สุกัญญา สุขเจริญไกรศรี ให้ผลงานพิสูจน์ฝีมือ

โดย...ยินดี ฤตวิรุฬห์

บริษัท เอแคป แอ๊ดไวเซอรี่ (ACAP) ภายใต้การบริหารของ “สุกัญญา สุขเจริญไกรศรี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ คาดหวังอย่างเต็มที่ที่จะทำให้ ACAP กลับมาผงาดและสร้างผลกำไรที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น

“สุกัญญา” ในวัย 41 ปี จบการศึกษาปริญญาโท ด้านธุรกิจระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยซีแอตเติล เมืองซีแอตเติล รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศนียบัตรด้านการเงินระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยวอชิงตัน เมืองซีแอตเติล หลังจากจบปริญญาตรีด้านจิตวิทยาการตลาด มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขณะที่การทำงานช่วงปี พ.ศ. 2553-2555 ที่ปรึกษาอาวุโส Grandtag Financial Group ประเทศฮ่องกง ปัจจุบันนอกจากเป็นซีอีโอของ ACAP แล้ว เธอยังเป็นรองประธานบริษัท สยามกัลฟ์ปิโตรเคมีคัล และยังมีประสบการณ์ในการช่วยธุรกิจของครอบครัวที่ทำเกี่ยวกับเทรดดิ้งน้ำมัน จึงไม่น่าแปลกใจอะไรที่เธอตัดสินใจเข้ามาบริหาร ACAP หลังได้เข้ามาซื้อหุ้นจำนวน 5% ของทุนเรียกชำระแล้ว และเมื่อรวมกับหุ้นในกลุ่มก็ถือในสัดส่วนที่มีอำนาจเต็มในการบริหารธุรกิจ

“เข้ามาซื้อหุ้นเห็นว่า ACAP มีศักยภาพ ตอนนั้นลงทุนด้วยต้นทุน 12 บาท แต่เมื่อเข้ามาแล้วบริษัทกลับชะงักจึงตัดสินใจเข้าไปเรียนรู้งานตั้งแต่ปลายปี 2557 และเมื่อเข้ามาบริหารเต็มตัววันที่ 26 ต.ค. 2558 จึงแก้ปัญหาทั้งหมดที่ได้เห็นมาเฉพาะเรื่องของการลดค่าใช้จ่าย เพราะทำได้ทันที ลดลงได้เยอะมาก เช่น ในเรื่องของค่าเช่าสำนักงาน ค่าเช่าการเก็บเอกสารและเรื่องยานพาหนะ หลังจากนี้จะบุกในเรื่องของการสร้างรายได้ต่อไป”

หลักการในการทำงาน เธอจะทำทุกอย่างด้วยตัวเองทั้งหมด เพื่อทำให้พนักงานและทุกๆ คนในองค์กรได้เห็นว่าเราทำงานจริง ตั้งใจจริง เพื่อให้บริษัทกลับมามีกำไรให้กิจการเติบโต ยอมรับว่าด้วยอายุที่ไม่มาก เมื่อเข้าไปก็มีการรับน้องบ้าง แต่เมื่อพนักงานเห็นเราตั้งใจจริง ทำเต็มที่เขาก็ยอมรับ เพราะเราใช้ผลงานในการพิสูจน์ฝีมือและสร้างความยอมรับ ถือว่าทำได้ผล เพราะ 6 เดือนที่เข้ามาทำเต็มที่ บริษัทสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ และจะมีกำไรต่อเนื่องต่อไปในอนาคต

สุกัญญา กล่าวว่า เธอให้ความสำคัญมากกับหลักธรรมาภิบาล ทุกอย่างต้องโปร่งใส ใช้ฝีมือในการทำงาน ถ้าช่วยกันขับเคลื่อนให้บริษัทมีกำไร พนักงานก็จะได้รับโบนัส ผู้ถือหุ้นก็ได้รับผลตอบแทนที่ดี

สุกัญญาบอกผ่านถึงผู้ถือหุ้นให้มั่นใจเธอในการมุ่งมั่นนำพา ACAP ให้เติบโต เพราะ ACAP คือธุรกิจที่เธอเลือกให้เป็นฐานธุรกิจที่เติบใหญ่ภายนอกธุรกิจของครอบครัว