มือปืนรับจ้างผลิต พยุงธุรกิจเครื่องดื่ม

โดย...รัชนีย์ ศรีวัฒนชัย

หากน้ำดื่มสยามไม่ปรับตัวสู่การรับจ้างผลิตน้ำดื่มบรรจุขวดในวันนั้น ก็จะไม่มีบริษัท ทีทีซี น้ำดื่มสยาม ในวันนี้ วิชั่นของ “ทรงพร จั่นเทศ” เอ็มดีที่มองการณ์ไกลว่า ต้องสร้างรายได้จากการรับจ้างผลิตมาหล่อเลี้ยงน้ำดื่มสยาม ซึ่งเป็นแบรนด์เล็กๆ ไม่สามารถต่อกรกับแบรนด์ใหญ่ๆ ได้

ทรงพร จั่นเทศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีทีซี น้ำดื่มสยาม ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำดื่มบรรจุขวดสยาม เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจเครื่องดื่มบรรจุขวดสยาม เกิดจากในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540 ซึ่งในขณะนั้นครอบครัวทำธุรกิจเป็นตัวแทนจำหน่ายรถเบนซ์ แต่พอประสบกับปัญหาทางธุรกิจ ไม่ต้องการจะโละพนักงานที่ทำงานอยู่ด้วยทิ้ง จึงตัดสินใจแตกธุรกิจใหม่ๆ

ในช่วงเวลานั้นมองว่าน้ำดื่มเป็นปัจจัยสี่ในการดำรงชีวิต ซึ่งคาดว่าตลาดน้ำดื่มบรรจุขวดน่าจะเป็นตลาดใหญ่ จึงเข้ามาสู่ธุรกิจน้ำดื่มสยาม ด้วยงบลงทุน 300 ล้านบาท สร้างโรงงานแห่งแรกที่ จ.ปทุมธานี เมื่อปี 2541 ภายใต้แนวทางการทำธุรกิจ “ความจริงใจ ความใส่ใจ และคุณภาพสินค้า” ซึ่งในสมัยนั้นมีน้ำดื่มบรรจุขวดแบรนด์ท้องถิ่นเป็นจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือ น้ำดื่มโพลาริส ที่โด่งดัง

การทำตลาดของน้ำดื่มสยาม บริษัทใช้กลยุทธ์ดอกบัวบาน ค่อยๆ แทรกซึมไปในตลาด ค่อยๆ ปั้นแบรนด์ให้เติบโต ซึ่งบริษัทบริหารจัดการเองทั้งสิ้น นับตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ตั้งแต่การผลิต จัดจำหน่ายสินค้าเน้นส่งน้ำดื่มถึงบ้าน แต่หลังจากทำธุรกิจมาได้ 3 ปี ตลาดน้ำดื่มเริ่มเกิดความเปลี่ยนแปลง มีแบรนด์ใหญ่ๆ เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการทำตลาดน้ำดื่มเพิ่มขึ้น อาทิ น้ำดื่มสิงห์ เนสท์เล่

ขณะที่น้ำดื่มสยามเป็นแบรนด์เล็กๆ และไม่ได้มีการสร้างแบรนด์อย่างจริงจัง เพราะเป็นธุรกิจที่กำไรไม่เยอะ การทำตลาดต้องทุ่มงบจำนวนมาก ในเวลานั้นน้ำดื่มเริ่มมีแบรนด์เล็กๆ ล้มหายตายจากไป ขณะที่รายได้ก็ไม่ค่อยสู้ดีมากนัก เพื่อพยุงธุรกิจให้สามารถเติบโตอยู่ได้ บริษัทจึงหันมาสู่เส้นทางการเป็นมือปืนรับจ้างผลิตน้ำดื่มให้กับโมเดิร์นเทรด หรือแบรนด์อื่นๆ ที่ต้องการจะจำหน่ายน้ำดื่มบรรจุขวด เมื่อปี 2544

“เราวางนิยามของบริษัท ทีทีซี น้ำดื่มสยาม ว่า เป็นผู้ผลิตน้ำดื่มบรรจุขวด มีสินค้าให้เราเป็นผู้ผลิตมากกว่า 10 แบรนด์ ล่าสุด คือ น้ำดื่มอควาฟิน่า กระทั่งปัจจุบันบริษัทมีรายได้จากการรับจ้างผลิตในสัดส่วนถึง 70% ช่วยหล่อเลี้ยงให้ธุรกิจสามารถยืนหยัดอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ ส่วนรายได้จากน้ำดื่มสยามมีเพียง 30% ถ้าวันนั้นไม่ตัดสินใจรับจ้างผลิต น้ำดื่มสยามอาจจะสูญหายจากตลาดไปนานแล้ว แต่เป็นเพราะเราปรับตัวได้ทันกับความเปลี่ยนแปลง” ทรงพร กล่าว

ธุรกิจน้ำดื่มเป็นตลาดปราบเซียน เป็นสินค้าที่ราคาไม่สูงมากและมีกำไรน้อย แต่ที่เรายังสามารถเติบโตนอกเหนือจากการรับจ้างผลิตน้ำดื่มบรรจุขวดแล้ว ยังมาจากการมุ่งนำเสนอสินค้าให้มีคุณภาพ กระทั่งเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ได้พัฒนาน้ำแร่บรรจุขวดแบรนด์สยามออกสู่ตลาด และเดินหน้าทำตลาดจริงจัง 4-5 ปีมานี้ แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จ เพราะน้ำแร่ยังไม่เป็นที่นิยม สะท้อนว่าสินค้าดีแต่ตลาดยังไม่มีความต้องการ สินค้าก็ไม่สามารถแจ้งเกิดได้

ทรงพร กล่าวว่า ไตรมาส 4 บริษัทจะกลับมาทำตลาดเชิงรุกในตลาดน้ำแร่อีกครั้ง เนื่องจากตลาดเริ่มเติบโตจากการที่แบรนด์ใหญ่ๆ เข้ามาในตลาด ในขณะที่น้ำแร่สยาม เราต้องการเติบโตแบบเกาะเทรนด์ของตลาดมากกว่า และสิ่งสำคัญ น้ำแร่เป็นสินค้าที่มีกำไรสูงกว่าน้ำดื่มธรรมดา เพราะเป็นสินค้าที่มีมูลค่ามากกว่า

นอกจากนี้ บริษัทกำลังอยู่ระหว่างวิจัยและพัฒนาเครื่องดื่มใหม่ๆ เพื่อขยายอาณาจักรเครื่องดื่มให้เพิ่มขึ้น เบื้องต้นสนใจจะทำตลาดเครื่องดื่มผสมวิตามิน ซึ่งเป็นตลาดใหม่และมีผู้เล่นในตลาดไม่มากนัก แต่เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีอายุสั้น ดังนั้นจึงต้องรอดูจังหวะและโอกาสของการทำธุรกิจให้ดี เพราะบทเรียนจากน้ำแร่ทำให้เราต้องพิจารณาการทำตลาดให้ถี่ถ้วนจะได้ไม่เพลี่ยงพล้ำ

ธุรกิจน้ำดื่มก็ยังเป็นตลาดที่มีอนาคตสดใส เพราะร่างกายของมนุษย์มีน้ำเป็นส่วนประกอบของร่างกาย 75% อีกทั้งกระแสสุขภาพที่มาแรง น้ำดื่มสยามจึงเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เตรียมหวนกลับมาสร้างแบรนด์ในตลาดอย่างจริงจังอีกครั้ง คงต้องจับตาดูการออกหมัดในครั้งนี้กันให้ดี