ดอยคำปรับรับตลาดดุ เปลี่ยนภาพลักษณ์ทันสมัยเล็งทุ่มโรงงานใหม่พันล้าน

ตลาดน้ำผลไม้แข่งดุ ดอยคำปรับโฉมโลโก้และบรรจุภัณฑ์ใหม่ชิงแชร์มาลี-ทิปโก้

นายสรภัส สุตเธียรกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร ผู้ดำเนินธุรกิจเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ ดอยคำ เปิดเผยว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจนับจากนี้จะเน้นการสร้างแบรนด์สินค้าให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ด้วยการปรับโลโก้ดอยคำ และบรรจุภัณฑ์ใหม่ เพื่อให้ภาพลักษณ์มีความทันสมัยและพรีเมียมมากขึ้น เนื่องจากบริษัทมีแผนที่จะขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะสร้างแบรนด์สู่ระดับสากลด้วยการขยายธุรกิจไปในตลาดต่างประเทศ ซึ่งเบื้องต้นจะเน้นไปที่ตลาดเพื่อนบ้านเป็นหลัก เช่น เมียนมา สปป.ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ส่วนภูมิภาคอื่นๆ เช่น อเมริกาและญี่ปุ่น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจาทางธุรกิจคาดว่าเร็วๆ นี้น่าจะได้ข้อสรุป

"กลุ่มเป้าหมายเดิมของดอยคำจะเป็นผู้บริโภคที่อายุ 35 ปีขึ้นไป แต่หลังจากปรับเปลี่ยนโลโก้และแพ็กเกจจิ้งใหม่ บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังกลุ่มลูกค้าที่มีอายุน้อยลงหรือมีอายุต่ำกว่า 30 ปีได้อย่างแน่นอน" นายสรภัส กล่าว

ขณะเดียวกัน เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคตอีก 2 ปีนับจากนี้ บริษัทมีแผนที่จะใช้งบ 1,000 ล้านบาท สร้างโรงงานแห่งใหม่ที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งจะสร้างให้มีขนาดใหญ่กว่าโรงงานเดิม 3 แห่ง คือ ที่ จ.เชียงใหม่ เชียงราย และสกลนคร ส่วนรายได้บริษัทในสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 1,800 ล้านบาท เติบโต 15% และมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นน่าพอใจจากปัจจุบันมีอยู่ที่ 20%

น.ส.รุ่งฉัตร บุญรัตน์ ประธานบริหารปฏิบัติการ บริษัท มาลีกรุ๊ป กล่าวว่า แผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปีนี้ จะเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับแบรนด์ ด้วยการสร้างเรื่องราวผ่านแคมเปญ "The Caring Message" มาลีที่ได้ดูแลกัน เพื่อบอกถึงแหล่งเพาะปลูกที่เหมาะสมก่อนที่จะนำมาผลิตเป็นน้ำผลไม้

ด้าน นายเอกพล พงศ์สถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ กล่าวว่า ในครึ่งปีหลังนี้บริษัทจะเน้นการทำตลาดไปที่น้ำผลไม้พรีเมียม ควบคู่ไปกับการทำกิจกรรมการตลาด การประชาสัมพันธ์และโฆษณาสินค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสถึงรสชาติและความสดของน้ำผลไม้ทิปโก้ โดยสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีรายได้โต 10-15%