แปะป้ายลดราคาทับวันหมดอายุ

จุดขายหลักอย่างหนึ่งของบรรดาร้านสะดวกซื้อ หรือซูเปอร์มาร์เก็ตชื่อดัง ก็คือการจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้า ซึ่งแน่นอนว่าในฐานะผู้บริโภคการได้-ของดีที่มีราคาถูก เป็นใครก็ต้องรู้สึกดีกันทั้งนั้น แต่บางครั้งการที่เราดูแต่เพียงป้ายลดราคาโดยไม่ได้สังเกตส่วนอื่นๆ ของสินค้า ก็อาจนำมาซึ่งผลเสียมากกว่าผลดี

มีเหตุการณ์ที่ถือว่าเป็นข้อเตือนใจของคนที่ชอบซื้อสินค้าโดยไม่ได้ตรวจสอบสินค้าให้รอบคอบครบถ้วน ซึ่งมีผู้บริโภคร้องเรียนผ่านมายังศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค โดยผู้ร้องได้เข้าไปใช้บริการซูเปอร์มาร์เก็ตชื่อดังแห่งหนึ่งเพื่อเลือกซื้อไข่ไก่สด โดยผู้ร้องเห็นว่าทางซูเปอร์มาร์เก็ตได้มีการจัดโปรโมชั่นลดราคาไข่ไก่ จากปกติแพ็กละ 89 บาท

แต่ในตอนนั้นทางซูเปอร์มาร์เก็ตได้มีการติดป้ายลดราคาแปะลงไปบนแพ็กว่าขายที่ราคาแค่ 44.50 บาท ซึ่งทางผู้บริโภคเองก็หาได้หลงไปกับราคาที่ลดลงมา เพราะก็ยังคงทำในสิ่งที่ผู้บริโภคควรทำนั่นคือการตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ของสินค้า โดยผู้บริโภคท่านนี้ได้พยายามมองหาข้อมูลเรื่อง วัน เดือน ปี ที่ผลิต หรือหมดอายุ ซึ่งตามปกติต้องมีแจ้งไว้ที่ข้างกล่อง แต่หลังจากพยายามหาก็ไม่พบรายละเอียดดังกล่าว ซึ่งสร้างความสงสัยให้กับผู้บริโภคไม่น้อย ว่าเหตุใดจึงไม่แจ้ง วันผลิต-หมดอายุ ดูแล้วชักไม่ชอบมาพากล

สิ่งที่ผู้บริโภคท่านนี้ทำก็คือ เขาได้ลองแกะป้ายลดราคาออกดู จึงได้พบว่าป้ายลดราคาได้ปิดทับวันหมดอายุไว้ ซึ่งเมื่อได้ตรวจสอบดูก็พบว่าไข่ไก่ดังกล่าวหมดอายุไปแล้วตั้งแต่ 2 วันก่อน และเมื่อลองตรวจสอบดูไข่ไก่กล่องอื่นๆ ที่นำมาลดราคาก็พบว่ามีการติดป้ายทับวันหมดอายุในลักษณะเดียวกัน

เมื่อพบเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้ร้องจึงได้ถ่ายรูปรายละเอียดต่างๆ ไว้เป็นหลักฐาน และเขียนเล่าเหตุการณ์ลงสื่อสังคมออนไลน์ จากนั้นจึงมาร้องเรียนที่ศูนย์พิทักษ์สิทธิฯ

ทางศูนย์ได้ช่วยสนับสนุนผู้ร้องในการเผยแพร่ข้อมูลเรื่องดังกล่าว โดยนำมาเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ของมูลนิธิฯ พร้อมแนะนำว่าหากผู้ร้องต้องการแจ้งความดำเนินคดีดังกล่าวสามารถทำได้ เนื่องจากซูเปอร์มาร์เก็ตมีการแสดงป้ายราคา โดยปิดทับวันเดือนปีที่ผลิต-หมดอายุ ซึ่งส่งผลให้ผู้บริโภคเกิดความเข้าใจผิด อาจเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน ซึ่งมีความผิดตามมาตรากฎหมายมาตรา 343 โดยมีโทษจำคุก 5 ปีและปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ