ลงทุนโครงข่าย ไฟฟ้า4หัวเมือง

“เรกูเลเตอร์” เผย กฟภ.เตรียมลงทุนพัฒนาระบบไฟฟ้า 4 เมืองใหญ่กว่า 1.1 หมื่นล้านภายใน 5 ปี

แหล่งข่าวจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกูเลเตอร์) เปิดเผยว่า ขณะนี้เรกูเลเตอร์ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นโครงการพัฒนาระบบไฟฟ้าในเมืองใหญ่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ระยะที่ 1 (2559-2563) เงินลงทุน 1.16 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับปริมาณการใช้ไฟฟ้ามีการขยายตัวพิ่มขึ้นใน 4 เมืองหลัก ได้แก่ เทศบาลนครเชียงใหม่ เทศบาลนครนครราชสีมา เมืองพัทยา จ.ชลบุรี และเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง

“จากการติดตามสถานการณ์ของการใช้ไฟฟ้าใน 4 เมืองหลัก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเมืองแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ พบว่ามีแนวโน้มความต้องการใช้ไฟสูงขึ้นต่อเนื่อง ในขณะที่สถานีไฟฟ้าบางพื้นที่เริ่มเต็มพิกัด มีปัญหาเรื่องภูมิทัศน์และความปลอดภัย จำเป็นต้องก่อสร้างและปรับปรุงระบบไฟฟ้า ด้วยการนำลงดินพร้อมทั้งติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมในพื้นที่โครงการเพื่อเพิ่มความมั่นคงและความน่าเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้า” แหล่งข่าวเปิดเผย

ทั้งนี้ กฟภ.ได้จัดสรรงบลงทุนเพื่อพัฒนาระบบไฟฟ้าในช่วง 5 ปี ประกอบด้วย ปี 2559 เงินลงทุน 360 ล้านบาท ปี 2560 เงินลงทุน 2,451 ล้านบาท ปี 2561 เงินลงทุน 2,802 ล้านบาท ปี 2562 เงินลงทุน 3,482 ล้านบาท และปี 2563 เงินลงทุน 2,575 ล้านบาท โดยแหล่งเงินลงทุนจะมาจากเงินกู้ ในประเทศ 8,750 ล้านบาท และเงินรายได้ กฟภ. 2,920 ล้านบาท ซึ่งแม้ว่าการลงทุนดังกล่าวจะทำให้ต้นทุนต่อหน่วยไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 1.254 สตางค์/หน่วย แต่ที่ผ่านมาได้คำนวณรวมอยู่ในโครงสร้างค่าไฟฟ้าแล้วจึงไม่ทำให้ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากเดิม

นอกจากนี้ กฟภ.ระบุว่า โครงการดังกล่าวจะก่อให้เกิดประโยชน์ เช่น เพิ่มความมั่นคงและความเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้า (Reliability) โดยลดจำนวนครั้งไฟฟ้าดับ (SAIFI) และระยะเวลาไฟฟ้าดับ (SAIDI) ให้เทียบเท่ากับเมืองใหญ่หรือมหานครต่างๆ รองรับการให้บริการไฟฟ้าในเขตชุมชนหนาแน่นได้อย่างเพียงพอมีประสิทธิภาพ และทำให้ภูมิทัศน์ที่สวยงามและระบบไฟฟ้าที่มีความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้ไฟฟ้าที่อยู่ในชุมชนหนาแน่นในเมืองใหญ่

แหล่งข่าวระบุว่า การลงทุนพัฒนาระบบไฟฟ้าดังกล่าว กฟภ.จะก่อสร้างสถานีไฟฟ้าในพื้นที่หัวเมืองใหญ่ด้วย แต่จะไม่มีผลกระทบต่อชุมชนมากนัก เนื่องจากพื้นที่ก่อสร้างจะอยู่ริมถนนทางหลวงในเขตเมือง ขณะที่ กฟภ.จะควบคุมไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนในพื้นที่ข้างเคียงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

ภาพประกอบข่าว