posttoday

กลยุทธ์ส่งต่อธุรกิจ จากรุ่นพ่อสู่รุ่นใหม่

29 มิถุนายน 2558

กว่าจะสร้างธุรกิจขึ้นมาและทำให้อยู่ได้อย่างมั่นคงและยืนยาวไม่ใช่เรื่องง่าย

โดย...จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์

กว่าจะสร้างธุรกิจขึ้นมาและทำให้อยู่ได้อย่างมั่นคงและยืนยาวไม่ใช่เรื่องง่าย แต่รุ่นก่อตั้งธุรกิจก็ใช่จะอยู่ค้ำฟ้าต้องหาทางส่งต่อธุรกิจสู่รุ่นลูกหลานให้ดูแลต่อ ยิ่งเมื่อปัจจัยแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ช่วงเวลานี้ถือเป็นฤดูผลัดใบก็ว่าได้ เมื่อพบว่า หลายธุรกิจกำลังส่งไม้ให้รุ่นใหม่ลุยกันต่อ

พิชญ์พจี สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทาวเวอร์ส วัทสัน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ช่วงนี้สิ่งแวดล้อมธุรกิจเปลี่ยนเร็ว ทั้งเทคโนโลยีและแนวคิดพนักงาน มีพนักงานรุ่นใหม่เข้าสู่องค์กรมากขึ้น ผู้บริหารรุ่นเก่าจึงเห็นว่าถึงเวลาส่งต่อธุรกิจให้รุ่นลูกหลาน ซึ่งน่าจะเข้าใจเทคโนโลยีและคนรุ่นเดียวกันดีกว่า หรืออย่างน้อยต้องดึงรุ่นลูกหลานมาเตรียมพร้อมก่อน เมื่อถึงเวลาสืบทอดธุรกิจจริงจะได้รับมือไหว เพราะการสืบทอดธุรกิจมีความเสี่ยงมากหากไม่มีแผนรองรับอาจไม่สำเร็จ จึงต้องสร้างแผนสืบทอดตำแหน่ง (Succession plan)

ด้านการเตรียมพร้อมคนรุ่นต่อไปให้เข้ามาเป็นผู้บริหารแทนรุ่นเก่า ไม่สามารถเตรียมเฉพาะรุ่นต่อไปได้ต้องเตรียมทีมที่ทำงานกับรุ่นต่อไปด้วย เช่น พ่อส่งธุรกิจให้ลูกแต่ผู้บริหารลำดับถัดจากพ่อเป็นผู้บริหารรุ่นเดียวกับพ่อ ลูกจะบริหารต่อก็ลำบาก ต้องสร้างการยอมรับในตัวรุ่นลูกก่อนส่งต่อธุรกิจหรือสร้างทีมใหม่ให้ลูกเลย ต้องให้ลูกแสดงฝีมือก่อนส่งต่อถ้าทำไม่ได้ควรให้ผู้บริหารมืออาชีพที่ผ่านการประเมินตามขั้นตอนมาทำ” พิชญ์พจี กล่าว

ขณะที่ ทายาท ศรีปลั่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะไนล์ กล่าวว่า คนรุ่นที่สร้างธุรกิจมาเวลานี้อยู่ในวัย 60-65 ปี สุขภาพเริ่มไม่เอื้ออำนวยต่อการโหมงานจึงอยากส่งต่อธุรกิจรุ่นลูกหลานที่ขณะนี้อายุ 30 ปีตอนปลายถึง 40 ปีตอนต้น น่าจะมีประสบการณ์พอรับช่วงได้แล้ว และเป็นผลจากเทคโนโลยีมีบทบาทกับธุรกิจมากขึ้น รุ่นเก่าไม่ชำนาญใช้เทคโนโลยีต้องการดึงรุ่นใหม่ที่โตพร้อมเทคโนโลยีเข้ามาช่วย

ทั้งนี้ การส่งต่อธุรกิจให้ราบรื่นต้องทำแผนสืบทอดตำแหน่งให้ชัด เช่น รุ่นพ่อส่งต่อแล้วไม่ได้ออกจากบริษัทไปเลย ควรต้องมีบทบาทอะไรบ้าง อาจเป็นกรรมการบริษัทที่สอดส่องผลการดำเนินงานได้แต่ต้องตัดจากอำนาจบริหารให้ขาด ไม่เช่นนั้นรุ่นลูกหลานที่รับช่วงจะรู้สึกว่าถูกรุ่นเก่าแทรกแซงทำงานได้ไม่เต็มที่ ต้องสร้างเครื่องมือบริหาร หากเป็นครอบครัวใหญ่ต้องสร้างธรรมนูญการปกครอง มีแนวคิดบริหารธุรกิจครอบครัวว่าต้องปฏิบัติอย่างไรกับพนักงานกำกับไว้และเขียนแนวปฏิบัติกรณีเจอปัญหาทั้งสถานการณ์ปกติและไม่ปกติด้วยว่าแก้อย่างไร

วศิน อรดีดลเชษฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สลิงชอท กรุ๊ป กล่าวว่า 1-2 ปีนี้บริษัทใหญ่ขอรับคำปรึกษาส่งต่อธุรกิจอยู่มาก เพราะรุ่นพ่ออายุ 50-60 ปีอยากวางมือ แต่มีปัญหาสร้างคนไม่ทันรับการเปลี่ยนถ่าย ไม่ใช่แค่ลูกหลานแต่ไม่ได้สร้างคนในบริษัทมาเป็นผู้นำช่วงที่ลูกหลานยังไม่พร้อมด้วย

สำหรับการส่งต่อธุรกิจต้องวางรากฐานให้ดี ดึงลูกหลานมาซึมซับธุรกิจตั้งแต่เด็ก หลายบริษัทไม่ให้ลูกหลานอยู่ในตำแหน่งสูงตั้งแต่ต้น ให้ทำงานตำแหน่งล่างๆ ที่เป็นหัวใจของธุรกิจก่อน เช่น บริษัทน้ำดื่มส่งรุ่นลูกเป็นเจ้าหน้าที่เกาะรถส่งน้ำตามจุดจำหน่าย เพราะตัวแทนจำหน่ายเป็นหัวใจธุรกิจ

กรณีครอบครัวขนาดใหญ่ส่งต่อธุรกิจต้องวางโครงสร้างบริหารให้ชัด ลูกหลานที่ไม่เหมาะบริหารให้กันเป็นผู้ถือหุ้น รับรู้ธุรกิจ มีความเป็นเจ้าของแต่ไม่มีสิทธิบริหาร ลูกหลานที่บริหารงานได้ให้แบ่งธุรกิจเป็นส่วนย่อยให้แต่ละคนดูแลโดยยังรวมอยู่ใต้บริษัทเดียว หากไม่แบ่งบริษัทย่อยก็วางสายงานรับผิดชอบแยกให้ชัด ไม่ให้เกิดความแตกร้าว

ยิ่งบริษัทใหญ่ ครอบครัวใหญ่ การส่งต่อธุรกิจสู่อีกรุ่นจะยากขึ้น การเตรียมพร้อมที่ดีแต่เนิ่นๆ เท่านั้นที่ช่วยให้ส่งต่อธุรกิจสำเร็จได้

ข่าวล่าสุด

กนง. เปิดเกมผ่อนคลายเต็มรูปแบบ ดอกเบี้ยขาลงรับเศรษฐกิจแผ่ว จับตาลดอีกเหลือ 1.0% ต้นปี 2569