"วรรณ" คลอดกองทุนชารีอะห์ลงทุนหุ้นไทย
บลจ.วรรณ คลอดกองทุนชารีอะห์ ลงทุนหุ้นไทยตามหลักศาสนาอิสลาม ตั้งเป้าผลตอบแทน 6% ใน 1 ปี
บลจ.วรรณ คลอดกองทุนชารีอะห์ ลงทุนหุ้นไทยตามหลักศาสนาอิสลาม ตั้งเป้าผลตอบแทน 6% ใน 1 ปี
นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ เปิดเผยว่า บลจ.วรรณออกกองทุนเปิดวรรณ กองทุนคุณธรรม (ชะรีอะห์) 6 ฟันด์ (ONE-SHARIAH6) ลงทุนหุ้นตามหลักศาสนาอิสลาม เสนอขายครั้งแรกวันที่ 18-26 พ.ย.2558 นี้ ตั้งเป้าเลิกโครงการ 6% ภายใน 12 เดือน
ปัจจุบันช่องทางการออมและการลงทุนตามศาสนาอิสลามค่อนข้างจำกัด โดยค่อนข้างกระจุกตัวอยู่ในการฝากเงินในธนาคารพาณิชย์ อย่างเช่น ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ทำให้ บลจ.วรรณ ได้พิจารณาเพิ่มทางเลือกการลงทุนให้กับกลุ่มผู้ลงทุนที่ต้องการช่องทางการลงทุนที่ถูกต้องตามหลักศาสนา โดยเน้นการคัดเลือกหลักทรัพย์ที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการชะรีอะห์ ซึ่งประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน ได้แก่ อาจารย์อรุณ บุญชม ผู้ทรงคุณวุฒิสำนักจุฬาราชมนตรี ประธานคณะกรรมการชะรีอะห์ นายอนัส อมาตยกุล ประธานที่ปรึกษาด้านชะรีอะห์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยและนายมานพ อาดัม หัวหน้าสาขาวิชาภาษาอาหรับ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สำหรับภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในช่วงระยะสั้นยังคงมีโอกาสผันผวนต่อเนื่องและมีมูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากนักลงทุนยังรอดูปัจจัยบวกในตลาดเพิ่ม โดยเฉพาะปัจจัยภายในประเทศ เช่น ความคืบหน้าของโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐและผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในไตรมาสที่ 1/2558 ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เหลือ
นอกจากนี้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประกาศตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2558 ขยายตัว 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งจาก 3-4 เดือนก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะเติบโต 5% ลดลงไปเกือบครึ่งตอกย้ำเศรษฐกิจไทยค่อนข้างชะลอและการเติบโตไม่ได้เป็นไปตามคาดหวัง แต่จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่สูงซึ่งเป็นปัจจัยหลักทำให้เศรษฐกิจไทยขับเคลื่อนซึ่งดีกว่าที่คาด จึงคาดว่าในครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้น
"แม้ในช่วงสั้นตลาดหุ้นไทยอาจปรับตัวผันผวน แต่เชื่อว่าหุ้นไทยยังพลิกกลับมาฟื้นตัวได้จากปัจจัยพื้นฐานที่ทยอยฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ หากภาครัฐสามารถดึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับคืนมาได้ โดยเฉพาะการเร่งผลักดันการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งแนวโน้มของการส่งออกที่น่าจะฟื้นตัวได้ครึ่งหลังของปีจากเงินบาทอ่อนค่า โดยมองดัชนีมีโอกาสเคลื่อนไหวในกรอบ 1,400-1,670 จุดและปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,700 จุดได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้”นายวิน กล่าว
ด้านนายอนัส อมาตยกุล ประธานที่ปรึกษาด้านชะรีอะห์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การลงทุนตามหลักศาสนาอิสลามปัจจุบันยังมีข้อจำกัดบางประการ ส่งผลให้ผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามอาจไม่สามารถลงทุนในหุ้นที่เข้าข่ายต้องห้ามได้ เนื่องจากมีหลักการลงทุนแตกต่างไปจากศาสนาอื่นๆ เช่น การห้ามลงทุนในหลักทรัพย์ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับดอกเบี้ย (Riba) รวมถึงหุ้นจากบริษัทที่มีรายได้จากดอกเบี้ย การห้ามลงทุนที่เกี่ยวข้องการการพนัน (Maisir) เช่น การเล่นไพ่ หรือธุรกิจพนันต่างๆ เช่น บริษัทล็อตเตอรี่ออนไลน์ บริษัทที่ให้บริการเครื่องเล่นเสี่ยงโชค หรือการกระทำใดๆ ก็ตามที่ไม่ได้ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลมาก่อนหน้า
นอกจากนี้ห้ามลงทุนธุรกิจที่ขัดต่อหลักศาสนาอิสลาม เช่น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุรา สิ่งมึนเมา คาราโอเกะ สุกร คาสิโน เป็นต้น รวมทั้งห้ามลงทุนที่เกี่ยวข้องกับความไม่แน่นอน (Gharar) ซึ่งการลงทุนในกองทุนรวมเป็นทางเลือกหนึ่งในการลงทุนตามหลักศาสนาโดยใช้หลักการแต่งตั้งตัวแทนหรือวะกาละห์ในการบริหารจัดการกองทุนและนำเงินไปลงทุนเฉพาะหลักทรัพย์ที่ถูกต้องตามหลักชะรีอะห์ที่คณะกรรมการชะรีอะห์รับรองแล้วเท่านั้น


