ณัฐดนัย จิราภรณ์มณี ถ่ายทอดท่วงทำนองผ่านเปียโน

โดย...วิภาคย์/ภาดนุ ภาพ : ทวีชัย ธวัชปกรณ์

บิ๊กเบิร์ด-ณัฐดนัย จิราภรณ์มณี หนุ่มวัย 23 ปี คว้าตำแหน่งหนุ่มหล่อประจำปี 2014 จากการประกวดนายแบบของนิตยสารผู้ชายฉบับหนึ่ง และก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงภายใต้สังกัดโพลีพลัส โดยประเดิมงานละครโทรทัศน์ “เพื่อนรัก เพื่อนริษยา” ทางช่อง 3 ที่ลาจอไปได้สักพักเป็นเรื่องแรก

เราสืบรู้มาว่าที่บ้านของบิ๊กเบิร์ดเปิดเป็นโรงเรียนสอนเปียโนชื่อ “สุภิดา สตูดิโอ” ซึ่งอยู่ในซอยสุขุมวิท 101 มาได้ 15 ปีแล้ว จึงไม่แปลกใจที่งานอดิเรกของเขาก็คือการเล่นดนตรีโดยเฉพาะอย่างยิ่งเปียโน ที่เจ้าตัวบอกว่าซึมซับกับเสียงเพลงและตัวโน้ตมาตั้งแต่จำความได้ โดยมีคุณแม่เป็นครูผู้ถ่ายทอดทักษะทางด้านดนตรีให้

“จุดเริ่มต้นในการเล่นเปียโนของผมเริ่มจากต้องการพิสูจน์ความเชื่อของคนโบราณที่บอกว่า ถ้าแม่เป็นครู แม่จะสอนลูกตัวเองไม่ได้ เพราะลูกจะไม่ค่อยฟังแม่ ซึ่งตอนเด็กๆ ผมก็ไม่ค่อยฟังคุณแม่จริงๆ แถมเล่นเปียโนไม่ได้อีกต่างหาก กระทั่งวันหนึ่งมีนักเรียนเปียโนที่คุณแม่เอ็นดูมาก จนผมรู้สึกว่าทำไมคุณแม่ถึงใจดีกับเขา แต่กับเราจะโดนดุตลอด

ตอนนั้นผมจึงมีความคิดแบบเด็กๆ ว่าเราต้องเรียนเปียโน แม่จะได้ใจดีกับเราบ้าง ตั้งแต่นั้นผมก็เริ่มเรียนเปียโนอย่างจริงจังตอนอยู่ชั้น ป.5 พอเล่นเป็นก็เริ่มมีการสอบวัดระดับ ซึ่งผมจะซ้อมอยู่เรื่อยๆ ไม่เคยขาด สุดท้ายก็สอบได้ระดับเปียโนแจ๊ซคนแรกของประเทศไทย”

บิ๊กเบิร์ด บอกว่า เขาได้มีโอกาสเรียนเปียโนกับคุณครูของคุณแม่ด้วย และใช้เวลาในการฝึกฝนเพียงครึ่งปีเท่านั้น ถ้าเทียบกับคนอื่นเขาอาจจะได้เปรียบตรงที่คุ้นชินกับเสียงเปียโนมาตลอดจึงซึมซับได้มากกว่า

“โดยส่วนตัวแล้วผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นสายเล่นโชว์มากกว่าสายแข่งขัน คือสามารถไปโชว์ที่ไหนก็ได้ แต่ไม่อยากแข่ง เพราะรู้สึกว่าความสามารถของตัวเองยังไม่ถึง เคยแข่งแค่ครั้งเดียวแล้วรู้สึกว่ากดดันเกินไป เลยคิดว่าเล่นเปียโนเป็นงานอดิเรกน่าจะแฮปปี้กว่า

ผมเริ่มเล่นเปียโนก่อน ตามด้วยกีตาร์ เบส และไวโอลิน ส่วนดนตรีไทยก็มีขลุ่ยและขิมที่เคยลองเล่น แต่ก็มาจบลงที่เปียโนอยู่ดี เพราะรู้สึกว่ามีความสุขที่ได้ยินเสียงเปียโนทุกวัน ผมว่าการเล่นเปียโนมันได้ฝึกสมาธิ เพราะผมค่อนข้างสมาธิสั้น ซึ่งการเล่นเปียโนมันทำให้เราจดจ่ออยู่กับคีย์บอร์ดได้นานๆ มันจึงเป็นประโยชน์มาก”

บิ๊กเบิร์ด บอกว่า เคล็ดลับในการเล่นเปียโนให้เก่ง นอกจากต้องมีพื้นฐานมาก่อนแล้ว ยังต้องมีอารมณ์ร่วมกับเครื่องดนตรีและตีโจทย์ให้ออกว่าเพลงนั้นอารมณ์ไหน ทั้งยังต้องใช้อินเนอร์ในการฟังด้วยความเข้าใจ บางเพลงถ้ามีประสบการณ์โดยตรงก็จะง่ายขึ้น

“งานที่ผมได้เล่นเปียโนแล้วรู้สึกประทับใจ คืองานแต่งงานของญาติ ด้วยความที่บ้านเราเป็นตระกูลใหญ่ ญาติทางฝ่ายแม่ที่ไม่เคยเจอผมมาก่อนเลยกลับบอกว่า สไตล์การเล่นเปียโนแบบนี้ แนวเพลงแบบนี้ ทำให้เขารู้เลยว่าผมเป็นลูกแม่ นี่คือความประทับใจที่ญาติผู้ใหญ่จำเราได้จากสไตล์การเล่นเปียโน

โดยส่วนใหญ่แล้วผมจะถนัดเล่นเพลงแนวป๊อปหรือเพลงตลาดทั่วไป แต่ผมจะชอบนำเพลงเหล่านี้มาเปลี่ยนจังหวะให้เป็นสวิงหรือฟิวชั่นแจ๊ซ ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของผมที่ชอบนำดนตรีมาผสมผสานกัน แม้ผมจะเลือกเรียนคณะนิเทศศาสตร์ แต่ในชีวิตประจำวันผมก็ยังคงเล่นเปียโนเป็นงานอดิเรกและยังเป็นอาจารย์สอนเปียโนด้วย”

บิ๊กเบิร์ดฝากถึงน้องๆ ที่จะเริ่มเรียนดนตรีว่า ดนตรีไม่จำกัดอายุและไม่มีนิยามที่ตายตัว แค่เราถ่ายทอดความรู้สึกลงไปบนเครื่องดนตรี ก็เหมือนกับเราได้เสพศิลปะอย่างหนึ่งแล้วเช่นกัน

“ถ้าคิดจะเริ่มเล่นดนตรี ผมอยากให้เริ่มต้นที่เปียโน เพราะเปียโนเป็นเครื่องดนตรีหลัก 1 ใน 2 ของโลกคู่กับไวโอลิน ซึ่งมีวิธีการอ่านโน้ตที่ละเอียดที่สุด ผมว่าถ้าเราเริ่มต้นเรียนรู้จากสิ่งที่ละเอียดที่สุดก่อนแล้ว ต่อไปทำอะไรก็จะง่ายขึ้นครับ”

อัพเดทความเคลื่อนไหวได้ที่ IG : Bigbird_Menshealth