‘สงวนสุขสโตร์’ อุปกรณ์เย็บปัก ในตำนาน

โดย...ดวงใจ จิตต์มงคล

อีกหนึ่งร้านค้าเก่าแก่ที่อยู่คู่ตลาดสำเพ็งมาไม่ต่ำกว่า 50 ปี สำหรับ “สงวนสุขสโตร์” กิจการครอบครัวเล็กๆ ที่ส่งต่อจากรุ่นต่อรุ่นมาจนถึงในยุค 3 ที่นำหลักบริหารจัดการธุรกิจมาปรับใช้ได้อย่างลงตัว ทำให้ร้านยังคงรักษาตำแหน่งขวัญใจขาประจำเจ้าของห้องเสื้อตั้งแต่อดีตมาจนถึงดีไซเนอร์แบรนด์เสื้อผ้าหน้าใหม่ในปัจจุบัน ที่ยังไม่รวมถึงลูกค้าขาจรที่แวะมาบ่อยครั้ง 

วิกรม ลิมประนะ ทายาทรุ่น 3 ร้านสงวนสุขสโตร์ เล่าที่มากิจการที่เปิดหน้าร้านจำหน่ายสินค้าอุปกรณ์เย็บปักถักร้อยมาตั้งแต่รุ่นอาม่า ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจก่อนที่คุณพ่อและคุณอาได้เข้ามารับช่วงต่อ กระทั่งในรุ่นของวิกรมที่เข้ามาช่วยดูแลกิจการตั้งแต่ 8 ปีก่อน และเห็นความเปลี่ยนแปลงทางการค้าในย่านสำเพ็งมาอย่างต่อเนื่อง และได้ปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจให้มีความทันสมัยขึ้น จากการใช้สื่อสังคมออนไลน์ (โซเชียลมีเดีย) อย่างเฟซบุ๊ก มาช่วยประชาสัมพันธ์ร้านเพื่อขยายฐานกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่

ขณะที่สินค้าที่วางจำหน่ายในร้านจะถูกจัดเป็นหมวดหมู่อย่างมีระเบียบ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มสินค้าย้อนยุค แนววินเทจเพื่อใช้เป็นของตกแต่ง (แอกเซสซอรี่) เพิ่มลูกเล่นให้กับงานตัดเย็บเสื้อผ้าต่างๆ อาทิ ขนนก หน้ากาก เลื่อมสารพัดสี รวมไปถึงของประดับแวววาวสีต่างๆ โดยสินค้าสนนราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักไม่ถึง 10 บาท/ชิ้น ไปจนถึงหลักร้อยบาทก็มี โดยขึ้นอยู่กับงบประมาณของลูกค้าที่ต้องการในกรณีที่เป็นลูกค้าทั่วไป

“จุดเด่นที่ดึงดูดใจลูกค้าทั้งเก่าและใหม่ได้เป็นอย่างดี จะมาจากงานบริการ ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ในรุ่นอาม่า ต่อมาถึงรุ่นคุณพ่อ อาโก ที่ถ่ายทอดต่อๆ กันจนมาถึงในรุ่นผม โดยทางร้านจะให้คำแนะนำตัวสินค้าอุปกรณ์ต่างๆ กับลูกค้าว่าเหมาะกับการทำงานแบบไหนอย่างเป็นกันเอง” วิกรม เล่า

ขณะที่การบริหารร้านในรุ่นของวิกรมที่นอกจากเพิ่มช่องทางแนะนำร้านค้าผ่านโซเชียลมีเดียแล้ว ขณะเดียวกันก็ยังให้ความสำคัญในการติดตามกระแส (เทรนด์) แฟชั่นโลกที่เกิดขึ้น เพื่อการสั่งสินค้า หรือนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายภายในร้านได้ตรงกับความชอบของกลุ่มลูกค้าให้ได้มากที่สุด

นอกเหนือจากสินค้าในกลุ่มพื้นฐานที่ต้องมีในร้านอยู่แล้ว โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอุปกรณ์แตกต่าง แนวย้อนยุคอย่างกระดุม ตัวประดับ ฯลฯ เพื่อเอาใจลูกค้ารุ่นเก่าๆ ที่ยังแวะเวียนมาหาซื้อสินค้าที่นี่เป็นประจำ ซึ่งอาม่าเคยเล่าให้ฟังว่าสมัยก่อนห้องเสื้อชั้นนำใหญ่ๆ ของกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่แล้วจะต้องเป็นลูกค้าประจำที่นี่ โดยมี 3 อันดับสินค้าขายดีที่ขึ้นชื่อของทางร้านตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันคือ ผ้าซับใน ผ้ากาว และด้ายสารพัดสี

สำหรับลูกค้าหลักในปัจจุบันกว่า 40-50% จะเป็นกลุ่มโรงงานสิ่งทอเสื้อผ้า หรือการ์เมนต์ต่างๆ และอีก 50-60% จะเป็นกลุ่มลูกค้าปลีกทั่วไป ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ยุโรป ตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย เป็นต้น ที่เดินทางมายังตลาดสำเพ็ง เพื่อมองหาสินค้าผ้าและของใช้ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่ปัจจุบันตลาดแห่งนี้ยังคงมีเสน่ห์อยู่จากความเก่าแก่ของตัวตลาด และร้านค้าต่างๆ ที่อยู่มานานและรักษากิจการตัวเองเอาไว้ได้อย่างยืนยาว ที่เชื่อว่ามาจากความซื่อสัตย์ คุณภาพสินค้า และการให้บริการ

วิกรม เสริมว่า แม้ว่าจะมีตลาดแห่งใหม่ที่ใช้ชื่อเดียวกันนี้เปิดให้บริการไปเมื่อไม่นาน แต่ก็เชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบกับตลาดสำเพ็งดั้งเดิม จากตำแหน่งทางการค้าของตลาดที่ลูกค้าทั่วไปทั้งชาวไทยและต่างชาติ รู้จักเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ขณะที่ทำเลสำเพ็งก็ยังอยู่ติดกับตลาดผ้าแห่งใหญ่อย่าง พาหุรัด ที่มองว่าเป็นธุรกิจสินค้าที่มีความเกี่ยวเนื่องกันและเพิ่มความสะดวกให้กับกลุ่มลูกค้าได้อย่างดี ซึ่งยังไม่รวมถึงด้านการเดินทาง จากรถไฟฟ้าใต้ดินที่จะให้บริการย่านนี้ในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย 

พร้อมปิดท้ายว่า การเข้ามารับช่วงต่อธุรกิจครอบครัวนั้น มีข้อดีคือ เป็นกิจการของเราเอง ที่สำคัญจะยังได้รับการถ่ายทอดจากคนรุ่นก่อนที่มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ตรง ได้เรียนรู้การรักษาคู่ค้าพันธมิตรธุรกิจ เพื่อให้สามารถนำไปใช้ปรับการทำธุรกิจให้เข้ากับยุคปัจจุบันในรุ่นของเขาได้ ซึ่งในอนาคตร้านสงวนสุขสโตร์วางเป้าหมายจะสามารถขยายกิจการไปยังรูปแบบธุรกิจค้าส่งด้วย

สงวนสุขสโตร์ ธุรกิจครอบครัวที่ยึดสไตล์การบริหารแบบร่วมสมัย ภายใต้การบริหารคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันแต่ยังคงเคารพแนวคิดการทำงานของในรุ่นบุกเบิก ที่ทำกลายเป็นอีกหนึ่งในตำนานร้านค้าเก่าแก่ในตลาดสำเพ็ง