สถาบันเมินหุ้นกู้ซีพี

นักลงทุนสถาบันเตือนหุ้นกู้ CPALL อาจเป็นหมัน ประกาศชัดไม่ซื้อหุ้น-หุ้นกู้เพิ่ม นัดเจอวันประชุมผู้ถือหุ้น เม.ย.

ตัวแทนนักลงทุนสถาบันแห่งหนึ่ง กล่าวภายหลังการประชุมเพื่อกำหนดจุดยืนของนักลงทุนสถาบันกรณีผู้บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ (CPALL) ใช้ประโยชน์จากข้อมูลภายในซื้อหุ้น บริษัท สยามแม็คโคร (MAKRO) ว่า ประเด็นที่ต้องติดตาม คือ หากนักลงทุนสถาบันไม่ซื้อหุ้นกู้ของ CPALL และบริษัทในเครือเพิ่มจะมีผลกระทบต่อตัวบริษัท เพราะส่วนใหญ่จะเสนอขายให้นักลงทุนสถาบันในประเทศ

“ถ้าหุ้นกู้มีปัญหาขายได้ไม่หมด สุดท้ายก็จะวนกลับมากระทบที่ตัวบริษัทและผู้ถือหุ้นอยู่ดี ซึ่งปัจจุบัน CPALL และบริษัทในเครือมีการออกหุ้นกู้รวมกัน
หลายแสนล้านบาท” นักลงทุนสถาบันให้ความเห็น

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2559 มีตัวแทนนักลงทุนสถาบัน 21 แห่งเข้าร่วมประชุม ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ประกันสังคม บริษัทประกันชีวิต และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.บัวหลวง ในฐานะนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) กล่าวว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปร่วมกันจะไม่ลงทุนหุ้นและหุ้นกู้ของ CPALL เพิ่ม หากยังไม่ได้เปลี่ยนตัวผู้บริหารที่มีปัญหา และในการประชุมผู้ถือหุ้นเดือน เม.ย.นี้ จะไปใช้สิทธิผู้ถือหุ้นขอคำชี้แจงและเรียกร้องให้มีการจัดการด้านบรรษัทภิบาล (CG) ที่ดีกว่านี้

“ไม่รู้ว่ามีเสียงรวมกันอยู่เท่าไร ถ้ามีการโหวตเราอาจจะไม่ชนะ แต่เราไม่ได้ทำเพื่อเอาชนะ แต่ทำหน้าที่ของมืออาชีพ ซึ่งถ้าไม่ได้ทำก็คงจะละอายใจตัวเอง และคาดหวังว่าบริษัทจะเข้าใจว่า เป็นการทำตามวิชาชีพ เพื่อให้เกิดสิ่งดีๆ ต่อสังคม ตลาดทุน และประเทศ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นที่จับตามอง” นางวรวรรณ กล่าว

นอกจากนี้ นางวรวรรณ กล่าวอีกว่า “หลังจากนี้การทำงานของสมาคมบริษัทจัดการลงทุนจบสิ้นแล้วสำหรับกรณีนี้ต่อไปนี้จะเป็นหน้าที่ของนักลงทุนสถาบันแต่ละแห่งที่จะดำเนินการอย่างไร ซึ่งที่ผ่านมาไม่มีใครลงทุนเพิ่ม แต่อาจจะขายออกไปบ้างตามนโยบาย”

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย กล่าวว่า ในฐานะนักลงทุนสถาบันให้ความสำคัญกับความก้าวหน้าเรื่อง CG เพราะการลงทุนไม่ได้ดูเฉพาะได้ผลตอบแทนที่ดีเท่านั้น หากต้องการลงทุนระยะยาวในบริษัทใด ประเด็น CG ของผู้บริหารบริษัทเป็นเรื่องสำคัญมาก ดังนั้นหากจะพัฒนาอุตสาหกรรมให้ยั่งยืนเรื่องนี้จึงละเลยไม่ได้

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและรองประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ไม่ได้ลงทุนในซีพี ออลล์ ส่วนการที่ผู้บริหารซีพี ออลล์ มีปัญหาด้านธรรมาภิบาลจะส่งผลกระทบกับการออกหุ้นกู้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนักลงทุน

อย่างไรก็ตาม การจะตัดสินใจลงทุนหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาหลายองค์ประกอบการ ซึ่งธรรมาภิบาลก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการพิจารณาการลงทุนเช่นกัน

นางวรัชญา ศรีมาจันทร์ ผู้ช่วยเลขาธิการอาวุโส ก.ล.ต. กล่าวว่า ก.ล.ต.อยู่ระหว่างการจัดทำแนวทางการปฏิบัติของนักลงทุนสถาบัน (Institute Investor Code) เพื่อใช้เป็นคู่มือมาตรฐานสำหรับนโยบายการลงทุน ยกระดับเทียบเคียงกับตลาด หลักทรัพย์ชั้นนำ โดยอยู่ระหว่างร่วมจัดทำกับ AIMC คาดว่าจะเสร็จภายในปีนี้ ซึ่งคู่มือดังกล่าวไม่ได้บังคับใช้ แต่ให้นักลงทุนสถาบันสมัครใจนำไปปรับใช้

สำหรับแนวทางดังกล่าวเป็นที่สนใจของนักลงทุนต่างชาติอย่างมาก เพราะจะใช้เป็นตัวเลือกสำคัญในการตัดสินใจเลือกใช้กองทุนให้บริหารสินทรัพย์ให้ ซึ่งอาจเพิ่มความน่าสนใจต่อกองทุนที่รับแนวทางปฏิบัตินี้ไปใช้