ปัญหาธงแดงICAOลากยาวปีหน้า
"ประจิน" รับแผนปลดล็อคธงแดง ICAO เสร็จไม่ทันต.ค.นี้อาจลากถึงปี59 เหตุแผนงานล่าช้า ยังหาผู้เชี่ยวชาญไม่ได้ ส่วน FAA ขอตรวจ 13 – 17 ก.ค.นี้
"ประจิน" รับแผนปลดล็อคธงแดง ICAO เสร็จไม่ทันต.ค.นี้อาจลากถึงปี59 เหตุแผนงานล่าช้า ยังหาผู้เชี่ยวชาญไม่ได้ ส่วน FAA ขอตรวจ 13 – 17 ก.ค.นี้
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับกรมการบินพลเรือน (บพ.) เพื่อพิจารณาการปรับแผนการดำเนินการเพื่อนำไปสู่การแก้ไขข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัยด้านการบิน (SSC) ตามที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ(ICAO) ตรวจสอบเพื่อนำไปสู่การปลดล็อคธงแดง โดยเฉพาะการออกใบอนุญาตสายการบิน (AOC)ทั้ง 28 สายการบินใหม่ ว่า จะล่าช้าจากแผนเดิมที่กำหนดว่าจะเริ่มตรวจสายการบินตั้งแต่ 11 ก.ค.- ต.ค.2558 คาดว่า จะเริ่มตรวจได้กลางเดือน ส.ค.นี้ไปแล้วเสร็จหลังปีหน้า ในขณะที่ปัญหาใหญ่คือขณะนี้ยังไม่สามารถหาผู้เชี่ยวชาญที่จะเข้ามาทำหน้าที่ในการฝึกอบรมให้กับเจ้าหน้าที่ที่จะตรวจสอบเพื่อออกใบอนุญาตสายการบินใหม่ทั้งหมด 28 สาย ในขณะเดียวกันต้องรอผลการตรวจสอบจาก FAA ระหว่างวันที่ 13 – 17 ก.ค.นี้ ว่าจะมีข้อเสนอแนะเพื่อนำไปสู่การปรับปรุงแผนในครั้งนี้
“ ก่อนจะเริ่มตรวจสอบสายการบินใหม่ กลางเดือน ส.ค.นี้ จะรอฟังความเห็นจาก FAA ที่จะเข้ามาตรวจสอบก่อน หากมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมจะได้นำมาปรับแผน ซึ่ง FAA จะเข้ามาตรวจสอบวันที่ 13 – 17 ก.ค.นี้ หากพบข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไข จะให้เวลา 65 วัน “ พล.อ.อ.ประจินกล่าว
ในส่วนของการจัดทำคู่มือ ซึ่งประกอบด้วย คู่มือการตรวจสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ FOIM (Flight Operating Inspector Manual ) ซึ่งเป็นคู่มือทางด้านการบินดำเนินการแล้วเสร็จ ส่วน ข้อกำหนดเกี่ยวกับผู้ดำเนินการทางอากาศ AOCR ( Air Operating Certification Requirement) ซึ่งเป็นคู่มือเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตการบินจัดทำแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างรอรับฟังความคิดเห็นอีก 1 สัปดาห์ คาดว่าจะประกาศใช้ได้หลังสัปดาห์แรกของเดือน ก.ค.นี้ หลังจากนั้นจึงจะเริ่มดำเนินการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ซึ่งมีทั้งสิ้น 8 หลักสูตร แต่ปัญหาใหญ่ในขณะนี้คือ บพ.ไม่สามารถหาผู้เชี่ยวชาญที่จะเข้ามาทำการฝึกอบรมตามคู่มือใหม่ที่ผ่านการรับรองจาก ICAO หลังจากที่ทางสิงค์โปร์และญี่ปุ่นได้ปฏิเสธ ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดผู้เชี่ยวชาญจากประเทศออสเตรเลีย และ ICAO จากประเทศแคนาดา
นอกจากนี้ ในส่วนเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบ AOC หรือ AOCR ในส่วนของ บพ.มีเจ้าหน้าที่รวม 19 คน จะต้องมีการจัดหาผู้เชี่ยวชาญที่มีคุณสมบัติและได้รับการรับรองตามที่ ICAO กำหนด อยู่ระหว่างประสานติดต่อผ่านทาง ICAO เพื่อจ้างผู้เชี่ยวชาญจาก ICAO หรือเรียกว่า TCB (Technical Cooperation Bureau) เข้ามาช่วยดำเนินการตรวจสอบในการออกใบรับรองอนุญาตให้กับสายการบินทั้งหมด 28 สาย โดยในขั้นตอนการตรวจสอบจะแบ่งออกเป็น 5 ทีม ทีมละ 4 คน
ส่วนการตรวจสอบสายการบินจะแบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มเอ มี3 สายการบิน คือ การบินไทย, ไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์ ,นกสกู๊ต กลุ่มบี มี 5 สายการบิน คือ ไทยสมายล์ บางกอกแอร์เวย์ ไทยแอร์เอเชีย อาร์แอร์ไลน์ ไทยเวียตเจ็ท กลุ่มซี มี 5 สายการบิน นกแอร์ ไทยไลออนแอร์ สบายดี สยามแอร์ ซิตี้แอร์ กลุ่มดี มี 5 สายการบิน คือ บิสซิเนสแอร์ โอเรียนท์ไทย เจ็ทเอเชีย เอเชีย แอตแลนติกแอร์ไลน์ (AAA) เอเชี่ยนแอร์ กลุ่มอี เป็นสายการบินคาร์โก้ มี 2 สายการบิน คือ ไทยเอ็กซ์เพรส และ เคมายล์ ส่วนกลุ่มเอฟ มี 8 สายการบิน ซึ่งเป็นแอร์แท็กซี่ทั้งหมด
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า แนวทางที่จะนำไปสู่การปลดล็อคธงแดงจาก ICAO เมื่อไร ไม่สามารถกำหนดได้ เนื่องจากการดำเนินการล่าช้ากว่าแผนเดิม รวมทั้งเคยมีกำหนดจะเชิญ ICAO เข้ามาตรวจสอบภายใน 9 ก.ย.นี้ คาดว่าจะต้องเลื่อนออกไป อย่างไรก็ตามการปลดล็อคครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องรอการตรวจสอบสายการบินใหม่ทั้งหมด 28 สาย หากมีการตรวจสอบในระดับหนึ่งและมีความมั่นใจเพียงพอว่าเป็นไปตามมาตรฐานก็สามารถติดต่อทาง ICAO ให้เข้ามาตรวจสอบได้และอาจมีการปลดล็อคเร็วกว่ากำหนด
ด้านนายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทย กล่าวว่า แม้แผนการตรวจสอบการอออกใบอนุญาตสายการบินซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะนำไปสู่การปลดล็อคจาก ICAO จะล่าช้าไปจากแผนเดิมที่กำหนด ก็เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อแผนการบิน ทุกอย่างเป็นไปตามปกติ


