Slowlife… Slow Marketing
โดย...กุลฉัตร ฉัตรกุล ณ อยุธยา
โดย...กุลฉัตร ฉัตรกุล ณ อยุธยา
ท่าน ว.วชิรเมธี กล่าวไว้ว่า “กินทีละคำ ทำทีละอย่าง” เป็นปรัชญาในหัวใจของผมตลอดเวลา ทำให้คิดถึงวิถีชีวิตที่เร่งรีบของผู้คนในแต่ละวัน ตั้งแต่ตื่นนอนตีห้า ล้างหน้าแปรงฟัน รีบขึ้นรถไปทำงาน ทานอาหารฟาสต์ฟู้ด ไม่มีเวลาทานข้าวพร้อมหน้ากันทั้งครอบครัว ชีวิตในแต่ละวันดำเนินไปด้วยความรีบร้อน ไร้ระเบียบ ขาดสติ และสมาธิในการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพในแต่ละวัน ชีวิตอยู่ในเส้นทางที่รีบเร่งตลอดเวลา (Drive in the fast lane) เวลาชีวิตวันๆ หนึ่งสูญหายไปหมดเพราะทุกคนตกเป็นทาสของเวลา (Slave to time)
Leo Babauta เป็นบล็อกเกอร์และนักเขียนชื่อดัง หนึ่งในผู้บุกเบิกการใช้ชีวิตแบบ Slow Life จนแพร่หลายไปทั่วโลก Slow Life เป็นการใช้ชีวิตแบบไม่เร่งรีบและยึดหลักพอเพียง ได้แก่ ความเรียบง่าย ใช้ชีวิตอย่างประหยัด การเลี้ยงดูลูก ความสุข มีแรงจูงใจ รู้จักปลดหนี้ มีการออม บริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ มีความสำเร็จในการปรับเปลี่ยนนิสัยและการบรรลุจุดมุ่งหมาย Leo มีผลงานการเขียนหนังสือติดอันดับเบสต์เซลเลอร์คือ The Power of Less เป็นต้นแบบของการใช้ชีวิตแบบไม่สะสม
การใช้ชีวิตแบบไม่เร่งรีบเพื่อชีวิตที่มีสุขนั้น เริ่มต้นง่ายๆ 9 ขั้น คือ 1) ต้องโฟกัสมากขึ้น อย่าทำหลายอย่างพร้อมกัน 2) มีสติอยู่กับปัจจุบัน ไม่ฟุ้งซ่าน 3) ใช้ชีวิตแบบโลว์เทค ปิดมือถือและอุปกรณ์ไฮเทคช่วงวันหยุด 4) เลิกก้มหน้าให้โทรศัพท์ หันไปใส่ใจเพื่อนฝูง ครอบครัว และคนรอบข้างมากขึ้น5) ชื่นชมความงดงามของธรรมชาติบ้าง ออกมาเดินเล่นในสวน สูดอากาศบริสุทธิ์ให้ร่างกาย 6) รับประทานอาหารให้ช้าลง เพื่อรับรู้ความอร่อยของรสอาหาร 7) ขับรถให้ช้าลงจะเครียดน้อยลง 8) มีความสุขง่ายๆ และรื่นรมย์กับทุกอย่างที่พบเจอ มองโลกให้เป็นบวก ทำทุกๆ เรื่องด้วยความสุขและเต็มใจ 9) ขจัดความเครียดด้วยการสูดลมหายใจเข้าลึกๆ มีสติกับลมหายใจเข้าออกเพื่อให้จิตเป็นสมาธิ
Slow Life ไม่ได้เป็นการค้นหาวิธีในการประหยัดเวลาในการดำเนินชีวิต แต่เป็นการค้นหาวิธีการที่ดีที่สุดในการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เป็นการสร้างสมดุลที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพของชีวิตมากกว่าปริมาณSlow Life Marketing จึงเป็นแนวคิดการตลาดเชิงสร้างสรรค์ที่สอดคล้องกับสภาพสังคมที่ต้องการใช้ชีวิตให้ช้าลง เป็นการตลาดที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิต สังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยิ่ง จึงก่อเกิดธุรกิจเพื่อสังคม หลากหลายรูปแบบที่ตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าว เป็นการบริการที่ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดในชีวิตประจำวัน ให้ใช้ชีวิตแนวใหม่โดยเน้นพอเพียง ประหยัด ลด ละ กิเลส
ตัวอย่างเช่น การฝึกโยคะ การนั่งสมาธิ การทำสปา การท่องเที่ยวแบบลดคาร์บอน การท่องเที่ยวธรรมชาติที่สอดแทรกความรู้เกี่ยวกับการปลูกป่า การเรียนรู้การหมุนเวียนทรัพยากรธรรมชาติกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เรียนรู้การใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าตลอดจนการสร้างบ้านด้วยดินธรรมชาติ เช่นที่ ศูนย์พัน พรรณ (โจน จันใด) บ้านแม่โจ้ ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแบบเกาะหมาก จ.ตราด กับแนวคิดการท่องเที่ยวแบบลดคาร์บอนและสร้างให้ชุมชนเข้มแข็ง โรงแรมศิริปันนา วิลล่า รีสอร์ท แอนด์ สปา จ.เชียงใหม่ ได้จัดบริการพื้นที่สำหรับการพักผ่อนจิตใจ มีลานโพธิ์เพื่อทำสมาธิ ลานและสระว่ายน้ำเพื่อทำโยคะ การพักผ่อนโดยเดินจงกรม กิจกรรมทางวัฒนธรรมล้านนา การสาธิตการปลูกข้าว สวนพืชสมุนไพร ฯลฯ
Slow Life Marketing จึงเป็นแนวคิดเพื่อสังคมที่ไม่ได้มุ่งหวังกำไรในรูปตัวเงิน แต่ต้องการเป็นต้นแบบการใช้ชีวิตให้ช้าลงและมีสติมากขึ้น เปิดโอกาสให้สมองได้พักบ้าง กินทีละคำ ทำทีละอย่าง กำไรของธุรกิจลักษณะนี้จึงอยู่ที่การได้จรรโลงสังคมให้น่าอยู่มากขึ้น ด้วยการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้กับผู้คนสอดคล้องกับแนวคิดแบบการตลาด 3.0


