสูงกว่านั้น คงไม่มาค้นหาร้านอาหารด้วยช่องทางนี้ เพราะเขาจะมีร้านประจำ หรือมีสิทธิพิเศษที่เอื้อประโยชน์ให้อยู่แล้ว ดังนั้น วงในจะไม่เกิดในคนกลุ่มนี้ เพราะไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย
หากเปรียบธุรกิจของวงในกับคู่แข่งในต่างประเทศ ถ้าเจาะในกลุ่มร้านอาหารอย่างเดียวคงจะเหมือนกับ เยลพ์ (Yelp) ที่รวมรีวิวร้านอาหารของสหรัฐ ซึ่งผู้ใช้งานวงในยังคงค้นหาร้านอาหารเป็นหลัก รองลงมาคือเรื่องความสวยความงาม
“รายได้ของบริษัทส่วนใหญ่ยังมาจากค่าโฆษณาร้านอาหารถึง 60% แต่ให้เรารีวิวก็ไม่ได้หมายความว่าร้านอาหารของคุณจะได้รับการยอมรับจากลูกค้า 100% เพราะลูกค้าอ่านรีวิวได้ ก็แสดงความคิดเห็นได้เช่นกัน” ยอด กล่าว
สำหรับผู้ใช้งานของวงใน แบ่งเป็น เพศหญิง 65% อายุ 24-40 ปี รวมทั้งประเภทของร้านอาหารยอดนิยมคืออาหารไทยและญี่ปุ่น แต่ก็เริ่มมีชาวต่างชาติที่ต้องการค้นหาร้านอาหารเข้ามาใช้บริการมากขึ้น และการเพิ่มเมนูอาหารเข้าไปก็ยิ่งทำให้วงในได้รับความนิยมมากขึ้น
อนาคตของวงในต่อจากนี้ไป จะเป็นไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์ม ด้วยการประกาศซื้อบริษัทผลิตคอนเทนต์ไอทีและการตลาดชั้นนำอย่าง บล็อกนัน (Blognone) และแบรนด์อินไซด์ (Brand Inside) ที่ดูไม่ใกล้เคียงกับธุรกิจของวงในเลย
“การที่ตัดสินใจซื้อบล็อกนัน เพราะเราติดตามเว็บเขามานาน ทั้งสองเว็บนี้ถือว่าเป็นเว็บคอนเทนต์น้ำดี ที่เราเชื่อมั่นว่าจะเป็นอนาคตของมีเดียไทยได้ไม่ยาก” ยอด กล่าว
สิ่งที่จะเห็นในบล็อกนันหลังจากถูกซื้อกิจการ คือจะเพิ่มคนให้กับทั้งสองเว็บ เพื่อให้เป็นทีมที่แข็งแรงขึ้น ตอนนี้ทีมงานคอนเทนต์ทั้งบริษัทของวงในอยู่ที่ 199 คน ซึ่งตั้งเป้าไว้ว่าปีหน้าจะมี 300 คน ทำให้บริษัทจะขยายออฟฟิศเพิ่มอีก
ทางด้านของเงินทุนหลังจากระดมทุนครั้งก่อน จากอินทัชและบริษัทจากญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันยังมีเงินเหลือเพราะบริษัทสามารถทำรายได้ปีนี้ 150 ล้านบาท ปีหน้าตั้งเป้ากำไรไว้ 10% และในปีหน้าจะมีการจัดงานมหกรรมร้านอาหารเพื่อให้คนรู้จักแบรนด์ของวงในเพิ่มขึ้นอีก
ก้าวต่อไปของวงในย่อมไม่ธรรมดา เพราะ ณ วันนี้ ในไทยแทบไม่มีใครไม่รู้จักเว็บและแอพรีวิวร้านอาหารอย่างวงใน แต่หัวเรือใหญ่คนนี้จะเลือกเดินต่อไปในเส้นทางอย่างไร ต้องจับตามองกันยาวๆ


