หัวเฉียวบูมหมอจีน

หัวเฉียวแผนจีน เดินหน้าลงทุนคลังยา-เพิ่มสาขาคลินิก รับกระแสแพทย์ทางเลือกนิยม

นายอร่าม เอี่ยมสุรีย์ ผู้อำนวยการคลินิกหัวเฉียวไทย-จีน แพทย์แผนไทย แพทย์แผนจีน เปิดเผยว่า ได้เปลี่ยนระบบซื้อยาจีนจากเดิมซื้อกับตัวแทนขาย เป็นศึกษาแหล่งผลิตและซื้อตรงแหล่งผลิตยาในจีน เพื่อให้ได้ต้นทุนยาถูกลง ได้ยามีคุณภาพ หลังจากนี้จะสร้างคลังเก็บยารองรับ โดยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เตรียมพื้นที่ 4 ไร่ย่านปากเกร็ดให้

นอกจากนี้ มีแผนขยายสาขาคลินิกหัวเฉียวฯ แพทย์แผนจีน เพิ่มทางภาคตะวันออก ทำเลที่สนใจสุดคือ ชลบุรี ซึ่งห่างโรงพยาบาลสากลไม่เกิน 1 กิโลเมตร เพื่อเชื่อมให้ผู้ป่วยวิเคราะห์โรคที่โรงพยาบาลสากล แล้วมาหาแพทย์ทางเลือกที่คลินิกได้ แต่ต้องรอสาขานครราชสีมาที่เพิ่งเปิดเลี้ยงตัวเองได้ก่อน

"ที่ผ่านมาลงทุนขยายสาขานครราชสีมาไปกว่า 100 ล้านบาท เนื่องจากคนภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาใช้บริการคลินิกในกรุงเทพฯ สูงสุด หลังเปิด 1 ปีเศษ มีผู้ใช้บริการ 70-80 คน/วัน คาดปลายปีนี้ถึง 100-120 คน/วัน ทำให้รายรับรายจ่ายสมดุล ขณะที่คลินิกในกรุงเทพฯ มีคนใช้บริการกว่า 400 คน/วัน ปีที่ผ่านมา 1.6 แสนคน/ปี ปีนี้คาด 1.8 แสนคน เพิ่ม 12.5% รายได้รวมจากกรุงเทพฯ และนครราชสีมา ทั้งปีนี้น่าจะทำได้ 200 ล้านบาท เพิ่ม 5-10% จากปีก่อน" นายอร่าม กล่าว

สำหรับภาพรวมบริการแพทย์แผนจีนโตแบบค่อยเป็นค่อยไป มีอุปสรรคจากไม่สามารถนำค่าใช้จ่ายรักษาไปเบิกราชการหรือประกันสังคมได้ ต้องใช้เงินส่วนตัว การเติบโตมาจากการบอกต่อปากต่อปาก รวมทั้งคลินิกรุกให้ข้อมูลผ่านเว็บไซต์เพิ่ม ทำให้มีคนรุ่นใหม่สนใจแพทย์ทางเลือกมาใช้บริการเพิ่ม และมีต่างชาติถึง 10% ของผู้ใช้บริการรวม

แผนกที่นิยมสุดคือ ฝังเข็ม รองลงมาคือ อายุรกรรม ที่เหลือเป็นแผนกกระดูกและนวด โดยเป็นแพทย์แผนจีนแห่งเดียวที่แบ่งอายุรกรรมเฉพาะทางต่างๆ มีบริการแพทย์แผนจีนสมบูรณ์สุดรองจากจีน

ทั้งนี้ ในโอกาสครบ 20 ปี เตรียมจัดประชุมวิชาการและนิทรรศการ 5 ก.ค.นี้ แสดงศักยภาพเปิดโลกงานบริการแพทย์แผนจีน เชิญผู้ทรงคุณวุฒิด้านแพทย์ทั้งไทยและจีน รัฐและเอกชนร่วม ที่อาคารคลินิกหัวเฉียวฯ แพทย์แผนจีน