บุ๊กกิ้งชูมาร์เก็ตเพลสที่พักทางเลือกโรงแรมรายเล็กสู่4.0

เรื่อง | รัชนีย์ ศรีวัฒนชัย

การท่องเที่ยวถือว่าเป็นอีกไลฟ์สไตล์หนึ่งของใครหลายคนไม่ว่าจะเป็นเดสติเนชั่นไหน สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ การจองห้องพัก แต่เทรนด์ที่กำลังจะเปลี่ยนไปคือคนไทยจำนวน 2 ใน 3 จองห้องพักบนโทรศัพท์มือถือและสิ่งที่เซอร์ไพรส์คือการจองห้องพักของคนไทยใช้ระยะเวลา 1 นาที

ปาริฉัตร แฮห์เนน ผู้จัดการภาคพื้นประเทศไทย อินโดจีน และเมียนมา บุ๊กกิ้งดอทคอม (Booking.com) ผู้ให้บริการจองโรงแรมที่พักออนไลน์ เปิดเผยว่า เทรนด์การจองห้องพักทั้งโรงแรมและรีสอร์ททั่วโลกจองผ่านทางเว็บไซต์ 100% ดังนั้นจึงมองว่าธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับโรงแรมและรีสอร์ทต่างๆ ต้องเร่งผลักดันเข้าสู่ยุค 4.0 หรือการทำดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งในเชิงรุก

ทั้งนี้ ธุรกิจของบุ๊กกิ้งเป็นแพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลสทางด้านการจองห้องพักสำหรับในไทยมีจำนวนห้องพักของ เครือข่ายทั้งหมด 2 หมื่นที่พัก และมี แนวโน้มว่าจะขยายเพิ่มขึ้นต่อเนื่องส่วนทั่วโลกมี 1.3 ล้านที่พักมากกว่า 200 ประเทศ

ขณะที่มุมมองธุรกิจบริการของไทยการเข้าสู่ยุค 4.0 หรือเส้นทางสู่ออนไลน์นั้น ธุรกิจโรงแรมขนาดใหญ่ส่วนใหญ่ปรับตัวแล้ว ส่วนปัญหาของโรงแรม หรือรีสอร์ทขนาดกลางและขนาดเล็กต้องปรับตัวอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นการทำตลาดผ่านดิจิทัล หรือกระทั่งการถ่ายทอดคอนเทนต์ที่น่าสนใจ เทคนิคการถ่ายรูปห้องพักต่างๆ ให้สวยและได้มากที่สุดเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจ ตามมาด้วยการคีย์ข้อมูลจำนวน 200 คำ โดยต้องสื่อสารจุดขายเพื่อทำให้ลูกค้าค้นหาได้ง่าย เพราะเทรนด์ในขณะนี้ส่วนใหญ่จะค้นหาจากกูเกิล

อย่างไรก็ดี ข้อดีของแพลตฟอร์ม บุ๊กกิ้งเมื่อผู้ประกอบการเข้ามาอยู่ในมาร์เก็ตเพลส จะบริการตั้งแต่การทำตลาดให้ทั้งการโฆษณาประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวรูปแบบต่างๆ รวมทั้งยังมีการแยกเซ็กเมนต์รูปแบบการท่องเที่ยว อาทิ ต้องการสถานที่สำหรับสปา ออกกำลังกาย แหล่งร้านอาหาร เพื่อให้ลูกค้าหาห้องพักที่ตรงกับความต้องการ นอกจากนี้ยังมีบริการทางด้านภาษาให้กับผู้ใช้บริการไม่ต่ำกว่า 40 ภาษา โดยหากมีการจองเกิดขึ้นทางผู้ประกอบการต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้กับบุ๊กกิ้ง 15% ของรายได้

ปาริฉัตร กล่าวว่า พฤติกรรมของคนไทยพบว่าก่อนการท่องเที่ยวมีการวางแผน 62% ถึงสถานที่เที่ยวและ ห้องพัก นอกจากนี้ยังเดินทางท่องเที่ยวเพียงลำพัง 23% เทรนด์การท่องเที่ยวที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วของคนไทยในตลาดต่างประเทศ ประกอบด้วย ไทเป เซี่ยงไฮ้ ฮานอย กว่างโจว และหลวงพระบาง ส่วนในประเทศ ได้แก่ หาด จอมเทียน หาดใหญ่ เขาใหญ่ นครราชสีมา และสุราษฎร์ธานี สำหรับนักท่องเที่ยวเวียดนามที่เข้ามายังไทยกำลังขยายตัว อย่างรวดเร็วถือว่าเป็นตลาดใหม่ของไทย นอกเหนือจากจีนซึ่งถือว่าเป็นตลาดหลักอยู่แล้ว

เมื่อพูดถึงผู้เดินทางชาวไทยพบว่ามีความกังวลคล้ายคลึงกับผู้เดินทางทั่วโลก อันดับหนึ่ง คือ เรื่องค่าใช้จ่ายของการเดินทาง 33% นอกจากนี้ผู้เดินทางชาวไทย 29% กังวลเกี่ยวกับบ้าน หรือสัตว์เลี้ยงของพวกเขา 26% ยังไม่สามารถสลัดความกังวลเรื่องงานได้ และอีก 20% รู้สึกกังวลว่าทริปวันหยุดกำลังจะสิ้นสุดลงก่อนที่ทริปจะเริ่มเสียอีก การเติบโตของเทคโนโลยีก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้โหมดการพักผ่อนนั้นต้องสะดุด 24% ของผู้เดินทางชาวไทยยอมรับว่าพวกเขาติดเทคโนโลยีมาก เกินไป ไม่ว่าจะใช้เพื่อติดต่อสื่อสาร กับผู้คน หรือเล่นโซเชียลมีเดียระหว่างทริปวันหยุด

ผลการสำรวจกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุ 18-34 ปี จำนวน 1,200 คน พบว่าพฤติกรรมของคนไทยที่เสพติดโซเชียลมีเดีย ส่งผล ให้การเดินทางท่องเที่ยวถึง 49% มีวัตถุประสงค์เพื่อแชร์ในโซเชียลมีเดีย บุ๊กกิ้ง ใช้กลยุทธ์อินฟลูเอ็นเซอร์มีทั้งหมด 4 คน อาทิ 2madames เที่ยวเอง เป็นต้น ซึ่งบล็อกเกอร์ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวถ่ายทอดเนื้อหาการท่องเที่ยวและสถานที่พัก โดยเปิดตัวแคมเปญ Booking.com's RAF ขึ้นมา เพื่อมอบส่วนลดในการจองที่พักบนเว็บไซต์บุ๊กกิ้งดอทคอมให้แก่ผู้เดินทางที่จองที่พักผ่านลิงค์ RAF ของบล็อกเกอร์/เพจต่างๆ โดยผู้จองจะได้รับเครดิตเงินคืนบนบัตรเครดิตสูงสุด 1,000 บาท/ การจอง 1 ครั้ง

นั่นคือเทรนด์ที่เกิดขึ้นโรงแรมและรีสอร์ทต้องปรับตัวให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และความต้องการ สำหรับคีย์ซัคเซสของบุ๊กกิ้งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต้องใช้ บริการคือความเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้า ที่ส่วนใหญ่ต้องการหาราคาที่ดีที่สุดและที่พักโดนใจ ขณะเดียวกันก็ยังมีการจัดโปรโมชั่นผู้ที่ใช้บริการบ่อยๆ มอบส่วนลดให้อีก 10% ส่งผลให้รายได้เติบโตสองหลักอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะมี Airbnb ธุรกิจแชร์ห้องพักเข้ามาเป็นทางเลือก แต่ก็มีจุดบริการและมาตรฐานที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ไม่ว่าจะเป็นทริปวันหยุดที่ตั้งตารอ หรือทริปที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน การได้ที่พักที่ถูกใจนั้นเป็นเรื่องสำคัญมาก และจากการที่โทรศัพท์มือถือกลายเป็นทุกสรรพสิ่ง ไม่เฉพาะคนไทยยังรวมถึงคนทั่วโลก สะท้อนว่าธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทของไทยต้องปรับตัวเข้าสู่ยุค 4.0 เพื่อสร้างโอกาสการขายทุกที่ทุกเวลาและทั่วโลก n