วินัย
องค์ประกอบหนึ่งที่จะทำให้การประกอบธุรกิจ “อยู่รอด” หรือ “เจ๊ง” มีคือคำหนึ่งที่เข้ามาเกี่ยวข้อง และเป็นคำง่ายๆ คือ “วินัย”
องค์ประกอบหนึ่งที่จะทำให้การประกอบธุรกิจ “อยู่รอด” หรือ “เจ๊ง” มีคือคำหนึ่งที่เข้ามาเกี่ยวข้อง และเป็นคำง่ายๆ คือ “วินัย”
โดย...อานนท์
องค์ประกอบหนึ่งที่จะทำให้การประกอบธุรกิจ “อยู่รอด” หรือ “เจ๊ง” มีคือคำหนึ่งที่เข้ามาเกี่ยวข้อง และเป็นคำง่ายๆ คือ “วินัย”
อันที่จริง วินัย เป็นสิ่งที่ควรจะมีกันทุกตัวคน เพราะการมีวินัยจะทำให้เราเดินหน้าไปได้ภายใต้กรอบที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นคนหัวเก่าหรือหัวใหม่ การมีวินัยไม่ใช่เรื่องแบ่งแยกระหว่างคุณวุฒิ วัยวุฒิ แต่เป็นสิ่งที่มีได้ สร้างได้
เวลาที่เราทำงานเป็นลูกจ้าง การมีวินัยก็อาจจะเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายๆ เช่น มาทำงานให้ตรงเวลา ระเบียบบริษัทให้เข้างาน 08.30 น. ก็ต้องมาให้ถึงก่อน ไม่ใช่มาสายเป็นอาจิณ เช่นเดียวกับเวลาเลิกงาน ก็อย่าเลิกก่อน รวมถึงทำตัวให้ถูกต้องตามระเบียบวินัยอื่นๆ ที่แต่ละองค์กรปฏิบัติไม่เหมือนกัน แล้วแต่ข้อกำหนด เช่น การแต่งกาย ที่บางบริษัทอาจจะมียูนิฟอร์ม เป็นต้น
แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราก้าวข้ามผ่านจากการเป็นลูกจ้าง พนักงานธรรมดา มาเป็นผู้บริหาร หรือเจ้าของกิจการ “วินัย” ที่เคยมี จะต้องมีให้มากขึ้นครับ
ผู้ประกอบการระดับเอสเอ็มอีจำนวนมากล้มเหลว หรือตกม้าตายด้วยการขาดวินัยเล็กๆ น้อยๆ ยกตัวอย่างเช่น กิจการกำลังไปได้ด้วยดี จนต้องขยายธุรกิจเพิ่ม แต่ไม่มีเงินทุนเพียงพอ ก็เลยอยากจะขอกู้สถาบันการเงิน ซึ่งสถาบันการเงินก็อาจจะมาดูกิจการแล้วว่ามี ความเป็นไปได้ที่จะทำกำไร และน่าจะปล่อยกู้ให้ได้ แต่ตามระเบียบแล้ว เดี๋ยวนี้ สถาบันการเงินทุกแห่งจะตรวจสอบประวัติของผู้กู้ก่อนครับ และที่เขาตรวจสอบกันมากที่สุดและง่ายที่สุดคือ การตรวจสอบเครดิต บูโร ซึ่งจะแสดงข้อมูลย้อนหลังทางการเงินบางประการของผู้กู้อย่างค่อนข้างละเอียด
ที่ว่าตกม้าตายก็ตรงนี้แหละครับ บางท่านไม่คิดว่าจะเป็นอะไรมากหากจ่ายหนี้บัตรเครดิตล่าช้า หรือติดหนี้บัตรเครดิตสักระยะ รวมถึงอาจจะเคยกู้เงินซื้อบ้าน ซื้อรถ แล้วไม่ได้ผ่อนต่อจนหลุดจำนองไป ฯลฯ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่จะปรากฏในบัญชีประวัติทางการเงินของท่าน และการไร้วินัยทางการเงินในอดีตก็อาจจะกลายเป็นเงาที่กลับมาหลอกหลอนทำให้ไม่สามารถกู้เงินเพื่อขยายกิจการได้ แม้ทุกอย่างจะพร้อมสมบูรณ์แล้ว และรวมถึงแม้ว่าปัจจุบันท่านจะกลายเป็นคนมีวินัยทางการเงินแล้ว แต่เมื่อประวัติศาสตร์ของการไร้วินัยทางการเงินยังเป็นเอกสารที่ฟ้องตัวเองอยู่ จึงเป็นเรื่องที่ผมบอกว่า ทำให้หลายคนตกม้าตายเอาง่ายๆ
นอกจากต้องมีวินัยทางการเงินส่วนตัว ซึ่งจะส่งผลต่อกิจการแล้ว ผู้ประกอบการยังจะต้องมีวินัยการเงินในภาพรวมขององค์กรด้วย เช่น หากเงินที่ไหลเข้าออกเป็นเงินของบริษัท ก็ต้องเป็นของบริษัท ที่ทำบัญชี เอาเข้าธนาคารให้เรียบร้อย ไม่ใช่นึกจะหยิบออกมาใช้บ้างนิดๆ หน่อยๆ แล้วคิดว่าไม่เป็นไร
การไร้วินัยอย่างนี้ จะทำให้เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า ธุรกิจไปได้ด้วยดีจริงหรือไม่ และมีความสามารถในการทำกำไรเท่าไหร่กันแน่ เพราะเอาเงินของบริษัทมาปะปนกับเงินที่ใช้ส่วนตัว ซึ่งเป็นเรื่องที่ไร้วินัยทางการเงินอย่างร้ายแรง และผู้ประกอบการเอสเอ็มอีก็ทำกันมากเสียด้วย
เมื่อไหร่ก็ตามที่ท่านคิดว่า จะยกระดับกิจการให้เป็นกิจการที่ถูกต้อง ก็ควรกำหนดเงินออกมาเป็นส่วนๆ ให้แน่นอน เช่น เงินเดือนของตัวท่านเอง เงินค่าใช้จ่ายอะไรบ้างที่จะเบิกกับบริษัท เช่น ค่าน้ำมันรถที่ใช้ในการติดต่อธุรกิจ ค่ารับประทานอาหารกับลูกค้า ฯลฯ เพื่อจะให้รู้ว่าต้นทุนที่แท้จริงของบริษัทคือเท่าไหร่ และสามารถอยู่ต่อไปได้ไหม
เจ้าของกิจการที่เริ่มธุรกิจใหม่ๆ จำนวนมากมักจะละเลย ไม่ตั้งเงินเดือนของตัวเอง ซึ่งมีหลายเหตุผล เช่น ไม่รู้จะตั้งเท่าไหร่ หรือหากตั้งมากก็กลัวบริษัทไม่ทำกำไร แต่ถ้าตั้งน้อยไปก็ไม่สะท้อนความจริง
ตรงนี้ขอแนะนำว่า จำเป็นครับ ที่จะต้องตั้งเงินเดือนของเจ้าของกิจการให้มีความแน่นอน และไม่ต้องห่วงว่าจะมากไปหรือน้อยไป แต่เอาให้เป็นรายได้ที่เจ้าของกิจการอยู่ได้ และกิจการก็อยู่ได้ ซึ่งผมเชื่อว่าเอาเข้าจริงๆ แล้ว ก่อนจะออกมาเป็นเถ้าแก่เองนั้น เจ้าของกิจการแทบทุกคนรู้ระบบ รู้ว่าตัวเองเคยผ่านอะไรมา เช่น เงินเดือนก่อนที่จะลาออกมาทำกิจการของตัวเองได้ 5 หมื่นบาท พอออกมาเป็นเถ้าแก่เองก็ไม่ควรจะได้น้อยกว่านั้น
ที่ต้องระวัง และต้องมีวินัยอีกประการหนึ่งก็คือ เงินเดือนของคนอื่นๆ ที่เป็นเครือญาติ ซึ่งในกิจการระดับเอสเอ็มอีมักจะมีการนำพี่น้อง ลูก หลาน หรือเพื่อนมาร่วมทำงานด้วย เพราะความไว้เนื้อเชื่อใจ ซึ่งก็จะต้องมีการกำหนดเงินเดือนให้เป็นที่แน่นอนเหมือนกัน อย่าปล่อยให้หยิบกันเท่าไหร่ก็ได้ ตามสบาย แต่กำหนดให้แน่ชัด เพื่อให้ทุกคนมีวินัยในการทำงานและการใช้เงิน ที่จะต้องมีการแบ่งส่วนให้ชัดเจนว่าอะไรเป็นเงินเดือนของตัวเอง และส่วนไหนเป็นรายได้ของบริษัท รวมถึงเมื่อมีกำไร จะมีการปันผลปลายปีหรือไม่ ปันผลอย่างไร เข้าระบบกงสี หรือใช้ระบบแบ่งหุ้น ก็เอาให้แน่
เพราะหากขาดวินัยเมื่อไหร่ หนทางเดินที่ตีบตันก็จะมาเยือนธุรกิจทันทีทีเดียวครับ


