กาแฟวันละ 3 แก้วดีจริงหรือ

เรื่อง มิยาโตะ

เบื้องหลังผลวิจัยชิ้นล่าสุด อันเกี่ยวเนื่องกับการดื่มกาแฟ และชีวิตยืนยาว จริงหรือมั่ว ชัวร์หรือไม่!

บรรดาแฟนานุแฟน คอกาแฟทั้งหลาย มักจะนำเอาเรื่องสุขภาพมาอ้าง ในการเสพ (ติด) น้ำร้อนๆ สีดำๆ ขมๆ ที่เรียกว่า กาแฟ ในขณะที่งานวิจัยต่างๆ ก็มีข้อโต้แย้งออกมาตลอดเวลาว่า ควรดื่มเท่านี้เท่านั้นแก้วถึงจะดีต่อสุขภาพ

ล่าสุด มีการรวบรวมการศึกษาหลายๆ ชิ้น นำมาตีพิมพ์ลงในวารสารทางการแพทย์ The Annals of Internal Medicine แสดงให้เห็นความเชื่อมโยงระหว่างการดื่มกาแฟกับชีวิตที่ยืนยาว

งานวิจัยชิ้นแรกของสถาบันวิจัยมะเร็ง International Agency for Research on Cancer (IARC) ร่วมกับอิมพีเรียล คอลเลจ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่ได้ทำการทดลองกับคนกว่าครึ่งล้าน ใน 10 ประเทศยุโรป ที่ดื่มกาแฟวันละ 3 แก้วขึ้นไป พบว่า พวกเขามีแนวโน้มที่จะมีอายุยืนยาวกว่าคนที่ไม่ดื่มกาแฟเลย

"เราพบว่า การดื่มกาแฟในปริมาณมาก เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงในการเสียชีวิตที่ลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับโรคที่เกี่ยวกับความดันโลหิต และโรคเกี่ยวกับทางระบบย่อยอาหาร" มาร์ก กุนเทอร์ หัวหน้าคณะวิจัยของ IARC กล่าวด้วยว่า ในประเด็นนี้ เขาเห็นผลที่เป็นนัยสำคัญในผลการสำรวจคนที่ดื่มกาแฟใน 10 ประเทศยุโรปดังกล่าว "ทั้งในคนที่ดื่มกาแฟวันละไม่น้อยกว่า 3 แก้วเป็นประจำ หรือดื่มเป็นช่วงๆ ก็ตาม"

สำหรับงานวิจัยชิ้นที่ 2 ได้ทำการสำรวจผู้คนราว 1.8 แสนคน ที่มีที่มาจากหลากหลายเชื้อชาติในสหรัฐ ก็ได้ผลที่เกี่ยวโยงกับเรื่องชีวิตที่ยืนยาวจากการดื่มกาแฟ ไม่ว่าจะเป็นชนิดที่มีกาเฟอีน หรือชนิด ดีแคฟ หรือไม่มีกาเฟอีน คนที่นิยมดื่มกาแฟมีความเสี่ยงน้อยลงที่จะเสียชีวิตจากโรคร้าย อย่างโรคหัวใจ มะเร็ง เส้นเลือดในสมองแตก โรคเบาหวาน โรคไต หรือแม้แต่โรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โดยพบว่า คนที่ดื่มกาแฟวันละแก้ว มีความเสี่ยงลดลง 12% เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้ดื่มกาแฟ ขณะที่คนที่ดื่มกาแฟวันละ 2-3 แก้ว มีความเสี่ยงลดลง 18%

"เราไม่อาจจะบอกได้ว่า การดื่มกาแฟจะช่วยต่ออายุขัยของมนุษย์ เพียงแต่เราพบสิ่งที่เชื่อมโยงจากการวิจัยออกมาเป็นแบบนั้น" ศ. เซเทียวาน หัวหน้าทีมวิจัยจากโรงเรียนแพทย์เค็ค แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียใต้ กล่าวด้วยว่า ถ้าคุณชอบดื่มกาแฟ ก็จงดื่มต่อไป "แต่หากคุณไม่ใช่คนดื่มกาแฟละก็ คิดจะเปลี่ยนใจก็อาจจะยังทันนะคะ"

กาแฟ เป็นเครื่องดื่มที่โด่งดังที่สุดในโลกก็ว่าได้ แต่ละวันมีคนทั่วโลกดื่มกาแฟกันถึง 2,250 ล้านแก้วทีเดียว โดยผลสำรวจหลายชิ้นก่อนหน้านี้ต่างออกมาอวยคุณงามความดีของการดื่มกาแฟทั้งนั้น ไม่ว่าจะด้านที่เครื่องดื่มสีดำสุดขมนี้มีสารต้านอนุมูลอิสระ มีความสามารถในการฟื้นฟูการทำงานของตับ รวมถึงช่วยลดอาการอักเสบ

อย่างไรก็ตาม กาแฟก็อาจจะเพิ่มความเสี่ยงสำหรับบางคน เช่นว่า สตรีมีครรภ์ เพราะอาจจะมีอันตรายต่อลูกในครรภ์ รวมทั้งเด็กๆ ที่ควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ เนื่องจากมีผลต่อการเจริญเติบโตของพวกเขา นอกจากนี้ รายงานจาก IARC เมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา ชี้ว่า การดื่มเครื่องดื่มที่ร้อนเกินไป ไม่ว่าจะเป็น ชา กาแฟ หรืออื่นๆ อาจจะทำให้เกิดมะเร็งในหลอดอาหารได้

ผู้เชี่ยวชาญที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการศึกษา ต่างออกโรงมาบอกให้ระวังผลการศึกษานี้ โดยพวกเขาตั้งข้อสังเกตว่า ชาวยุโรปครึ่งล้านที่ทางนักวิจัยเข้าไปทำการศึกษานั้น ไม่ได้รวมเอาคนที่เป็นมะเร็ง โรคหัวใจ เบาหวาน เข้าไปด้วย หากแต่เลือกเฉพาะคนที่มีสุขภาพแข็งแรง ซึ่งมีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไปเท่านั้น

ผู้เชี่ยวชาญยังตั้งข้อสังเกตว่า การสำรวจครั้งนี้มีการถามถึงพฤติกรรมการดื่มกาแฟแค่ครั้งเดียว เมื่อเริ่มตอบแบบสอบถามครั้งแรกเท่านั้น แต่ไม่ได้ถามย้ำอีกเลยในการเก็บผลสำรวจในปีต่อๆ มาของการสำรวจต่อเนื่องเป็นเวลา 16 ปี ซึ่งในที่สุด พวกเขาก็พบความเชื่อมโยงระหว่างการที่ผู้หญิงดื่มกาแฟปริมาณมาก จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง แต่กลับซุกๆ ไว้ในรายงานแบบไม่ให้ความสำคัญอีกด้วย

"ก่อนหน้านี้ก็เคยมีผลวิจัย ที่เป็นบทสรุประหว่างการดื่มกาแฟกับโรคหัวใจ ที่ว่ากันว่าดื่มกาแฟมากๆ แล้วจะมีผลต่อโรคดังกล่าว เราสังเกตว่า ผู้คนจะดื่มกาแฟน้อยลงเมื่อเขารู้สึกไม่สบาย ซึ่งเราต้องพิจารณาในเรื่องนั้นด้วย" ศ.นาวีด ศัตตาร์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการเผาผลาญอาหาร แห่งมหาวิทยาลัยกลาสโกว์กล่าว

"ผมว่า ความจริงอย่าไปซีเรียสกับผลวิจัยชิ้นนี้มาก จริงๆ แล้ว ความจริงควรจะสรุปว่า การดื่มกาแฟวันละ 3 แก้วขึ้นไป ไม่ได้มีอันตรายต่อการเกิดโรคหัวใจอย่างที่เคยเชื่อกัน ส่วนเรื่องที่ว่า มันช่วยให้ชีวิตยืนยาวนั้น ผมว่าน่าจะมีผลไม่มากเท่าไหร่ ถ้าหากว่าจะมี ความเห็นของผมคิดว่า น่าจะเป็นการยืนยาวไปอีกสัก 1-3 เดือนเท่านั้นเอง ไม่ใช่ 5 ปี 10 ปี

ผมว่า ถ้าคุณชอบดื่มกาแฟก็ดื่มไปเถอะครับ ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดโรคร้าย เพราะมันยังไม่มีผลวิจัยอะไรที่บ่งบอกในเรื่องนั้นเลย" ศ.เดวิด สไปเกลฮัลเทอร์ จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ทิ้งท้าย