เล่นJASแรง ราคาพุ่งสูงสุดในรอบ1ปี

เล่นหุ้น JAS หนักราคาพุ่งสูงสุดรอบ 1 ปี โนมูระพัฒนสินแนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมาย 5.60 บาท

ราคาหุ้น บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) พุ่งขึ้น 0.26 บาท หรือ 6.95% มาอยู่ที่ 4 บาท  มูลค่าซื้อขายหนาแน่น 3,017 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 3.76 บาท และลดลงต่ำสุดที่ 3.74 บาท ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นมาปิดที่ราคาสูงสุดของวัน นักลงทุนเข้ามาซื้อขายหุ้นดังกล่าวมากจนดันราคาให้ขึ้นไปสูงสุดในรอบ 1 ปี

นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) คาดว่าจะเป็นการเก็งกำไรในกลุ่มสื่อสาร ภายหลังจากผ่อนคลายเรื่องการประมูล 4จี คลื่น 900 MHz รอบใหม่คืบหน้า โดยราคาเริ่มต้นประมูลที่ 7.5 หมื่นล้านบาท ที่แจส โมบาย บรอดแบนด์ ประมูลได้ครั้งก่อน นอกจากนี้ ยังได้แรงหนุนจากโครงการซื้อหุ้นคืนของทาง JAS ด้วย ที่ราคาซื้อคืนหุ้นละ 5 บาท โดยตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้น พร้อมให้แนวรับ 3.80 บาท ส่วนแนวต้าน 4 บาท

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน แนะนำซื้อหุ้น JAS จากเดิมให้ลดพอร์ต เนื่องจากความเสี่่ยงในการลงทุนธุรกิจ โมบาย บรอดแบนด์ ลดลง ประกอบกับการทำตลาด Fixed Broadband เชิงรุกก่อนคู่แข่งด้วยการออกโปรโมชั่นเพิ่มความเร็วและลดราคา ทำให้บริษัทมีโอกาสเติบโตจากลูกค้าเพิ่มขึ้น ตามประมาณการใหม่คาดว่าใน 3 ปีข้างหน้าจะมีกำไรเติบโตต่อปี 15% และประเมินราคาเป้าหมายใหม่ 5.60 บาท (หักเงินประกัน 644 ล้านบาท)

นอกจากนี้ การที่บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ยื่นข้อเสนอซื้อ ใบอนุญาตคลื่น 900 MHz ที่ราคา 75,654 ล้านบาท ทำให้ JAS มีความเสี่ยงลดลงจากการถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายการเติบโตของจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นกว่าคาด จากการทำโปรโมชั่นเชิงรุกมากขึ้น การขายไฟเบอร์ออฟติก เพิ่่มให้กับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) ตลาดบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงมีโอกาสเติบโตสูงจากฐานตํ่ำและเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของผู้ให้บริการ โดยมีอัตราการใช้บริการต่อประชากรเพียง 8.2% และอัตราการใช้บริการต่อจำนวนครัวเรือน 27.4%

สำหรับผลสรุปความเสียหายกรณีบริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ ทิ้งใบอนุญาต 900 MHz จะชัดเจนวันที่ 27 เม.ย.นี้ ซึ่ง บล.โนมูระ ประเมินความเสียหายเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดประมูล 180 ล้านบาท และค่าเสียโอกาสใช้คลื่น 900 MHz ราว 16,080 ล้านบาท กรณีจัดประมูลใหม่แต่ไม่มีผู้เข้าประมูล หรือมีความเสียหาย 16,260 ล้านบาท คิดเป็นผลกระทบต่อหุ้นราว 2.20 บาท